ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 288

ลูกค้าที่ผ่านไปผ่านมา อดไม่ได้ที่จะจ้องมองไปทางเฉินถิงเซียวและมู่น่อนน่อนด้วยความสงสัย และแอบแฝงไปด้วยความอิจฉาริษยา

มู่น่อนน่อนและเฉินถิงเซียวไม่สนใจสายตาของผู้อื่นเลย

คนหนึ่งเลือกของ อีกคนก็คอยเข็นรถเข็นตาม

แต่ บรรยากาศที่ดีกลับถูกทำลายลงด้วยเสียงพูดบางอย่าง

"น่อนน่อน?"

น้ำเสียงของชายหนุ่มที่ฟังดูคุ้นเคยและไม่คุ้นเคย ทำให้เธอตกใจ

มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้น เมื่อได้ยินเธอก็หันไปมองมองด้านหลัง และเธอก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคยของผู้ชายคนหนึ่ง

หลังจากที่มู่น่อนน่อนเห็นรูปร่างหน้าตาของชายคนนั้น ระดับเสียงของเธอก็ดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว “ซือเฉิงหยู้?”

“ไม่เจอกันตั้งนาน เป็นเรื่องยากมากนะที่น่อนน่อนจะจำผมได้” ซือเฉิงหยู้เดินไปหาเธอ น้ำเสียงของเขายังอ่อนโยนเช่นเคย

เนื่องจากมู่น่อนน่อนเคยได้ยินการสนทนาระหว่างเฉินถิงเซียวและสือเย่มาก่อน เธอจึงทำสีหน้าไม่ดีใส่ซือเฉิงหยู้

ในความทรงจำของเธอ ซือเฉิงหยู้ก็แย่พอแล้ว แต่ตอนนี้ก็เป็นเพราะเรื่องของลูก เธอก็เลยไม่มีความรู้สึกที่ดีต่อซือเฉิงหยู้เลย

มู่น่อนน่อนหัวเราะเยาะ ยังไม่ทันรอให้เธอพูดอะไร คนที่เข็นรถเข็นอยู่ด้านหลังอย่างเฉินถิงเซียวก็ก้าวไปข้างหน้าและยืนบังเธออยู่ เพื่อแยกเธอและซือเฉิงหยู้ออกจากกัน

“ถิงเซียวก็อยู่ที่นี่ด้วย บังเอิญจังเลยนะ มาซื้อกับข้าวเหรอ?” เมื่อซือเฉิงหยู้เห็นเฉินถิงเซียว รอยยิ้มของเขาก็มีมากขึ้น

เฉินถิงเซียวไม่พูดอะไร เขาดึงมู่น่อนน่อนออกไปทันที

“เฉิงหยู้ ที่แท้นายก็อยู่ที่นี่นี่เอง ฉันตามหานายมานานแล้ว”

มู่น่อนน่อนที่กำลังจะจากไป อดไม่ได้ที่จะหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงนี้

เมื่อเธอมองย้อนกลับไป เธอเห็นมู่หวั่นขีกำลังยืนอยู่ข้างๆ ซือเฉิงหยู้

ราวกับว่าสามารถสัมผัสได้ถึงการจ้องมองของเธอ มู่หวั่นขีก็มองไปทางเธอเช่นกัน

เมื่อมู่หวั่นขีเห็นมู่น่อนน่อน ดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง "มู่น่อนน่อน? นี่เธอยังไม่ตายอีกเหรอ?"

มู่น่อนน่อนยกยิ้มที่ริมฝีปาก “คงต้องทำให้เธอผิดหวังแย่เลย”

โลกมันแคบจริงๆ แค่กลับมาก็ได้เจอซือเฉิงหยู้และมู่หวั่นขีในทันที

ซือเฉิงหยู้จ้องไปที่มู่หวั่นขีอย่างเสแสร้งแล้วพูดว่า “พูดจาอะไรเนี่ย สื่อพวกนั้นก็ชอบลงข่าวเรื่องไร้สาระ นี่คุณไม่รู้เหรอ”

“ก็จริง เรื่องเล็กๆ พวกนี้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร การแกล้งตายเพื่อหนีความผิดก็ไม่ใช่เรื่องแปลก นึกถึงตอนแรกที่ฉันติดคุก ก็เป็นคุณไม่ใช่เหรอที่พาฉันออกมา” มู่หวั่นขียิ้มหวาน

มู่น่อนน่อนกำมือของเธอแน่น และสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์

ในเวลานี้ เฉินถิงเซียวก็นั่งเงียบอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างเงียบๆ ว่า “ซือเฉิงหยู้ ดูแลผู้หญิงของนายด้วย”

มู่หวั่นขีรีบซ่อนตัวอยู่ข้างหลังซือเฉิงหยู้อย่างรวดเร็วและพูดด้วยเสียงออดอ้อนว่า “เฉิงหยู้ ฉันกลัวมากเลย”

เฉินถิงเซียวหัวเราะเยาะเย้ย ท่าทีของเขาดูอึมครึมมาก "รู้ไหมว่าการชนคนตายตอนนี้มันมีค่าใช้จ่ายเท่าไร? แค่หนึ่งล้านก็สามารถซื้อชีวิตคนได้แล้ว ราคาถูกมากใช่ไหม"

เมื่อมู่หวั่นขีได้ยินคำพูดของเฉินถิงเซียว เธอก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ดวงตาของเธอฉายแววตื่นตระหนก เธอเอาแต่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังซือเฉิงหยู้และไม่กล้าพูดอะไรอีก

เธอยังคงจำได้ว่าเฉินถิงเซียวนั้นจัดการกับเธออย่างไรบ้าง

เธอรู้ดีว่าเฉินถิงเซียวมีนิสัยแปลกประหลาดแค่ไหน การที่เขาพูดแบบนี้ บางทีเขาอาจจะจ้างคนคนหนึ่งไปขับรถเพื่อชนเธอให้ตายก็ได้

สิ่งที่เฉินถิงเซียวทำกับเธอก่อนหน้านี้ มันฝังลึกอยู่ในจิตใจของเธอ มันทำให้เธอรู้สึกกลัวเมื่อนึกถึงเรื่องนี้ทุกครั้ง

ฃเมื่อเห็นว่ามู่หวั่นขีกลัวมาก เฉินถิงเซียวก็หัวเราะเยาะเย้ย และดึงตัวมู่น่อนน่อนจากไป

……

ระหว่างทางกลับบ้านทั้งคู่ก็เอาแต่เงียบ

มู่น่อนน่อนกำลังคิดเกี่ยวกับการสนทนาระหว่างเฉินถิงเซียวและสือเย่

ถ้าลูกสาวของเธอถูกซื้อเฉิงหยู้จับตัวไปจริงๆ และถ้าซือเฉิงหยู้ยังคงพัวพันกับมู่หวั่นขี ซึ่งมู่หวั่นขีก็เกลียดเธอมาก...

สีหน้าของมู่น่อนน่อนซีดขึ้นเรื่อยๆ

เฉินถิงเซียวที่อยู่ด้านข้างให้ความสนใจกับมู่น่อนน่อนตลอด และเขาก็สังเกตเห็นความผิดปกติของมู่น่อนน่อนได้อย่างง่ายดาย

เฉินถิงเซียวหยุดรถตรงข้างถนน และถามเธอว่า “เป็นอะไรไป? ทำไมสีหน้าถึงได้แย่แบบนั้น”

“คุณบอกฉันมาสิ ลูกถูกซือเฉิงหยู้เอาตัวไปใช่ไหม” มู่น่อนน่อนหันศีรษะของเธออย่างแรง ก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าชายเสื้อผ้าของเขา ราวกับว่าเธอกำลังคว้าฟางเส้นสุดท้ายเพื่อช่วยชีวิตคนคนหนึ่ง

ใบหน้าของเฉินถิงเซียวนิ่ง ที่แท้เธอก็ได้ยินบทสนทนาระหว่างเขากับสือเย่

เขาจับมือมู่น่อนน่อนไว้ และพูดอย่างมั่นใจ “ไม่ใช่ซือเฉิงหยู้”

มู่น่อนน่อนส่ายหัวแล้วพูดว่า “อย่าโกหกฉันอีกเลย ฉันอยากฟังความจริง มีอะไรที่ฉันยังรับไม่ได้อีกเหรอในตอนนี้?”

ในตอนแรก เธอคิดว่าเป็นเฉินถิงเซียวที่เอาตัวลูกไป

หลังจากกลับมาที่เมืองหู้หยาง เธอพบว่าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เรียบง่ายขนาดนั้น และเธอก็ได้ยินเขาพูดถึงซือเฉิงหยู้

เธอได้เตรียมใจพร้อมสำหรับสิ่งเลวร้ายที่สุดแล้ว และเธอทนไม่ไหวที่จะถูกเขาหลอกอีกต่อไป

“ผมไม่ได้โกหกคุณ” เฉินถิงเซียวอธิบายให้เธอฟังอย่างจริงจัง “สือเย่เพิ่งจะตรวจพบความผิดปกติทางการเงินที่เขาโอนไปต่างประเทศของซือเฉิงหยู้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาเป็นคนทำ เขาไม่มีความสามารถในการทำแบบนี้”

คนที่สามารถเอาลูกของเขาไปได้ จากในห้องผ่าตัดโดยที่ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ ไม่มีทางที่จะเป็นฝีมือของซือเฉิงหยู้

มู่น่อนน่อนพยักหน้า

เธอเชื่อคำพูดของเฉินถิงเซียว

ยิ่งกว่านั้น ต่อให้ซือเฉิงหยู้จะแข็งแกร่งแค่ไหน ก็ไม่สามารถเอาชนะเฉินถิงเซียวได้

เรื่องนี้ เธอสามารถเชื่อได้อย่างสนิทใจ

“แล้วเป็นใคร?” มู่น่อนน่อนถามเขาอย่างเงียบๆ “แล้วใครกันที่ขโมยลูกไป?”

คำถามนี้ เฉินถิงเซียวไม่สามารถตอบได้

ก็เป็นเวลาหนึ่งเดือนแล้ว แต่ก็ยังหาเบาะแสอะไรไม่ได้

แต่กลับตรวจสอบพบว่าซือเฉิงหยู้อยู่ที่นี่

และซือเฉิงหยู้ก็ถือว่าเป็นครึ่งหนึ่งของตระกูลเฉิน

เบาะแสชี้ไปที่ซือเฉิงหยู้ ซึ่งก็หมายความว่าเป็นฝีมือของตระกูลเฉิน

ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เขาได้สืบสวนเรื่องแม่ของเขาอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเขาก็ทำทุกอย่างอย่างบุ่มบ่าม

ในขณะที่เขากำลังสืบสวน ก็มีคนกำลังขัดขวางเขาอย่างลับๆ

ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะตระกูลเฉิน มันก็ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องแม่ของเขาในตอนนั้นแน่ๆ

เขากำลังเตือนเขา หรือกำลังข่มขู่เขากันแน่ ซึ่งตอนนี้มันยังไม่มีอะไรชัดเจน

มู่น่อนน่อนก็ไม่ใช่คนโง่ และไม่นานก็นึกถึงเรื่องเดียวกันกับเขา

มู่น่อนน่อนมองไปที่ท่าทีของเขาอย่างเงียบๆ นานอยู่พักใหญ่ก่อนจะพูดออกมา “มันเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉิน?”

เรื่องราวของแม่เฉินถิงเซียวในตอนนั้นก็มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉิน เมื่อครึ่งปีที่แล้วเรื่องที่คุณท่านเฉินตกจากบันได ก็มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉิน เธอถูกมองว่าเป็นคนผลักคุณท่านเฉินตกบันได ซึ่งเรื่องนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับตระกูลเฉิน

มู่น่อนน่อนถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “พวกเขาพยายามจะทำอะไร?”

“ไม่ว่าพวกเขาต้องการจะทำอะไร ผมจะไม่ปล่อยให้พวกเขาประสบความสำเร็จ ผมจะเอาลูกของเรากลับมา” เฉินถิงเซียวมองไปที่เธอ ท่าทางของเขาดูหนักแน่นกว่าปกติ

มู่น่อนน่อนคลายมือจากชายเสื้อผ้าของเขา “นั่นไม่ใช่ของคุณคนเดียว นั่นก็เป็นลูกของฉันด้วย”

ทั้งสองกลับไปที่คอนโด มู่น่อนน่อนไม่มีอารมณ์ที่จะทำอาหาร และในที่สุดทั้งสองคนก็ให้คนจากโรงแรมจีนติ่งมาส่งอาหารให้

แต่ก็ไม่ได้ทานมากๆ

หลังทานอาหารเสร็จ ก็เป็นช่วงบ่ายแล้ว

มู่น่อนน่อนเอาของมาไม่เยอะ หลังจากจัดระเบียบอย่างง่ายๆ เขาก็เรียกเฉินถิงเซียวให้เข้ามา

เมื่อเฉินถิงเซียวเห็นกระเป๋าสัมภาระของเธอ สีหน้าของเขาก็ดูแย่มากกว่า "คุณจะทำอะไร?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม