ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 228

มู่น่อนน่อนมองอยู่ตรงหน้าประตู เห็นเด็กสาวทั้งสองคนที่จากเดิมสวยเหมือนอย่างกับหยกมาลี ด่าว่ากันข้ามเตียงด้วยสภาพจมูกเขียวช้ำหน้าบวมเป่ง

เธอนึกไม่ถึงว่าทั้งสองคนจะตบตีกันได้รุนแรงขนาดนี้

นึกว่าทั้งสองคนนี้อย่างมากจะแค่ทึ้งผมกัน ขย้ำหน้ากันนิดหน่อยก็พอแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังมีการลงมวยกันขึ้นมา สุดท้ายแล้วก็ต้องเรียกการ์ดมาพวกเธอถึงได้หยุดกัน

มู่น่อนน่อนขี้เกียจเข้าไปฟังพวกเธอด่ากัน จึงหันไปพูดกับการ์ดที่อยู่ข้างหลัง “คอยดูหน่อยนะ”

จากนั้น เธอก็เดินไปนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ตรงทางเดิน รอให้เฉินถิงเซียวมา

เพียงไม่นานก็มีพยาบาลเดินเข้ามา ถามเธอออกมาด้วยความนอบน้อม “คุณผู้หญิงคะ พวกเรามีห้องสำหรับพักผ่อนโดยเฉพาะ คุณผู้หญิงต้องการจะเข้าไปพักหรือเปล่าคะ?”

“ไม่ต้องหรอก ขอบคุณนะ” มู่น่อนน่อนโบกมือปฏิเสธออกไป

……

ตอนที่เฉินถิงเซียวมา ฉินสุยซานกับเฉินอินหย่าต่างก็ใส่ยาทำแผลกันไปพอประมาณนึงแล้ว

ทั้งสองคนถึงแม้ว่าจะลงมือกันไปแบบไม่ยั้งมือ แต่ยังไงก็ยังมีคนมองอยู่ แล้วเรี่ยวแรงผู้หญิงมันก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก สุดท้ายมันก็มีเพียงแค่บาดแผลภายนอกนิดหน่อยเท่านั้น

แต่ทว่า สภาพจมูกเขียวหน้าบวมนั้นมันก็พอที่จะดูแย่พอแล้ว

ทันทีที่เฉินถิงเซียวเห็นมู่น่อนน่อน ก็รีบสาวเท้าเดินเข้ามาหาเธอ นัยน์ตาดำสนิทคู่นั้นล็อกสายตามาที่เธอ กวาดตามองสำรวจไปมาอยู่บนร่างของเธอหลายรอบ กว่าจะสบายใจลงได้

เขาเลยถามเธอออกมา “พวกเธอบาดเจ็บกันยังไงบ้าง?”

ฉินสุยซานกับเฉินอินหย่าก็ได้เดินออกมาจากห้องผู้ป่วยพอดี มู่น่อนน่อนบุ้ยปากไปทางที่พวกเธออยู่ “คุณดูเองสิ”

“พี่สาม พี่ดูสิฉันถูกมันตบจนเป็นอย่างนี้...”

เฉินถิงเซียวหันหน้าไป สิ่งที่เข้ามาในดวงตาก็คือใบหน้าที่ทั้งช้ำเขียวทั้งบวมเป่งนั้นของเฉินอินหย่า

ถึงแม้ว่าเฉินถิงเซียวจะดูสงบนิ่งแค่ไหน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย ในน้ำเสียงประดับไปด้วยความไม่แน่ใจเท่าไหร่ที่หาได้ยากจากเขา “เฉินอินหย่า?”

“ใช่ค่ะ พี่สาม ฉันอินหย่าเองค่ะ” เฉินอินหย่าเห็นเฉินถิงเซียวเรียกชื่อตัวเองออกมา ใบหน้าก็แสดงอารมณ์ที่อยู่ไม่สุขออกมา

เฉินถิงเซียวถอยหลังออกไปก้าวนึงพยายามระงับอารมณ์และคำพูดเอาไว้ จากนั้นก็มองไปยังฉินสุยซานที่อยู่ทางด้านหลังของเฉินอินหย่า

อาการของฉินสุยซานไม่ได้ดีไปกว่าเฉินอินหย่าเลย แต่ตอนที่เฉินถิงเซียวมองเธอ เธอกลับใช้มือมาบังหน้าตัวเองเอาไว้ เหมือนกับว่าจะอายอยู่เล็กน้อย หันหน้าออกไปอีกทางนึง

มู่น่อนน่อนสังเกตเห็นการกระทำเล็กๆนี้ของฉินสุยซาน ยกมือขึ้นมาปิดอยู่ตรงริมฝีปาก กลั้นหัวเราะเอาไว้

เฉินถิงเซียวฉลาดเสียตั้งขนาดไหน คิดรอบเดียวก็คาดเดาได้ทันทีว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ความแค้นระหว่างผู้หญิงมันก็เรื่องนึง ถ้ามู่น่อนน่อนไม่อยากให้ทั้งสองคนทะเลาะกัน ทั้งสองคนจะต้องทะเลาะกันไม่ได้แน่

ฉินสุยซานกับเฉินอินหย่าทั้งสองคนทะเลาะกันจนกลายเป็นแบบนี้ มันจะต้องมีการผสมโรงของมู่น่อนน่อนเข้าด้วยแน่ๆ

มู่น่อนน่อนผู้หญิงคนนั้น ดูเผินๆแล้วเหมือนจะเป็นคนรู้ความและสุขุม แต่ความจริงแล้วเป็นคนที่ชอบมองดูปัญหาแล้วคอยเติมเชื้อเพลิงให้เรื่องมันใหญ่โตกว่าเดิม ในนิสัยลึกๆนั้นยังมีความเหมือนเด็กอยู่บ้างเล็กน้อย

เฉินถิงเซียวเอ่ยนิ่งๆออกมา “ในเมื่อไม่เป็นไรแล้ว ก็กลับไปเถอะ”

เฉินอินหย่านึกไม่ถึงว่าทันทีที่เฉินถิงเซียวเปิดปากพูดออกมาก็ได้บอกให้เธอกลับออกมาโต้งๆ หรือว่าจะไม่ช่วยเธอระบายความแค้นเลยหรือไง?

ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอกับเฉินถิงเซียวจะไม่สนิทกัน แต่ร้ายดียังไงทั้งสองคนก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แซ่เฉินเหมือนกันนะ

เธอถูกฉินสุยซานตบตี ไม่ว่ายังไงเฉินถิงเซียวจะต้องช่วยเธอระบายความโกรธสิถึงจะถูก!

“พี่สาม ฉินสุยซานมัน...”

เฉินถิงเซียวรู้ความคิดสกปรกพวกนั้นของเฉินอินหย่า แต่ผู้ที่จะออกความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้มากที่สุดเลยก็คือมู่น่อนน่อน แน่นอนว่าเขาไม่มีทางจะช่วยใครระบายความโกรธได้อยู่แล้ว

เขามองไปทางเฉินอินหย่าด้วยใบหน้าที่ไร้อารมณ์ “ใครลงมือก่อน?”

เฉินอินหย่ายังคงกลัวเขาอยู่บ้าง พอถูกเขากวาดสายตามองมาอย่างเย็นชาอย่างนี้แล้ว ความโอหังก็ได้อ่อนลงไปในทันที พร้อมพูดออกไปเบาๆ “เป็นฉินสุยซาน”

เธอพูดจบ ก็เหลือบมองมู่น่อนน่อนไปอย่างระวัง ทั้งยังส่งสายตาข่มขู่ไปให้มู่น่อนน่อนอีกด้วย

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่ามันช่างน่าตลกเสียจริง

ความจริงเธอก็ได้หลุดยิ้มออกมาแล้ว

เธอจ้องมองเฉินอินหย่าไปเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม คุณเฉินคนนี้โตขนาดนี้แล้วก็คงโตแค่ตัว แต่สมองไม่ได้โตตามตัวไปด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม