ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 308

ตอนนี้มู่น่อนน่อนไม่ได้ชอบเสิ่นชูหานอีกแล้ว แต่เธอก็ฟังออกได้ว่าคำพูดที่เขาพูดมาทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นคำพูดจากใจจริงของเขาทั้งนั้น

เธอรอเสิ่นชูหานพูดจนจบ ถึงเริ่มพูดว่า: “ต่อไปก็เป็นตัวของตัวเองเถอะ ส่วนฉัน มีแค่เฉินถิงเซียวก็พอแล้ว”

“เธอแน่ใจเหรอว่าจะเดินกับเฉินถิงเซียวไปจนถึงบั้นปลายของชีวิตได้?” เสิ่นชูหานไม่เห็นด้วยกับการที่เธอคบกับเฉินถิงเซียว

มู่น่อนน่อนครุ่นคิดแล้ว ก็พูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า: “ยังไงฉันก็ไม่เคยคิดจะคบกับใครนอกจากเฉินถิงเซียวอยู่แล้ว”

นี่ถือว่าเป็นความคิดที่จริงใจที่สุดของเธอ

เธอไม่คิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกับชายอื่นได้เลย ดังนั้น แม้ตอนนี้จะยากสาหัสเพียงใด ก็ต้องอดทนสู้ต่อไปให้ได้

เสิ่นชูหานหัวเราะ: “ฉันเข้าใจแล้วล่ะ”

หลังจากนั้น ทั้งสองก็คุยกันต่อเรื่อยๆ

เรื่องส่วนใหญ่ที่คุยกัน ก็มีแต่เสิ่นชูหานที่พูดอยู่คนเดียว มู่น่อนน่อนรับผิดชอบแค่ฟังเท่านั้น

พอฟังจบและกินข้าวเสร็จแล้ว ทั้งสองก็ออกมาจากห้องเตรียมออกจากร้านอาหาร

หน้าประตูร้านอาหาร ก็บังเอิญเจอซือเฉิงหยู้กับมู่หวั่นขีเข้าพอดี

มู่หวั่นขียังคงไม่พอใจกับการที่มู่น่อนน่อนปฏิเสธตัวเอง ถ้าได้โอกาสก็ต้องมีประชดประชันกันอยู่แล้ว

สายตาเธอมองไปที่มู่น่อนน่อนกับเสิ่นชูหานสองคน ต่อมาก็พูดเสียงสูงว่า: “เหอะ อ่อยเฉินถิงเซียวคนเดียวยังไม่พอ ถ่านไฟเก่ากับเสิ่นชูหานก็ปะทุขึ้นมาแล้วเหรอ?”

มู่น่อนน่อนเพิ่งได้ผลตรวจเปรียบเทียบดีเอ็นเอจากเสิ่นชูหาน ตอนนี้ก็มาเจอกับซือเฉิงหยู้อีก สายตาเธอก็มองไปที่ซือเฉิงหยู้โดยธรรมชาติ

มู่หวั่นขีเห็นมู่น่อนน่อนจ้องมองซือเฉิงหยู้ ก็รีบขวางตรงหน้าซือเฉิงหยู้เอาไว้: “ดูอะไรของเธอ? ได้คืบจะเอาศอกงั้นเหรอ? หน้าไม่อายจริงๆเลย”

ซือเฉิงหยู้ก็ทักทายมู่น่อนน่อนอย่างไม่สนใจ: “น่อนน่อน”

มู่น่อนน่อนก็เรียกเขาอย่างเป็นทางการ: “คุณซือ”

แต่กลับเป็นเสิ่นชูหาน มองซือเฉิงหยู้อย่างสนอกสนใจ

เป็นเพราะสาเหตุจากฐานะและวงการ โอกาสที่เสิ่นชูหานกับซือเฉิงหยู้จะได้เจอกันนั้นน้อยมาก

ที่เขาได้ผลตรวจดีเอ็นเอนี้มาด้วยความบังเอิญล้วนๆ ดังนั้นจึงรู้สึกสงสัยในตัวซือเฉิงหยู้มาก

ลูกนอกสมรสของเฉินชิงเฟิง

เป็นแค่ลูกนอกสมรสจริงๆเหรอ?

“เฉินหยู้!” มู่หวั่นขีเห็นซือเฉิงหยู้พูดกับมู่น่อนน่อน ก็ตะคอกเขาอย่างไม่พอใจ

ซือเฉิงหยู้ก้มหัวลง มองมู่หวั่นขีด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน: “ไม่ว่ายังไง น่อนน่อนก็เป็นน้องสาวเธอนะ ถึงแม้ละคร《เมืองพัง》ของน่อนน่อน เธอจะไม่มีโอกาสได้ร่วมงานด้วย อย่างน้อยก็ยังบทละครอื่นรอเธออยู่นะ?”

คำพูดของซือเฉิงหยู้ ทำให้มู่หวั่นขีเหมือนแมวที่โดนลูบขนแล้วรีบเชื่อฟังทันที

มู่น่อนน่อนหรี่ตาลง ถึงว่ามู่หวั่นขีไปออดิชันที่กองถ่าย《เมืองพัง》 เป็นเพราะซือเฉิงหยู้นี่เอง

เมื่อก่อนซือเฉิงหยู้ก็แสดงภาพยนตร์แนวลึกลับเงื่อนงำแบบนี้เหมือนกัน เขามีสายตาเฉียบคมเป็นของตัวเอง

แต่ว่า ซือเฉิงหยู้ให้มู่หวั่นขีไปออดิชันที่กองถ่ายของ《เมืองพัง》 เป็นเพราะเขาชอบบทละครเรื่อง《เมืองพัง》 หรือเป็นเพราะอยากหลอกใช้มู่หวั่นขีให้มู่น่อนน่อนไม่สบายใจกันแน่ เรื่องนี้เอาแน่เอานอนไม่ได้

มู่น่อนน่อนเคยเห็นด้านร้ายของซือเฉิงหยู้มาแล้ว

มู่น่อนน่อนไม่อยากสนทนากับพวกเขาต่อไป จึงกระซิบบอกเสิ่นชูหานเบาๆว่า: “พวกเราไปกันเถอะ”

ต่อมา เธอก็ก้าวขาเดินจากไปทันที

……

มู่น่อนน่อนไม่ได้กลับบ้าน แต่ขับรถไปที่พักของเฉินถิงเซียวทันที

เธอมีกุญแจคอนโดของเฉินถิงเซียว

ตอนที่เปิดประตูเข้าไป ในห้องมืดสนิทไม่มีแสงเลย เฉินถิงเซียวยังไม่กลับมา

มู่น่อนน่อนเปิดไฟ แล้วเดินสำรวจแต่ละห้อง

โต๊ะทำอาหารในครัวเริ่มมีฝุ่นเกราะแล้ว แสดงว่าเฉินถิงเซียวไม่ได้ทำอะไรในบ้านนานแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม