ตอนแรกนั้นเฉินอินหย่าได้ย้ายงานไปเป็นพิธีกรที่สถานี ฉินสุยซานไม่ได้รู้สถานะของเฉินอินหย่าชัดเจนเท่าไหร่นัก
นึกไม่ถึงว่าเฉินอินหย่าก็เป็นคนตระกูลเฉินด้วย
แต่ถึงเฉินอินหย่าจะจัดว่าเป็นคนตระกูลเฉินด้วยแล้วมันจะยังไง ทั้งตระกูลเฉิน นอกจากเฉินถิงเซียวลูกหลานทั้งสามคนแล้ว คนที่แซ่เฉินคนอื่นมันก็แค่นั้นเอง
ฉินสุยซานไม่ได้มองเฉินอินหย่าอยู่ในสายตา
“จริงๆก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันหรอก แต่ตอนนี้เธอเป็นคนใช้ ฉันขอสั่งให้เธอรินน้ำให้ฉันเดี๋ยวนี้” เฉินอินหย่าเชิดคาง น้ำเสียงฟังดูได้ใจสุดๆ
ในใจของฉินสุยซานรู้สึกไม่พอใจออกมา และก็ไม่ได้ขยับไปในทันที
เพราะถึงยังไงเธอแทรกซึมเข้ามาในกลุ่มสาวใช้เข้ามาในวิลล่าของเฉินถิงเซียว ก็เพื่อเข้าหาเฉินถิงเซียว เธอเคยคิดว่าจะถูกมู่น่อนน่อนใช้งาน แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าจะมาถูก คนที่เคยเป็นศัตรูของตนอย่างเฉินอินหย่ามาสั่งได้
เฉินอินหย่าเห็นฉินสุยซานไม่ขยับ ก็ได้หันมองไปทางมู่น่อนน่อนอย่างออดอ้อน “พี่สะใภ้สาม นี่คือคนใช้ที่เพิ่งมาใหม่ของบ้านพวกพี่สินะ? ฉันสั่งให้เธอรินน้ำให้ฉันเธอก็ไม่ยอมทำ...”
“มาใหม่นั่นแหละ” มู่น่อนน่อนแสยะยิ้มออกมา รอยยิ้มไปไม่ถึงดวงตา “แต่เป็นคนที่คุณปู่ส่งมาน่ะ”
เฉินอินหย่าสำลักออกมา เธอนึกไม่ถึงว่าเฉินอันหลินจะเอาใจใส่มู่น่อนน่อนขนาดนี้ ยังตั้งใจส่งสาวใช้มาให้โดยเฉพาะด้วยอีก
“ถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่คุณปู่ส่งมา นั่นก็ควรจะมีความเป็นสาวใช้หน่อยสิ” เฉินอินหย่าเลิกคิ้วมองไปทางฉินสุยซาน สายตามีความเยือกเย็นพาดผ่านออกมา
ฉินสุยซานเคยมีการกระทบกระทั่งกันกับเฉินอินหย่า รู้ว่าเฉินอินหย่าไม่ใช่คนที่น่าต่อกรด้วยเท่าไหร่นัก
เธอเห็นว่าการแสดงออกของเฉินอินหย่ามันไม่ใช่แล้ว จึงยกเท้าเตรียมที่จะถอยไปข้างหลัง
แต่ทว่า การเคลื่อนไหวของเธอมันก็ยังช้ากว่าเฉินอินหย่าไปก้าวนึง
เพี๊ยะ!
เสียงดังกังวานดังขึ้นมาทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ เรียกสายตาของสาวใช้คนอื่นๆให้มองเข้ามาทางนี้
แม้แต่มู่น่อนน่อนเอง ก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเฉินอินหย่าอย่างประหลาดใจไปแวบนึง
เฉินอินหย่าแสยะยิ้มออกมาเล็กน้อย ยิ้มออกมาใบหน้าที่เต็มไปด้วยความดูถูก “แม้แต่ความรับผิดชอบในฐานะคนใช้ที่พึงปฏิบัติคนนึงก็ยังไม่เข้าใจ วันนี้ฉันจะสั่งสอนเธอให้อย่างดีเลย”
พื้นฐานครอบครัวของทั้งสองคนพอๆกัน การชิงดีชิงเด่นกันระหว่างผู้หญิงที่มีหน้าตาพอๆกันมันดุเดือดมาก
ทั้งๆที่ก็ไม่ได้มีใครแย่ไปกว่าใคร แต่กลับจะต้องมาแบ่งความสูงต่ำ นี่มันค่อนข้างจะน่าสะเทือนใจอยู่บ้าง
“เฉินอินหย่า แกกล้าตบหน้าฉัน!” ฉินสุยซานจับหน้าตัวเอง จี๊ดจนฉีกฟันสูดปากออกมา
อาหูไม่รู้ว่าโผล่มาจากตรงไหน ดึงมู่น่อนน่อนถอยออกไปข้างหลัง “คุณผู้หญิงคะ คุณระวังหน่อยค่ะ”
“ไม่เป็นไร” มู่น่อนน่อนไม่ได้ใส่ใจอะไร เธอไม่เชื่อว่าผู้หญิงทั้งสองคนจะยังสามารถตบตีกันขึ้นมาได้
และแล้วข้อเท็จจริงก็ได้รับการยืนยัน เธอประเมินค่ากำลังการสู้รบของผู้หญิงทั้งสองคนนี้ต่ำเกินไป และก็ได้ประเมินการได้รับการอบรมสั่งสอนของพวกเธอสูงเกินไป
“ฉินสุยซาน ฉันให้โอกาสให้แกพูดให้มันดีๆ!” เฉินอินหย่าทนเห็นคนอื่นมาทำเชิดหน้าชูตาหยิ่งจองหองต่อหน้าต่อตาเธอไม่ได้ ยิ่งเป็นฉินสุยซานด้วยแล้ว
ฉินสุยซานหัวเราะเสียงเย็นออกมา “ขอบใจแกแล้วกัน งั้นฉันจะพูดแค่ครั้งเดียวก็พอ คนอย่างแกมันเป็นพวกที่อาศัยเส้นสายถึงได้มีงานที่น่าพอใจได้ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าลงไม้ลงมือกับฉันด้วย!”
เฉินอินหย่าหรี่ตาลงเล็กน้อย ในดวงตามีแววตาชั่วร้ายแวบผ่านออกมา “ดูถูกฉัน? แล้วมันจะยังไง? สุดท้าย ก็เลือกฉันนี่!”
คำพูดของเธอได้ทิ่มแทงไปตรงจุดเจ็บของฉินสุยซานเข้าไปอย่างจังทันที
“นังแพศยา!”
ฉินสุยซานด่าออกไปคำนึง แล้วก็ได้กระโจนเข้าใส่เฉินอินหย่าทันที
เฉินอินหย่าคาดไม่ถึงว่าฉินสุยซานจะลงไม้ลงมือออกมาตรงๆ ตัวเธอถูกฉินสุยซานชนลงไปกับพื้นอย่างแรง
ท่าทางแยกเขี้ยวยิงฟันของฉินสุยซานมองดูชั่วร้ายอยู่บ้าง ดูไปแล้วก็เหมือนจะโกรธสุดๆ
เธอคร่อมอยู่บนร่างของเฉินอินหย่า ดึงส่วนหน้าของเสื้อเฉินอินหย่าเอาไว้ ส่วนอีกมือนึงก็จับหน้าของเฉินอินหย่าเอาไว้ แล้วก็ยังกระชากไปยันเส้นผมของเธอ
“อ้ากก! ! ฉินสุยซานแกปล่อยนะ!” เฉินอินหย่าไม่รู้อะไรเลยสักนิด รู้เพียงแค่ยื่นมือออกไปป้องหน้าเอาไว้ ป้องหน้าเอาไว้ยังต้องไปป้องผมไปด้วย...
สุดท้าย ไม่ว่าจะตรงส่วนไหนก็ปกป้องเอาไว้ไม่ได้ ได้ถูกฉินสุยซานได้เปรียบไปโดยสมบูรณ์
เมื่อก่อนตอนที่มู่น่อนน่อนเรียนอยู่ ก็ถูกเสิ่นเหลียงพาไปทะเลาะวิวาท ปกติแล้วจะเป็นการยกเก้าอี้ขึ้นไปทุบบนตัวคนอื่น หลังจากที่ขึ้นมหาวิทยาลัยแล้วก็ไม่ได้มีโอกาสได้ทะเลาะวิวาทเลย
เธอเห็นเฉินอินหย่ากับฉินสุยซานตบตีกันเสียมันส์ขนาดนี้ ก็เกิดแรงกระตุ้นให้คอยเชียร์พวกเธอขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...