บทที่239 มีปัญหาแน่ๆ
บางครั้งคนเราก็เป็นอย่างนี้ เพราะไม่เคยทำความผิด หรือคนที่พูดได้ว่าทำผิดมาน้อยสุดๆ ขอเพียงแค่พวกเขาผิดแม้สักเล็กน้อย ก็จะโดนขยายความผิดนั้นออกไปได้เรื่อยๆ
แต่กับคนชนิดที่เลวถึงขั้นแล้ว แค่ทำเรื่องดีๆสักเรื่อง ก็จะถูกขยายออกไปไม่สิ้นสุดเช่นกัน
ส่วนมาก คนเรามักทำใจทนกับคนชั่วได้มากกว่า
มู่น่อนน่อนไม่ค่อยแน่ใจเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของเรื่องร้ายของซือเฉิงหยู้นี้ แต่เธอรู้ ว่าชื่อเสียงของซือเฉิงหยู้จะต้องกระทบหนักอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สุดท้ายเขาก็เป็นนักแสดงที่เธอเป็นแฟนคลับมาหลายปี ในใจของมู่น่อนน่อนเกิดความสับสน
ระหว่างทาง มู่น่อนน่อนอารมณ์เสียเล็กน้อย พอกลับถึงบ้าน เธอถามเฉินถิงเซียวอย่างอดไม่ได้ “เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรอ?”
ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนก็เข้าใจนิดหน่อยแล้ว ตอนก่อนที่ซือเฉิงหยู้จะให้คนแอบถ่ายพาเธอขึ้นการค้นหาร้อนแรง ทำไมเฉินถิงเซียวยังคิดที่จะให้โอกาสซือเฉิงหยู้
เพราะตัวเธอในตอนนี้ ก็เหมือนกับเฉินถิงเซียวในตอนนั้น
ทิ้งตัวตนพี่ชายเฉินถิงเซียวออกไป ซือเฉิงหยู้เป็นนักแสดงที่เธอเป็นแฟนคลับมาเจ็ดแปดปีแล้ว ความจริงเธอไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะฆ่าสัตว์ตัวเล็กได้ลง
ตอนมหาลัยเธอมีรูมเมทคนนึงไม่ชอบสัตว์ตัวเล็กๆ พอเห็นน้องแมวน้องหมาก็จะเดินออกห่าง แต่ก็ไม่เห็นเธอจะไปทำอะไรกับน้องหมาน้องแมวเลย
ในทางจิตวิทยาเคยอธิบายไว้ว่า การฆ่าสัตว์ตัวเล็กๆได้ลง เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่ง
หากไม่สามารถรักษาอาการทางจิตที่บิดเบี้ยวได้ทันเวลา มีแนวโน้มที่เหยื่อจากการฆ่าจะเปลี่ยนจากสัตว์เป็นคน
พูดง่ายก็คือ เป็นโรคจิตชนิดหนึ่ง
“จะจริงหรือปลอม ใครสน?” เห็นได้ชัดว่าเฉินถิงเซียวไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องนี้
ที่เขาสนใจคือผลลัพธ์
เขาเห็นมู่น่อนน่อนขมวดคิ้วท่าทางเหมือนคิดอะไรไม่ออก ครุ่นคิดพักนึง แล้วจึงพูดอย่างจริงจัง “ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ไม่สามารถตัดสินอะไรได้เลยจริงๆ แต่พวกที่อยากจะจัดการกับเขาก็เตรียมพร้อมมาดี พวกเขากล้าปล่อยเรื่องร้ายแบบนี้ออกมา ก็คงไม่กลัวถูกคนจับช่องโหว่ได้หรอก
หาช่องโหว่ไม่เจอ…
“คุณหมายความว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรอ?” สีหน้าของมู่น่อนน่อนเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดต่อในประเด็นนี้ เพียงแค่ตบๆหัวเธอเบาๆ “กลับห้องไปพักก่อนเถอะ”
เขารู้ว่ามู่น่อนน่อนเป็นแฟนคลับของซือเฉิงหยู้ ถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง อาจจะมีผลกระทบต่อเธอ
มู่น่อนน่อนพยักหน้า “อือ”
ที่ถูกต้องคือเธอต้องกลับห้องไปพักผ่อนสักหน่อย
ตอนที่เดินผ่านห้องของเฉินเจียฉิน มู่น่อนน่อนหยุดฝีเท้าลง
ก่อนหน้านั้นพอกลับมาถึง เฉินเจียฉินก็กลับเข้าไปในห้องเลย คือไม่ได้อยู่มานานขนาดนี้เลยรีบไปดูข้างในว่ายังเหมือนเดิมอยู่รึเปล่า
เวลานั้นเอง ประตูห้องก็ถูกคนเปิดออกมาจากด้านใน
“เจ๊น่อนน่อน?” เฉินเจียฉินเห็นมู่น่อนน่อนยืนอยู่ที่ประตู หน้าตาประหลาดใจ
มู่น่อนน่อนฉีกยิ้มจางๆออกมา “ฉันผ่านมาพอดีน่ะ กำลังจะกลับห้อง”
เฉินเจียฉินหลบตาลง ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่ “โอ้ เจ๊กลับห้องมีธุระอะไรรึเปล่า?”
มู่น่อนน่อนมองสังเกตเฉินเจียฉินอย่างละเอียด ถึงเห็นว่าตาของเขาเหมือนจะแดงอยู่นิดนึง
เธอไม่ได้ถามเขาไปตรงๆ แต่กลับพูดว่า “เจ๊ไม่มีธุระ”
เฉินเจียฉินท่าทางเหมือนมีอะไรจะพูดกับเธออย่างชัดเจน แต่แสร้งทำเป็นพูดอย่างสบายๆ “งั้นดูหนังด้วยกันมั้ย?”
“เอาสิ” ความคิดจิตใจของเด็กนั้นยากที่จะปิดให้มิด แต่มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้ไปแทงใจดำเขา
ในคฤหาสน์มีห้องดูหนังอยู่ แต่แค่ปกติมู่น่อนน่อนคนเดียวไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปดู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...