เฉินถิงเซียวนิ่งเงียบไม่พูดอะไรเลย ท่าทีของมู่น่อนน่อนก็น้อยลงไปทีละนิดทีละน้อย
เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ และยื่นมือออกไปเพื่อปิดใบหน้าของเธอ เพื่อปิดบังน้ำตาของเธอ
เฉินถิงเซียวเอื้อมมือออกไป และดึงเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ไม่ว่ามู่น่อนน่อนจะต่อยจะเตะเขายังไง เขาก็ไม่ยอมปล่อย
ทั้งสองคนเพิ่งกลับจากการเดินทางบนเครื่องบินระยะไกล ก็มีความเหนื่อยล้าอยู่แล้ว หลังจากที่มู่น่อนน่อนและเฉินถิงเซียวทะเลาะกันเป็นเวลานาน พวกเขาก็ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
เฉินถิงเซียวอุ้มเธอไปที่ห้องนอน แล้ววางเธอลงบนเตียง
เขานอนในห้องนอนนี้มากว่าครึ่งปีแล้ว และในที่สุดก็ได้คุณผู้หญิงสักที
เฉินถิงเซียวมองไปที่มู่น่อนน่อนครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำเพื่อเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดหน้าให้เธอ
มู่น่อนน่อนเคยร้องไห้แล้ว บนใบหน้ายังคราบน้ำตาอยู่เลย ถ้าไม่เช็ดออกเดี๋ยวอาจจะรู้สึกแย่
ทันทีที่เขาเช็ดใบหน้าของมู่น่อนน่อน โทรศัพท์มือถือของเฉินถิงเซียวก็ดังขึ้น
เขารีบหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อปิดเสียง
เขาเงยหน้ามองดูมู่น่อนน่อน ก็พบว่าเธอไม่มีวี่แววจะตื่นขึ้นมา เขาจึงลุกขึ้นเดินไปรับโทรศัพท์อย่างเบาเสียง
สือเย่เป็นคนโทรมา
ตลอดเวลาที่อยู่ซิดนีย์ในเดือนนี้ สือเย่ยุ่งอยู่กับการตรวจสอบเรื่องของลูกตลอดเวลา แต่ก็ไม่พบอะไรเลย
เพราะ เป็นเด็กทารกที่เพิ่งเกิด ก็เลยหาตัวได้ยาก
เฉินถิงเซียวเดินไปที่มุมหน้าต่าง เขารับโทรศัพท์ และถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “มีความคืบหน้าอะไรไหม?”
สือเย่กล่าวว่า "มีเบาะแสเล็กน้อย แต่ก็ไม่แน่นอน ในตอนนี้ ตอนนี้ความเกี่ยวข้องโดยตรงกับคนในตระกูลเฉิน..."
สือเย่ก็ไม่สามารถอธิบายได้อย่างชัดเจนจากทางโทรศัพท์
เฉินถิงเซียวเงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “มาคุยกันที่นี่”
สือเย่มาถึงที่อย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาเข้าไป เขาก็พูดด้วยความเคารพ "คุณชาย"
เฉินถิงเซียวเหลือบมองเขา และทำท่าบอกให้เขาพูดเบาๆ
ต่อมา เขาบอกสือเย่ว่า "นายไปที่ห้องหนังสือก่อน"
สือเย่พยักหน้า และตรงไปที่ห้องหนังสือทันที
เฉินถิงเซียวกลับไปที่ห้องนอน เขามองดูมู่น่อนน่อนที่กำลังนอนหลับอย่างสงบ ก่อนที่เขาจะปิดประตูและไปที่ห้องหนังสือ
เมื่อประตูห้องนอนปิดลง มู่น่อนน่อนที่หลับอยู่บนเตียง ก็ลืมตาขึ้นมา
ตอนที่เฉินถิงเซียวเช็ดหน้าของเธอก่อนหน้านี้ เธอได้ตื่นขึ้นมาแล้ว และเธอก็แกล้งทำเป็นหลับ
การที่เฉินถิงเซียวไม่ยอมให้เธอเจอลูกของเธอ มันเป็นเรื่องที่แปลกมาก
แม้ว่าเฉินถิงเซียวจะเฉยเมยมาก แต่เขาก็ดีกับเธอมากๆ ดังนั้นการที่เขาจึงยืนกรานที่จะไม่ให้เธอเจอลูกในตอนนี้ มันค่อนข้างแปลก
เธอค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง ก่อนจะเปิดประตูห้องนอนแล้วเดินออกไป
ก่อนหน้านี้ เธอได้ยินเสียงประตูเปิดปิดหนักๆ ตรงด้านนอก ซึ่งน่าจะเป็นเสียงประตูคอนโด แม้เธอจะอยู่ในห้องนอนเธอก็ยังสัมผัสได้
มู่น่อนน่อนเดินไปที่โถงทางเดิน และเธอก็เห็นรองเท้าหนังผู้ชายคู่หนึ่งของเฉินถิงเซียว
ผู้ชายที่มาหาเฉินถิงเซียวที่บ้านได้ นอกจากกู้จือหยั่นแล้ว ก็คือสือเย่
กู้จือหยั่นเป็นคนที่เสียงดัง และถ้าเขามาที่บ้านจริงๆ เขาก็คงไม่มีทางเงียบขนาดนี้
ถ้าอย่างนั้น คนที่มาก็น่าจะเป็นสือเย่เท่านั้น
มู่น่อนน่อนเหลือบมองที่ทางห้องหนังสือ ก่อนจะย่องเข้าไปเบาๆ
ประตูห้องหนังสือทำจากไม้ และเสียงที่เธอหมุนลูกบิดประตูก็เบามาก
เธอดูจากร่องตรงประตู เธอเห็นเฉินถิงเซียวและสือเย่ยืนคุยกันแบบหันหน้าเข้าหากัน
สือเย่ยื่นของบางอย่างคล้ายกับเอกสารให้เฉินถิงเซียวดู "คุณชาย ผมตรวจสอบเจอสถานการณ์ที่ผิดปกติทางการเงินของตระกูลเฉิน ซึ่งหนึ่งในนั้น คุณชายใหญ่มีการโอนเงินจำนวนหนึ่งไปยังบัญชีต่างประเทศ ผมคิดว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของคุณหนูน้อย”
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาว่า “แล้วคนอื่นๆ ล่ะ?”
สือเย่ปิดข้อมูล ก่อนจะส่ายหัวและพูดว่า "คนอื่นยังไม่พบความผิดปกติใดๆ ทางการเงินทุนในขณะนี้"
ทั้งสองเริ่มคุยกันเรื่องอื่น แต่มู่น่อนน่อนไม่ค่อยเข้าใจ
เธอปิดประตูลง และรู้สึกสับสนเล็กน้อยในใจ
คนที่สือเย่เรียกว่า "คุณชายใหญ่" เธอรู้ว่านั่นคือซือเฉิงหยู้
และคนที่สือเย่เรียกว่า "คุณหนูน้อย" หมายถึงลูกสาวของเธอและเฉินถิงเซียวเหรอ?
จริงเหรอที่เฉินถิงเซียวไม่ได้เป็นคนส่งคนให้ไปเอาตัวลูกเธอมา?
แต่การหายตัวไปของลูกสาวของเธอมันเกี่ยวกับซือเฉิงหยู้ได้ยังไง?
หลังจากพบว่าเด็กหายตัวไป ปฏิกิริยาแรกของเธอคือเธอคิดว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนเอาลูกไป เพราะเธอไม่สามารถนึกถึงใครได้เลยยกเว้นเฉินถิงเซียว
ถ้าเป็นซือเฉิงหยู้จริงๆ งั้นเขาต้องการจะทำอะไร?
เพียงเพื่อต่อสู้กับเฉินถิงเซียวเหรอ?
ถ้าเป็นซือเฉิงหยู้ เขาจะปฏิบัติต่อลูกสาวของเธออย่างไร?
ความเย็นชากำลังแทรกซึมเข้าไปในกระดูกของมู่น่อนน่อนทีละน้อย จนเธอตัวสั่นไปหมด
ถ้าเฉินถิงเซียวแอบเอาลูกไปจริงๆ อย่างน้อยเธอก็สามารถรับประกันได้ว่าลูกจะปลอดภัย
แต่ถ้าเป็นซือเฉิงหยู้จริงๆ...
มู่น่อนน่อนเดินโซเซ เธอยื่นมือออกไปเพื่อพยุงกำแพง เธอถึงสามารถทรงตัวได้
เธอนึกไม่ถึงด้วยซ้ำ ว่าซือเฉิงหยู้จะปฏิบัติต่อลูกสาวของเธออย่างไร...
เมื่อรู้สึกถึงเสียงของคนที่อยู่ข้างในดังขึ้นตรงประตู มู่น่อนน่อนก็ตระหนักได้ว่าเธอยังคงยืนอยู่ข้างประตู เธอจึงรีบวิ่งไปข้างหน้า และวิ่งกลับเข้าไปในห้องนอน
เธอไม่จำเป็นต้องแสร้งทำเป็นหลับ ดังนั้นเธอจึงนั่งข้างเตียงพร้อมกับโทรศัพท์มือถือในมือ เธอแกล้งเล่นโทรศัพท์หลังจากตื่นนอน
เมื่อเฉินถิงเซียวผลักประตูเข้าไป สิ่งที่เขาเห็นคือมู่น่อนน่อนกำลังนั่งอยู่ข้างเตียงและเล่นมือถือของเธอ
เฉินถิงเซียวนั่งลงข้างเตียง "ตื่นแล้วเหรอ"
มู่น่อนน่อนไม่เงยหน้าขึ้นมอง “อืม”
แม้ว่าเธอจะจ้องไปที่โทรศัพท์ แต่เธอก็กำลังให้ความสนใจกับปฏิกิริยาของเฉินถิงเซียวอย่างเงียบๆ
เฉินถิงเซียวยกมือขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าเขาต้องการจะจับหัวของเธอ แต่หลังจากยกขึ้นเพียงไม่กี่วินาที เขาก็เก็บกลับเข้าไปที่เดิมอีกครั้ง
จากนั้น เธอก็ได้ยินเสียงที่ราบเรียบของเฉินถิงเซียว "หิวไหม? คุณอยากทานอะไรไหม?"
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นมองเขา "คุณทำอาหารเป็นไหม?"
เฉินถิงเซียวไม่ได้คาดหวังว่ามู่น่อนน่อนจะถามเรื่องนี้ หรือบางทีเขาอาจจะไม่คิดว่ามู่น่อนน่อนจะพูดกับเขาอย่างปกติขนาดนี้ เขาก็ผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะไอเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ผมทำไม่เป็น ผมจะให้ทางโรงแรมจีนติ่งส่งมาให้”
มู่น่อนน่อนกล่าวว่า "ในตู้เย็นมีอาหารอะไรไหม? ฉันจะทำเอง"
เฉินถิงเซียวส่ายหัว
“งั้นออกไปซื้อด้วยกันเถอะ” มู่น่อนน่อนเลิกผ้าห่มออก
เฉินถิงเซียวยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว และเขาก็ไม่แสดงท่าทีอะไร แต่ดวงตาของเขาจ้องมองตรงไปที่มู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนอยากจะออกไปซื้อวัตถุดิบกับเขา
แม้ว่าก่อนหน้านี้มันจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่หลังจากผ่านสงครามเย็นกันมาเป็นเวลานาน เฉินถิงเซียวก็รู้สึกตกใจเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนสวมรองเท้าแตะ และเมื่อเธอเห็นเขายังคงยืนมองเธออยู่ เธอก็ถามว่า “เป็นอะไรไป? ฉันออกไปไม่ได้เหรอ”
เฉินถิงเซียวไม่พูดอะไร เขาทำแค่จูงมือเธอออกไปข้างนอก
เฉินถิงเซียวขับรถพาเธอไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้ๆ
มู่น่อนน่อนรู้ว่าเฉินถิงเซียวชอบทานอะไร ดังนั้นเธอจึงไม่ต้องถามเขาเกี่ยวกับวัตถุดิบ เธอหยิบทุกอย่างใส่ลงในตะกร้าทันที
เฉินถิงเซียวเข็นรถเข็นอยู่ข้างหลังเธออย่างเงียบๆ เขาดูเป็นชายหนุ่มที่ดูเย็นชา แต่ท่าทีแบบนี้ของเขากลับดูเหมือนสิงโตที่อ่อนโยนที่เลี้ยงจนเชื่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม