มู่น่อนน่อนนั่งอยู่บนโถส้วมในห้องน้ำ ได้ยินเสียงคนเคาะประตูทีละห้องจากด้านนอก ในใจก็เริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดี
คงไม่ใช่เสิ่นชูหานหรอกนะ?
แต่เธอเดาจากนิสัยของเสิ่นชูหานแล้ว ก็รู้สึกว่าคงไม่ใช่เขาหรอก
เสิ่นชูหานแม้จะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่เรื่องกลัวเสียหน้านั้น ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย
ดังนั้น ไม่มีทางเป็นเสิ่นชูหานแน่
งั้นใครล่ะ?
ตอนนี้เอง คนที่เคาะประตูก็เดินมาถึงหน้าห้องที่เธออยู่แล้ว
ก๊อกๆๆ!
เคาะติดต่อกันไปสามที ดูมีจังหวะและมีความมั่นคงมาก
มู่น่อนน่อนใจเต้นตึกตัก
เธอรู้สึกว่าคนด้านนอกอาจจะเป็นเฉินถิงเซียว……
สัมผัสที่หกของคนเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดที่สุด
ทั้งที่ยังมีประตูกั้นเอาไว้ ทั้งสองไม่ได้พูดและไม่เห็นหน้ากัน มู่น่อนน่อนก็แน่ใจได้ว่า คนด้านนอกต้องเป็นเฉินถิงเซียวแน่
มู่น่อนน่อนบีบจมูกไว้ กดเสียงตัวเองลง: “ใครคะ? ฉันยังไม่เสร็จธุระค่ะ”
ต่อมา ด้านนอกก็มีเสียงทุ้มต่ำของเฉินถิงเซียวดังขึ้น: “จะให้ฉันช่วยไหม?”
เฉินถิงเซียวจริงด้วย!
มู่น่อนน่อนตบหน้าผากตัวเองเบาๆหลายครั้ง
เฉินถิงเซียวมาที่นี่ได้ยังไง?
เขาแอบใส่ระบบจีพีเอสที่ตัวเธอหรือเปล่าเนี้ย
มู่น่อนน่อนตัดสินใจดิ้นรนอีกครั้ง: “นี่คือห้องน้ำหญิง นายเป็นผู้ชายเข้ามาทำอะไรในนี้น่ะ ถ้ายังไม่ออกไป ฉันจะแจ้งตำรวจแล้วนะ ฉัน……”
เฉินถิงเซียวพูดแทรกเธอ: “จะออกมาเอง หรือให้ฉันพังประตูเข้าไป เลือกมาหนึ่งอย่าง”
น้ำเสียงเขาเย็นชามาก มู่น่อนน่อนที่ได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ใจสั่นเทา
เธอไม่เลือกทั้งสองอย่างได้ไหม?
แต่ว่า ร่างกายเธอตัดสินใจเร็วกว่าสมองไปแล้ว
“แกร๊ก” เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก
ใบหน้าเย็นชาของเฉินถิงเซียว ปรากฏขึ้นตรงหน้าของมู่น่อนน่อน
เขามองมู่น่อนน่อนนิ่ง เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วจ้องมองเธออยู่อย่างนั้น
มู่น่อนน่อนกลืนน้ำลาย พยายามทำน้ำเสียงของตัวเองให้เป็นปกติมากที่สุด: “นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน……บังเอิญจังเลยนะ……”
“มู่น่อนน่อน” เฉินถิงเซียวเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่พยายามข่มอารมณ์ให้ได้มากที่สุด
มู่น่อนน่อนชะงัก รีบนั่งตัวตรงในทันที ทำท่าเหมือนเตรียมพร้อมกับสิ่งที่ต้องเจอต่อหน้า
เฉินถิงเซียวโมโหจนต้องหัวเราะออกมา: “ตอนนี้รู้สึกผิดแล้วหรือไง?”
มู่น่อนน่อนก้มหน้าลง พูดเสียงเบาว่า: “รู้สึกผิดมาตลอดเลย”
“งั้นเธอยังมางานเลี้ยงกับผู้ชายคนนั้นอีก?” ตอนนี้เฉินถิงเซียวไม่อยากเอ่ยถึงชื่อของเสิ่นชูหานเลยด้วยซ้ำ และไม่อยากพูดถึงชื่อมันต่อหน้ามู่น่อนน่อนด้วย
มู่น่อนน่อนไม่เคยมางานเลี้ยงกับเขาเลย เสิ่นชูหานกลับตัดหน้าเขาไปเสียก่อน
ฝันไปเถอะ!
“ฉันมีเหตุผลน่ะ” มู่น่อนน่อนพยายามอธิบาย
“เหตุผล? เธออยากขอบคุณที่เขาช่วยเธอหนีออกมาจากต่างประเทศได้เหรอ?” เฉินถิงเซียวแสยะยิ้มเย็นชา: “ฉันไม่กำจัดบริษัทเสิ่นซื่อทั้งหมด ก็ใจกว้างมากพอแล้ว เขายังอยากให้เธอตอบแทนอีกเหรอ?”
มู่น่อนน่อนเม้มปากบาง: “นายอย่าเอะอะอะไรก็ไปจัดการบริษัทคนอื่นได้ไหม…….”
“เธอมาร่วมงานเลี้ยงกับผู้ชายคนอื่นได้ ทำไมฉันจะจัดการบริษัทเสิ่นซื่อไม่ได้?” เฉินถิงเซียวเลิกคิ้วมองเธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
เห็นได้ชัดว่าเขาโกรธมาก แถมยังหึงอีกด้วย
นานๆทีจะเห็นเฉินถิงเซียวหึง มู่น่อนน่อนรู้สึกแปลกใจ ก็เลยอดไม่ได้อยากจะหัวเราะ
เฉินถิงเซียวสังเกตเห็นสีหน้าของเธอ จากนั้นก็ยื่นมือออกไปขยี้หัวเธอเบาๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...