เมื่อมู่น่อนน่อนได้ยินคำเหล่านี้ก็อารมณ์ดีขึ้น
เธอได้ยินว่าเขาได้รับบาดเจ็บ จึงใส่ใจเขา แล้วโทนเสียงของเขาแบบนี้คืออะไร
“เฉินถิงเซียว ให้โอกาสคุณพูดอีกครั้ง” เธอเดินไปหน้าโต๊ะทำงานของเฉินถิงเซียว แล้วตบแผ่นเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้าเขา
เฉินถิงเซียวยื่นมือมาลูบเรียวคิ้ว “ผมยังมีงานต้องทำจริงๆ”
เอาเถอะ เห็นแก่โทนเสียงของเขาที่ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่มาก จึงไม่คิดหยุมหยิมอีก
แต่มู่น่อนน่อนก็ยังไม่สบายใจถึงถามอีกรอบ “คุณไม่บาดเจ็บจริงเหรอ”
“ไม่” ทันทีที่พูดถึงเรื่องนี้ สีหน้าของเฉินถิงเซียวก็ผิดแปลกเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนออกไปอย่างข้องใจ
ตอนลงไปข้างล่าง เธอได้พบกับอาหู
“คุณหญิงน้อย มือของคุณผู้ชายได้รับบาดเจ็บใช่ไหมคะ”อาหูถามด้วยสีหน้าจริงจัง
“เขาไม่ได้มือเจ็บค่ะ”
มู่น่อนน่อนครุ่นคิดแล้วถามเธอว่า “ทำไมอาหูคิดว่าเขามือเจ็บคะ ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันตามเขากลับมาจากบ้านเก่า เขายังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอคะ”
“ก่อนหน้านี้เหรอคะ ตอนแรกฉันเอาน้ำหวานขึ้นไปให้คุณ ปรากฏว่าเผลอไปชนคุณผู้ชายตรงระเบียง ตอนนั้นเขาปกป้องระวังมือของตัวเองมากเลยค่ะ ฉันจึงไตร่ตรองดูแล้วคิดว่าน่าจะมีอาการบาดเจ็บ...”
อาหูพูดจบ ก็บ่นพึมพำกับตัวเองว่า “ต่อให้ไม่มีบาดแผลชัดเจน ก็มีแผลที่ซ่อนไว้...”
มู่น่อนน่อนถามอย่างตกตะลึง “ตรงทางเดินเหรอ เขาเพิ่งออกจากห้องนอนไปที่อื่นเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ” อาหูขมวดคิ้ว สีหน้ายังคงดูกังวล
สมองมู่น่อนน่อนไฟฟ้าลัดวงจรไปหลายนาที จากนั้นก็จ้องอาหูพลางพูดอย่างค่อนข้างไร้วิญญาณ
“ไม่เจ็บจริงเหรอคะ งั้นก็ไม่เป็นไรค่ะ” ได้ยินอาหูพูดอย่างนั้นก็วางใจก่อนจะหันหลังเดินจากไป
หลังจากอาหูเดินไป มู่น่อนน่อนก็มองขึ้นไปข้างบน รู้สึกว่าใบหน้าตัวเองค่อนข้างร้อน ก่อนจะทรุดนั่งลงบนโซฟา
คงจะไม่ใช่เพราะเธอจูบมือเขา เขาจึงระมัดระวังจนเป็นสมบัติล้ำค่าเสมือนว่าได้รับบาดเจ็บใช่ไหม
จริงๆ เลย...
……
ในช่วงเย็น เฉินถิงเซียวรู้สึกว่ามู่น่อนน่อนจ้องมองเขาอยู่ตลอด
สุดท้าย เมื่อมู่น่อนน่อนวางชามลงบนโต๊ะพร้อมกับคีบอาหารอีกครั้ง เฉินถิงเซียวถึงได้เปิดปากพูด “มู่น่อนน่อน คุณเป็นอะไรไป”
“คะ?” มู่น่อนน่อนก้มหน้ามอง เห็นว่าตัวเองกำลังคีบอาหารอยู่ จึงรีบชักตะเกียบกลับ “ทำไมคะอาหารหล่นลงบนโต๊ะอีกแล้วเหรอ”
เฉินถิงเซียวมองเธออย่างเย็นชา สีหน้าของเขาแสดงออกชัดเจนว่า‘กำลังดูคุณเสแสร้งอยู่เงียบๆ’
มู่น่อนน่อนเกิดตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย
เธอก็ไม่อยากฟุ้งซ่านสติหลุดลอยอยู่ตลอดหรอกนะ
เธอเพียงแค่อย่างไรก็คิดไม่ออก โดยปกติแล้วเฉินถิงเซียวที่ดูเย็นชาราวกับภูเขาน้ำแข็ง ทำไมถึงทำเรื่องโง่ๆ แบบนั้นได้
เนื่องจากตอนที่เขาใช้สายตา‘เป็นห่วงคนโง่’มองเธอ ซึ่งเธอรู้สึกว่าแค่เฉินถิงเซียวสามารถมองเธอโดยไม่ใช้สายตารังเกียจก็เอาเธอไปวางไว้ในใจแล้ว
ไม่กล้าคิดเลยว่าเพราะเธอจูบมือเขา เขาจะปกป้องมือขนาดนั้น...
ถ้าเขาทานอาหารเสร็จ คงจะไม่ถึงขนาดไม่กล้าล้างมือหรอกนะ
ความคิดนี้วนวนในสมองมู่น่อนน่อน
ตอนที่เธอทานอาหารเสร็จ เธอจ้องมองเฉินถิงเซียวอย่างใจจดใจจ่อ “ไปล้างมือด้วยกันเอะค่ะ”
เป็นอีกครั้งที่เฉินถิงเซียวใช่สายตา‘เป็นห่วงคนโง่’มอง “คุณควรไปดูหนังกับเสี่ยวฉินดีกว่านะ”
เมื่อพูดจบ เฉินถิงเซียวก็เดินออกจากห้องอาหารไป
“เฮ้!” เฉินเจียฉินยื่นมือออกไปโบกไปโบกมาตรงหน้ามู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนหันหน้าไปมองเขา กำลังจะพูด ก็ถูกเฉินเจียฉินส่ายหน้าเหล่มองอย่างเหยียดๆ “เมื่อครู่ตอนที่คุณมองญาติผู้พี่ ดวงตาแทบจะหลุดออกจากเบ้าอยู่แล้วนะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...