ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 140

บทที่140 อย่ามายุ่งกับฉัน

เพราะผู้ชายหน้าไม่อายคนนั้นพอขึ้นรถมาก็จับมือเธอเอาไว้ทันที แถมยังลูบแก้มของเธอ......

ด้านหน้ายังมีสือเย่กับเฉินเจียฉินนั่งอยู่ด้วย จะให้เธอเอาหน้าไปไหว้ไหน ?

ในตอนที่เธอสะบัดมือของคนข้างๆที่ยื่นมาเป็นครั้งที่N ผู้ชายหน้าไม่อายคนนั้นก็หัวเราะออกมาทีหนึ่ง “วันนี้เธอเป็นเด็กดีมาก ก็เลยอยากจับหน่อยเท่านั้นเอง”

มู่น่อนน่อนมองเขาแล้วยิ้มอย่างไม่เต็มใจ “ฉันเป็นแมวเหรอ พอเห็นว่าเชื่อฟังแล้วจะลูบทีหนึ่งได้”

“แน่นอนว่าไม่ใช่” เฉินถิงเซียวบีบมือของเธอ แล้วพูดว่า “ลูบครั้งเดียวจะไปพออะไร”

มู่น่อนน่อนขยับมุมปาก แล้วหันไปมองอีกสองคนที่อยู่ด้านหน้า

ก็พบว่าสือเย่กับเฉินเจียฉินนั่งนิ่งไม่ไหวติง สายตามองตรงไปด้านหน้า

แต่ไหล่ของทั้งสองคนกลับกำลังกระตุก พวกเขากำลังหัวเราะ!

มู่น่อนน่อนโกรธจนกระแทกเท้าใส่เฉินถิงเซียวทีหนึ่ง

ไม่ได้เจ็บอะไรมาก

แต่เฉินถิงเซียวเองก็รู้ว่าไม่ควรแหย่เธอมากเกินไป

......

ตอนที่รถจอดลงหน้าบ้านพัก มู่น่อนน่อนก็เป็นคนแรกที่ลงจากรถ ราวกับมีผีไล่ตามมาด้านหลัง รีบวิ่งเหมือนโผบินเข้าไปในบ้านพักทันที

เฉินเจียฉินตามไปด้านหลังติดๆ

แต่ด้านหลังกลับมีเสียงที่เหมือนดั่งคำสั่งยมราชสำหรับเขาดังขึ้นมา “เฉินเจียฉิน ไปรอฉันที่ห้องหนังสือ”

เฉินเจียฉินหยุดเท้าลง แล้วหันไปยิ้มให้เฉินถิงเซียวเป็นเชิงอ้อนวอน “พี่ครับ ครั้งหน้าผมจะไม่มีเรื่องต่อยตีอีกแล้ว ผมรู้สึกผิดแล้วครับ”

“อืม” เฉินถิงเซียวตอบรับเสียงหนึ่ง แต่กลับไม่ได้บอกว่าเขาไม่ต้องไปห้องหนังสือแล้ว

ดังนั้น สุดท้ายเฉินเจียฉินก็ยังต้องไปที่ห้องหนังสือ

เขานั่งประหม่าอยู่ในห้องหนังสือครู่หนึ่งแล้ว เฉินถิงเซียวถึงได้ตามเข้ามา

“พูดมาสิ ทำไมถึงไปชกต่อย” เฉินถิงเซียวเดินไปนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเฉินเจียฉิน น้ำเสียงราบเรียบมาก

เฉินถิงเซียวเวลาปกติดูเป็นคนเย็นชา แต่คนที่สนิทกับเขาก็ยังสามารถสัมผัสถึงความเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์ของเขาได้อย่างง่ายดาย

“ก็คือมีปากเสียงกับเพื่อนในห้องนิดหน่อย ก็เลยตีกันขึ้นมา” เฉินเจียฉินพูดจบ ก็พูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง “พี่ครับ ผมรู้สึกผิดแล้ว ต่อไปผมจะไม่ไปต่อยตีกับเพื่อนนักเรียนด้วยกันอีก”

เขาสาบานว่าสำนึกผิดแน่นอนแล้ว แต่ก็ไม่ได้หยุดการไล่ต้อนของเฉินถิงเซียวได้ “ฉันถามว่าทำไมนายถึงไปมีเรื่องชกต่อย”

เฉินถิงเซียวจ้องเฉินเจียฉินตรงๆ ดวงตาสีเข้มสงบนิ่งมองไม่เห็นคลื่นอารมณ์ใดๆ แต่กลับแฝงไปด้วยกลิ่นอายของความคาดคั้น

พอสบตาเข้ากับเขา เฉินเจียฉินก็รู้สึกว่าตัวเองไม่สามารถปิดบังอะไรต่อเฉินถิงเซียวได้

แต่ว่า เขารู้ดีที่สุด ว่าถ้าเฉินถิงเซียวได้ยินคำพูดพวกนั้นแล้ว จะต้องเสียใจมากแน่ๆ

เฉินเจียฉินไม่พูดอะไร เฉินถิงเซียวก็ไม่ได้เร่งเขา

ตอนเฉินเจียฉินเด็กๆมีช่วงหนึ่งที่เขาอยู่กับเฉินถิงเซียวตลอด เขาชอบก่อเรื่องมาตั้งแต่ตอนนั้น ชอบทิ้งเรื่องยุ่งยากไว้ให้เฉินถิงเซียวเก็บกวาดอยู่เรื่อย

แต่ว่า ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาเป็นฝ่ายยอมรับผิด

ส่วนวันนี้ เขากลับเป็นฝ่ายยอมรับผิดเอง ขนาดมู่น่อนน่อนเองก็ยังปิดปากเงียบไม่ยอมพูดถึง

มู่น่อนน่อนผู้หญิงคนนั้นค่อนข้างดื้อรั้น เรื่องเด็กตีกันแบบนี้ ในสายตาของเธอคงจะเป็นเรื่องจริงจัง ดังนั้นก็ไม่มีทางที่จะไม่บอกเขาเลยสักคำ

ตอนแรกที่เธอโทรหาเขา อาจจะแค่โทรมาบอกเขาเรื่องที่เฉินเจียฉินมีเรื่องต่อยตีที่โรงเรียน

แต่เรื่องหลังจากนั้น เธอกลับไม่พูดถึงมันเลยสักคำ

นี่มันน่าประหลาดมาก

“นายไม่พูด ?” เฉินถิงเซียวรออยู่ครู่ใหญ่เขาก็ไม่ยอมเปิดปาก เลยเอ่ยขึ้นอย่างไม่รีบร้อน “งั้นฉันจะโทรไปถามครูประจำชั้นของนายเอง”

เฉินเจียฉินเงยหน้าขึ้นอย่างตกใจ “อย่านะครับ!”

ถ้าหากเฉินถิงเซียวโทรไปถามครูประจำชั้นล่ะก็ ครูประจำชั้นจะต้องพูดแน่นอน และเรื่องแบบนี้หากถูกคนอื่นพูด สู้เขาพูดเองยังจะดีกว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม