เฉินถิงเซียวถูกถามออกมาจนรำคาญ หันไปจับคางเธอแล้วจูบไปทีนึง “พอแล้ว”
“...” เธอไม่ปล่อยให้เขาจูบเธออีก
เฉินถิงเซียวมองมู่น่อนน่อนที่แสดงสีหน้าตื่นตกใจออกมาด้วยความพอใจ มุมปากยกยิ้มออกมาเหมือนไม่มีอะไร จูงมือเธอเดินออกไปข้างหน้า
ฟู้ถิงซีกับสือเย่ต่างก็กำลังรอพวกเขากันอยู่
“คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง”
“ถิงเซียว”
มู่น่อนน่อนพยักหน้าให้กับสือเย่เล็กน้อย จากนั้นก็หันไปทักทายฟู้ถิงซี “ทนายความฟู้”
ฟู้ถิงซีส่งยิ้มกลับมาด้วยใบหน้าที่ดูสบายๆ จากนั้นก็เดินไปข้างๆเฉินถิงเซียวเพื่อคุยเรื่องคดีกับเขา
“เพราะว่าเรื่องครั้งนี้มันเป็นกรณีพิเศษ ในขีดจำกัดสูงสุด ก็ทำได้แค่เพียงให้มู่หวั่นขีโดนตัดสินโทษจำคุกไปสามปีเท่านั้น...” ฟู้ถิงซีพูดแล้วพลางมองมายังมู่น่อนน่อนเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนก้มหน้าลงมองตัวเอง “ทำไมคะ?”
คนกลุ่มนั้นไม่ได้เดินเข้าไป จู่ๆฟู้ถิงซีก็หยิบผ้าก็อซออกมาจากในกระเป๋าใส่เอกสารของตัวเองส่งให้เฉินถิงเซียว “พันเอาไว้”
นี่แน่นอนว่าไม่ได้ให้เฉินถิงเซียวเป็นคนพัน แต่กำลังบอกให้มู่น่อนน่อนพัน
เฉินถิงเซียวขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย “ไม่ต้อง”
ฟู้ถิงซียักไหล่ออกมาเล็กน้อย “เดิมทีพวกเราก็ไม่ได้บาดเจ็บอะไรกัน คดีในครั้งนี้เหมือนว่าจะง่าย แต่ฉันก็จัดการลำบากสุดๆไปเลยนะ ช่วยร่วมมือกันสักหน่อยสิ?”
เฉินถิงเซียวเอ่ยเสียงเย็นออกมา “น่าเบื่อ”
ตอนแรกเขาเองก็ไม่ได้คิดอะไรมากมาย หันหน้าไปมองสือเย่ “สือเย่ กลับรถไปเป็นเพื่อนคุณผู้หญิง”
“ครับ” สือเย่ตอบรับออกมาอย่างนอบน้อม
“งั้นฉันรอคุณอยู่ที่ในรถนะคะ” มู่น่อนน่อนเองก็เข้าใจเส้นทางที่คดเคี้ยวด้านในดี จึงไม่ได้ถามออกไปมากมาย
ตอนที่ดำเนินคดีมู่หวั่นขี ในนามของผู้ที่ต้องโทษจงใจทำร้ายร่างกาย และถ้ามู่น่อนน่อนปรากฏตัวออกไปด้วยสภาพที่ปกติไร้ความเสียหายในศาลมันก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดปัญหาวุ่นวายโดยไม่จำเป็นเพิ่มขึ้นมาอีก
ยิ่งไปกว่านั้นฟู้ถิงซีคนที่เข้มงวดในเรื่องงานมาก เขาไม่มีทางจะปล่อยให้มู่น่อนน่อนปรากฏตัวในศาลอย่างนี้อยู่แล้ว
มู่น่อนน่อนไม่เข้าไปมันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
ส่วนเฉินถิงเซียวกลับไม่ได้สนใจเรื่องนี้เลย คนตระกูลมู่วันนี้ได้มากันหมดทุกคน สิ่งที่เขากังวลก็คือคนตระกูลมู่ควบคุมอารมณ์ไม่อยู่จนไปทำร้ายมู่น่อนน่อนเข้า
ตั้งแต่หลังจากที่เกิดเรื่องมู่หวั่นขีครั้งที่แล้ว เขาก็ไม่กล้าจะชะล่าใจ สะเพร่าออกมาอีก
และที่เขาไม่ปล่อยให้ใครเข้ามาในวิลล่าง่ายๆ มันก็เป็นเพราะเหตุนี้ด้วยเช่นกัน
เขาต้องกำจัดเรื่องที่มันอาจจะทำให้มู่น่อนน่อนได้รับบาดเจ็บไปให้หมด
มู่น่อนน่อนหันหลังเดินกลับไปในรถพร้อมสือเย่ ในตอนที่เดินไปได้ครึ่งทาง ทันใดนั้นเธอก็ได้หันกลับไปมองเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวที่มีรูปร่างสูงชะลูด แม้ว่าจะห่างออกมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงออร่าความน่ากลัวที่ไม่เหมือนใครจากร่างของเขาได้อยู่เลย
นอกจากบางครั้งที่จะมีอารมณ์แปลกๆออกมา เฉินถิงเซียวก็เป็นผู้ชายที่ไร้ที่ติคนนึงเลยทีเดียว
มู่น่อนน่อนในบางครั้งก็รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกับกำลังฝันอยู่เหมือนกัน รู้สึกว่าทั้งหมดนี้มันไม่มีความรู้สึกที่เหมือนจะเป็นความจริงอยู่เลยแม้แต่น้อย
“คุณผู้หญิง?”
เสียงสือเย่ดังขึ้นมา มู่น่อนน่อนได้สติกลับมาทันที จึงได้พบว่าเมื่อกี้นี้เธอมองไปทางเฉินถิงเซียวจนสติล่องลอยไป
“ไปเถอะ” เธอได้สติกลับมา กลับไปที่รถพร้อมกับสือเย่
ภายในรถ มู่น่อนน่อนมองไปทางประตูทางเข้าศาล แล้วถามสือเย่ออกไป “มู่หวั่นขีจะถูกตัดสินโทษจริงๆหรอ?”
“ครับ คุณฟู้ไม่เคยพลาดมาก่อน” น้ำเสียงของสือเย่ฟังดูแน่ใจมาก
มู่น่อนน่อนเอนตัวพิงไปข้างหลัง หยิบโทรศัพท์ออกมาส่งวีแชทบอกเรื่องนี้กับเสิ่นเหลียง
เสิ่นเหลียงรีบตอบข้อความเธอกลับมาทันที “ทำชั่วอะไรเอาไว้ผลกรรมมันจะย้อนกลับมา!”
ใช่แล้ว ธรรมชาติมันมีกฎของมัน
คนที่ทำเรื่องไม่ดีจะต้องได้รับการลงโทษ
เธอนึกถึงเรื่องแม่ของเฉินถิงเซียวขึ้นมาอีกครั้ง ผ่านไปหลายปีอย่างนี้ เธอแอบคิดว่าการที่จะเจอตัวคนร้ายที่อยู่เบื้องหลังนั้นมันยากเกินไป
ยิ่งไปกว่านั้นตัวเฉินถิงเซียวก็เคยพูดออกมาเองว่าคนร้ายตัวจริงที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังคงจะเป็น “ใครสักคนในตระกูลเฉิน” ถึงแม้ว่าถึงตอนนั้นแล้วจะตามหาคนร้ายตัวจริงได้จริงๆ อย่างนั้นแล้วถึงตอนนั้นเขาจะยิ่งเจ็บปวดมากขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...