หลังจากที่เสิ่นเหลียงพูดจบ ก็เพิ่งจะมารู้ตัวว่าตัวเองเพิ่งพูดอะไรออกไป
เสิ่นเหลียงก็เป็นคนที่เอาแต่ใจไม่น้อย ต่อให้กู้จือหยั่นจะโกรธเธอยังไงก็ไม่เคยคิดจะทำอะไรเธอ แต่หากเป็นเฉินถิงเซียวมันก็อาจไม่แน่
เฉินถิงเซียวคงไม่มาเห็นอกเห็นใจอะไรเธอ
เสิ่นเหลียงกัดฟัน รู้สึกผิดที่ตัวเองปากไวไป
จากนั้น ไม่นาน เธอก็ได้ยินเสียงอันเคร่งขรึมและน่ากลัวของเฉินถิงเซียวดังขึ้น“ ไหนพูดอีกทีสิ ”
เสิ่นเหลียงจะกล้าพูดมันอีกครั้งได้ยังไง
เธอกังวลจริงๆว่าหากเธอพูดมันไปอีกรอบ คงถูกเฉินถิงเซียวจับโยนออกไปจากตรงนี้แน่ๆ
และในตอนนี้เอง ประตูห้องทำงานของเฉินถิงเซียวก็ถูกผลักออกอย่างแรงจากคนด้านนอก“ปัง”
เสิ่นเหลียงหันกลับไปมอง ก็พบว่าเป็นกู้จือหยั่นที่มีเหงื่อไหลท่วมตัว
เขาดูเหมือนคนที่รีบร้อนตามมา ผมเผ้ายุ่งเหยิง เหนื่อยจนหายใจหอบ
เมื่อเห็นเสิ่นเหลียง เขาก็เดินก้าวขายาวๆเข้ามา แล้วดึงเสิ่นเหลียงไปหลบอยู่ทางด้านหลังของเขาทันที น้ำเสียงดุดันเล็กน้อย“เฉินถิงเซียว ฉันรู้ว่ามู่น่อนน่อนหายตัวไปนายร้อนใจมาก แต่นายมีอะไรก็พูดมาตรงๆจะตามตัวเสิ่นเสี่ยวเหลียงมาทำไม ?”
เขารู้จักนิสัยของเฉินถิงเซียวดี
มู่น่อนน่อนไม่อยู่แล้ว อารมณ์ของเฉินถิงเซียวก็อยู่ในสภาวะที่พร้อมจะระเบิดมันได้ทุกเมื่อ ใครทำให้เขาไม่พอใจ เขาก็ไม่ปล่อยไปง่ายๆแน่
ความสัมพันธ์ของมู่น่อนน่อนกับเสิ่นเหลียงนั้นค่อนข้างดี จึงย่อมต้องพูดเข้าข้างมู่น่อนน่อนอยู่แล้ว ยิ่งเธอเป็นคนที่ชอบพูดอะไรตรงๆ ก็ย่อมต้องทำให้เฉินถิงเซียวไม่พอใจได้
หากไม่ใช่เพราะเขาได้ยินว่าเฉินถิงเซียวตามตัวเสิ่นเหลียงไป ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันนี้
เฉินถิงเซียวมองไปยังกู้จือหยั่นอย่างไม่สบอารมณ์อยู่สักพัก จนกู้จือหยั่นเองก็อกสั่นขวัญแขวนไปด้วย เขาถึงได้ค่อยๆหลุบตาลงต่ำ เก็บซ่อนอารมณ์ในแววตา แล้วพูดอย่างเฉยชาว่า“หาเธอเพื่อถามเรื่องของมู่น่อนน่อน”
กู้จือหยั่นเห็นว่าเฉินถิงเซียวไม่ได้มีอารมณ์ฉุนเฉียวแล้ว ก็ยิ่งพูดเต็มปากเต็มคำมากขึ้น“มู่น่อนน่อนเป็นภรรยาของนายไม่ใช่ภรรยาของเสิ่นเสี่ยวเหลียง เรื่องของภรรยานาย นายต้องถามคนอื่นถึงจะรู้เรื่องเหรอ ?”
คำพูดของกู้จือหยั่นนั้นมีเหตุผล และไม่มีเหตุผลด้วยเช่นกัน
แต่ก็ทำให้หัวใจของเฉินถิงเซียวกระตุก
เขาเหมือน……ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรของมู่น่อนน่อนมากนัก
นอกจากข้อมูลที่เขาให้คนไปเช็กมาก่อนหน้าของมู่น่อนน่อน รู้เรื่องสถานะครอบครัวของเธอ นอกจากรู้ว่าเธออยากเป็นคนเขียนบท……ก็ดูเหมือนเขาจะไม่รู้อะไรมากไปกว่านี้แล้ว
ครู่ใหญ่ เฉินถิงเซียวจึงได้พูดออกมาเสียงเบาว่า “พวกนายออกไปซะ”
เสียงของเขาไม่ได้ดังมาก น้ำเสียงก็ไม่ได้แฝงไปด้วยอารมณ์อะไร แต่ก็ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะขัดมันเหมือนกัน
กู้จือหยั่นรีบลากเสิ่นเหลียงออกไปอย่างรวดเร็ว
เสิ่นเหลียงขัดขืนอยู่ครู่หนึ่ง กู้จือหยั่นไม่เพียงไม่ยอมปล่อยมือ แต่กลับกุมมือเธอแน่นขึ้นไปอีก
เขาขยับไปที่ข้างใบหูของเสิ่นเหลียงแล้วพูดกระซิบว่า“ เธออยากถูกเฉินถิงเซียวโยนออกไปจากตรงนี้เหรอ?”
เสิ่นเหลียงจ้องเขม็งมาที่เขา ยกขาขึ้นแล้วถีบไปที่น่องของเขา
กู้จือหยั่นเจ็บจนต้องยิ้มยิงฟัน แต่ก็ทำอะไรเธอไม่ได้
หลังจากที่ออกมาจากห้องแล้ว ทั้งสองคนก็พิงไปที่ประตูแล้วถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมายาวๆ
ครู่ใหญ่ กู้จือหยั่นก็หันหน้ามาถามเธอว่า“เธอรู้ว่ามู่น่อนน่อนอยู่ไหนเหรอ?”
“ไม่รู้”เสิ่นเหลียงแค่นเสียงหึออกจากลำคอ “ถึงรู้ก็ไม่บอกนาย พวกผู้ชายมันก็เหมือนกันหมด”
เสียแรงที่เมื่อก่อนเธอเคยคิดว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนดี แต่สุดท้ายก็เป็นแบบนี้
มู่น่อนน่อนจะผลักคุณท่านเฉินได้ยังไง เธอไม่ใช่คนโง่สักหน่อย
เสิ่นเหลียงระบายความโกรธกับกู้จือหยั่น “ผู้ชายแบบพวกนายนี่มันยังไงกันคิดว่าตัวเองแน่ หากไม่ใช่เพราะเขาบีบบังคับมู่น่อนน่อนจนหมดหนทาง เธอจะหนีไปได้เหรอ ?”
“อะไรคือผู้ชายแบบพวกเราคิดว่าตัวเองแน่?” กู้จือหยั่นหันหน้ามา มือกอดอกแล้วจ้องมองเธอ “เฉินถิงเซียวไปบีบบังคับอะไรมู่น่อนน่อน ? เรื่องภายในครอบครัวของตระกูลเฉินมันซับซ้อนเกินไป ไม่สามารถอธิบายได้ในเวลาสั้นๆ ต่อให้เธอไม่หนีไป เฉินถิงเซียวก็ไม่ปล่อยให้เธอเป็นอะไรหรอก ”
เสิ่นเหลียงแสร้งทำเป็นยิ้มออกมา“อ้อ เพราะฉะนั้นมู่น่อนน่อนก็สมควรแล้วที่จะเอาชีวิตของตัวเองมาเสี่ยงกับเฉินถิงเซียว ? เพราะคนที่ไม่แน่นอนคนหนึ่ง“จะไม่ปล่อยให้เธอต้องเป็นอะไร”?”
กู้จือหยั่นหมดคำจะพูด
เสิ่นเหลียงยิ้มเยาะ หันหลังแล้วเดินจากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...