ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 290

หลังจากที่รู้จักกับฉินสุ่ยซานมาเป็นเวลานาน มู่น่อนน่อนก็เข้าใจถึงบุคลิกของฉินสุ่ยซานเช่นกัน

ฉินสุ่ยซานเป็นลูกสาวคนเดียวในครอบครัว และภูมิหลังครอบครัวของเธอก็แข็งแกร่ง

อาจเป็นเพราะเธอรู้เรื่องในวงการนี้มากเกินไป เธอก็เลยไม่ถูกสิ่งหลอมรวมเข้าไป

ฉินสุ่ยซานจริงจังกับงานมาก มุ่นมั่นกับสิ่งนี้มากๆ ถ้าพูดให้เห็นภาพก็คือ และเธอทำงานอย่างขะมักขะเม่น

เมื่อมู่น่อนน่อนเห็นฉินสุ่ยซานจริงจังขึ้นมา เธอก็เลยจริงจังขึ้นมาเหมือนกัน เธอกล่าวว่า "นี่เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตราบใดที่เข้ามาในวงการนี้ ยังไงก็ต้องยืนต่อหน้าสาธารณชน และปล่อยให้พวกเขาตัดสิน"

เมื่อฉินสุ่ยซานเห็นเธอพูดแบบนี้ เธอไม่ได้พูดอะไรมากเกินไป "ชั่งเถอะ แค่เธอรู้อยู่แก่ใจก็พอแล้ว"

……

วันที่ 6 สิงหาคม เริ่มถ่ายทำเรื่อง《เมืองพัง》

สภาพอากาศในเดือนสิงหาคมยังคงร้อนจัด

เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหว มู่น่อนน่อนก็เลยไม่ได้สวมกระโปรง แต่เธอก็แต่งตัวเรียบง่ายโดยใส่เสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวสีดำ

เธอเป็นคนสวย มีรากฐานที่ดี แค่การแต่งตัวสีขาวดำที่เรียบง่าย เธอก็สามารถใส่ออกมาได้อย่างดูดี

เธอและฉินสุ่ยซานนัดพบกันในเมือง จากนั้นก็ไปที่สถานที่ถ่ายทำด้วยกัน

ฉินสุ่ยซานเห็นเธอแต่งตัวเรียบร้อย เธอก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ถึงแม้ตอนนี้เธอจะไม่ใช่คุณหญิงตระกูลเฉิน คุณก็ไม่ต้องทำขนาดนี้ไหม นี่เธอออกมาในขณะที่ยังไม่ได้แต่งหน้าเนี่ยนะ? เธอช่วยเคารพกองละครของเราหน่อยได้ไหม?”

“ฉันแต่งหน้าเบาๆ” มู่น่อนน่อนอธิบายในขณะเปิดประตูและนั่งเข้าไป

เธอแต่งหน้าแล้ว แต่เธอแต่งแบบบางๆ และเรียบง่ายมาก

เธอทำแค่ขมวดคิ้ว และทาลิปสติกอีกครั้ง

“ขนาดไม่ได้แต่งหน้า แต่ก็เกือบจะทำให้นางเอกของเราแพ้อย่างราบคาบ” ฉินสุ่ยซานยังคงหยอกล้อเธอต่อไป

มู่น่อนน่อนยิ้มจางๆ โดยไม่พูดอะไร

พิธีเปิดกล้องจัดขึ้นที่จุดชมวิวแห่งแรก ซึ่งก็คือในอาคารโรงเรียนมัธยมร้างในเมืองเก่า

ขับรถจากในเมืองใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงกว่าจะไปถึง

ฉินสุ่ยซานในฐานะผู้อำนวยการสร้าง และเธอก็เป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในกอง

ดังนั้นเมื่อฉินสุ่ยซานมาถึง คนในกองก็เกือบจะไปถึงกันหมดแล้ว

นางเอกเป็นนักเรียนที่ได้รับคัดเลือกจากสถาบันภาพยนตร์ พระเอกก็มีชื่อเสียงอยู่บ้าง ฉินสุ่ยซาน พูดถึงเขาให้มู่น่อนน่อนฟังเพียงครั้งเดียว แต่มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร

ทันทีที่ฉินสุ่ยซานเดินเข้าไป เธอถามว่า "สวุมู่หันมาหรือยัง?"

มู่น่อนน่อนที่ติดตามเธอมา เมื่อเธอได้ยินคำว่า "สวุมู่หัน" เธอก็ตกตะลึง

เธอรู้สึกมีความทรงจำบางอย่างกับคนที่ชื่อสวุมู่หัน

เหตุผลหลักคือ ตอนที่ฉินสุ่ยซานแกล้งทำเป็นสาวใช้และแอบเข้าไปในบ้านพักของเฉินถิงเซียว เนื่องจากเฉินอินหย่าเคยกล่าวถึงชื่อนี้ เขาคือคนที่ทะเลาะกับเฉินอินหย่า

การทะเลาะกันครั้งนั้นรุนแรงมาก

แต่ก็เป็นเพราะหลังจากการทะเลาะกันครั้งนั้น ฉินสุ่ยซายเลยขอแยกตัวออกไป

สวุมู่หันเป็นนักแสดงเก่าที่มีคนวิจารณ์ในเชิงบวกเยอะมากในวงการบันเทิง เขาโด่งดังมาก และมีแฟนคลับมากมาย

ผลงานของเขาที่โด่งดัง มีไม่มากนัก แต่ผลงานแต่ละชิ้นก็ได้รับการชื่นชมเป็นอย่างดี เขาเคยร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังหลายคน เขาถือว่าเป็นนักแสดงแถวหน้าในประเทศอย่างแน่นอน

ดังนั้น ราคาค่าตัวของเขาก็ไม่ธรรมดา

แต่วันนี้เป็นวันเปิดกล้องของ พอฉินสุ่ยซานมาถึงเธอก็ถามหาสวุมู่หันทันที ซึ่งทำให้มู่น่อนน่อนรู้สึกแปลกใจ

ไหนบอกว่าเป็นการถ่ายทำเกี่ยวกับเว็บซีรี่ย์นี่?

สิ่งที่การถ่ายเว็บซีรี่ย์ให้ความสำคัญคือยอดคนดู ดังนั้น โดยทั่วไปแล้วจะไม่ใช้โปรดักชั่นขนาดใหญ่ และส่วนมากจะจ้างนักแสดงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง หรือไม่ก็เชิญนักแสดงหน้าใหม่โดยตรงเลย

และค่าจ้างของสวุสู่หันนั้น...

มู่น่อนน่อนดึงฉินสุ่ยซานและถามเธอว่า "นักแสดงนำชายที่เธอหามา คือสวุมู่หันเหรอ?"

“ใช่” หลังจากฉินสุ่ยซานพูดจบ ใบหน้าของเธอก็ดูอึดอัดเล็กน้อย เมื่อมองไปรอบๆ เธอก็ดึงมู่น่อนน่อนไปที่มุมห้องแล้วพูดว่า “ครั้งก่อนที่ฉันทะเลาะกับเฉินอินหย่าเธออย่าให้สวุมู่หันรู้นะ”

มู่น่อนน่อนอึ้งไปครู่หนึ่ง “ก็ได้”

“คุณฉิน”

"ว่าไง?"

มู่น่อนน่อนยังต้องการถามฉินสุ่ยซานให้มากกว่านี้ แต่เธอก็ถูกเรียกตัวไปก่อน

มู่น่อนน่อนอยากรู้จริงๆ ว่าฉินสุ่ยซานลงทุนไปเท่าไหร่แล้วกับเรื่อง《เมืองพัง》

ในเวลานั้น ผู้ช่วยของฉินสุ่ยซานได้รินน้ำให้มู่น่อนน่อน "คุณมู่ ดื่มน้ำหน่อยนะ"

“ขอบคุณมาก” มู่น่อนน่อนรับแก้วน้ำมา

ผ่านไปครู่หนึ่ง เมื่อฉินสุ่ยซานเสร็จงาน เธอก็กลับมาหามู่น่อนน่อน

"อากาศร้อนเกินไป" หลังจากฉินสุ่ยซานดื่มน้ำไป เธอก็หันไปพูดกับมู่น่อนน่อน "แต่ต้องถ่ายทำให้เสร็จก่อนฤดูหนาว จึงจะสามารถออกอากาศในช่วงวันหยุดฤดูหนาวได้"

มู่น่อนน่อนคิดก่อนจะถามว่า "เธอลงทุนไปเท่าไหร่และเงินทุนโดยประมาณคือเท่าไหร่"

ฉินสุ่ยซานไม่ได้โกหกเธอ เธอพูดตรงๆ ว่า "50 ล้าน"

“50 ล้าน?” มู่น่อนน่อนแปลกใจกับตัวเลขนี้

50 ล้านถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลสำหรับการทำเว็บซีรี่ย์

“ถ้า 50 ล้านยังไม่พอ ฉันยังสามารถเพิ่มการลงทุนได้อีก เพิ่มให้สูงขึ้นได้อีก” น้ำเสียงของฉินสุ่ยซานฟังดูผ่อนคลายมาก

มู่น่อนน่อนปัดผมออกจากหน้าผากแล้วถามเบาๆ ว่า “ไม่กลัวจะขาดทุนเหรอ?”

ดูเหมือนฉินสุ่ยซานจะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพูดว่า "ถ้าขาดทุนจริงๆ แล้วจะทำยังไงได้? มากสุดก็คงไม่ร่วมงานกับเธอในอนาคตอีกแล้ว"

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ยื่นมือออกมาตบไหล่ของมู่น่อนน่อน “ล้อเล่นนะ ตอนนี้ยังไม่ได้เริ่มถ่ายทำเลย ยังไม่ต้องนึกถึงเรื่องจะได้กำไรหรือไม่ ถ้าทุกครั้งที่เราทำเรื่องอะไรบางอย่าง และเอาแต่คิดถึงผลลัพธ์ ถ้าอย่างนั้นก็คงจะรู้สึกเหนื่อยใจมาก"

มู่น่อนน่อนพยักหน้า “พูดถูกต้อง”   

ฉินสุ่ยซานยืนขึ้น "ไปกันเถอะ ฉันจะแนะนำให้คนในกองให้เธอรู้จัก"

มีคนในกองจำนวนมาก เมื่อรวมตัวกันแล้ว มู่น่อนน่อนก็จำพวกเขาไม่ได้ทั้งหมด

แต่เห็นได้ว่า ฉินสุ่ยซานมีอำนาจในกองละคร เพราะฉินสุ่ยซานแนะนำมู่น่อนน่อนให้พวกเขารู้จัก และพวกเขาก็เกรงใจกับมู่น่อนน่อนมาก

เมื่อบางคนได้ยินชื่อของเธอ สายตาของพวกเขาก็มีความสงสัยแอบแฝงอยู่ แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร

หลังจากการทำความรู้จัก สวุมู่ซานก็มาด้วย

สวุมู่ซานมีรูปร่างสูงโปร่ง เขามีผมสั้นที่ดูดี มีหนวดเคราเล็กน้อย ใบหน้าที่หล่อเหลา และผิวสีข้าวสาลีที่ทำให้เขาดูเป็นผู้ชายมากๆ

เพราะเขาไม่เหมือนกับชายหนุ่มบนหน้าจอที่คนทั่วไปชื่นชมกันในปัจจุบัน ดังนั้นสวุมู่หันจึงเน้นด้านการแสดง และเส้นทางทางการแสดงก็แคบมากเช่นกัน บทบาทส่วนใหญ่ที่เขาเล่นนั้นมักจะเป็นแนวดุดัน

เมื่อฉินสุ่ยซานเห็นเขากำลังมา เธอก็ร้องเรียกเขา "สวุมู่หัน"

“มีธุระอะไรเหรอ?” สวุมู่หันเดินเข้ามา เขาจ้องไปที่ร่างของฉินสุ่ยซาน

ฉินสุ่นซานยื่นมือออกไป และวางมือลงบนไหล่ของมู่น่อนน่อน "ฉันจะแนะนำคนให้คุณรู้จัก นี่คือมู่น่อนน่อนผู้เขียนบทเรื่องบ《เมืองพัง》”

สวุมู่หันมองไปที่มู่น่อนน่อน ในแววตาของเขามีความประหลาดใจแอบแฝงอยู่ แต่ในไม่ช้าเขาก็มองไปที่เธออย่างสุภาพมาก "สวัสดีครับ คุณมู่"

มู่น่อนน่อนยิ้ม “สวัสดี! เมื่อก่อนฉันเคยดูหนังของคุณมาก่อน”

สวุมู่หันเป็นตัวเอก ดังนั้นเขาจะยุ่งมาก หลังจากพูดคุยกับพวกเธอสองสามคำ เขาก็ถูกผู้กำกับเรียกตัวไปแล้ว

……

พิธีเปิดกล้องเป็นไปอย่างราบรื่นเกินคาด

มันผ่านไปด้วยดีจนกระทั่งตอนที่มู่น่อนน่อนกลับไปที่บ้าน เธอก็ไม่ได้ถูกสื่อต่างๆ รายล้อมเอาไว้

มันราบรื่นจนผิดปกติ

มู่น่อนน่อนคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะโทรไปหาเฉินถิงเซียว

ดูเหมือนว่าคนที่อยู่ปลายสายของโทรศัพท์กำลังรอสายจากเธอ เพราะดังแค่สายเดียวเขาก็รับสายเลย

"มูน่อนน่อน"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม