บทที่ 317 มีร่างกายที่สามารถขึ้นเทรนการค้นหาได้ – ตอนที่ต้องอ่านของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
ตอนนี้ของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 317 มีร่างกายที่สามารถขึ้นเทรนการค้นหาได้ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
มู่น่อนน่อนหัวเราะ ก่อนจะเรียกพนักงานเสิร์ฟมา จากนั้นยื่นเมนูให้เสิ่นเหลียง "สั่งอาหาร"
เสิ่นเหลียงก็ไม่ได้เกรงใจอะไร เธอไม่คำนึงถึงราคาด้วย เธอสั่งอาหารหลายอย่างที่พวกเธอทั้งสองคนต่างก็ชอบ
หลังจากสั่งอาหารแล้ว เสิ่นเหลียงก็ถามเธอว่า “เมื่อคืนนี้ เธอสองคนเป็นยังไงบ้าง?”
มู่น่อนน่อนรู้สึกประหลาดใจ "เธอรู้ได้ยังไงว่าเฉินถิงเซียวออกมาตามหาฉัน?"
“ฉันรู้จักเธอขนาดนี้ ทันทีที่เธอออกไป คุณชายเขาก็ตามเธอออกไปเลย แน่นอนว่าเขาต้องไปหาเธออยู่แล้ว และที่สำคัญเธอก็คงรอเขาอยู่ข้างนอก”
หลังจากเสิ่นเหลียงพูดจบ เธอก็หัวเราะออกมาก่อนจะพูดว่า “เธอคงไม่รู้สินะ หลังจากที่เธอออกไป คุณชายเขาก็ชมว่าเธอสวยมาก…ฉันจะเลียนแบบวิธีการพูดของเขาในเมื่อคืน เธอดูนะ"
เสิ่นเหลียงกระแอมในลำคอ จากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อให้ดูเย็นชา ยกริมฝีปากและมองไปด้านข้าง เธอกดเสียงแล้วพูดเลียนแบบเฉินถิงเซียว “นั่นเป็นอดีตภรรยาของผม สวยใช่ไหมละ?”
ทันทีที่พูดจบ เสิ่นเหลียงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนั้นที่ฉันได้ยินแบบนี้ฉันก็อยากจะหัวเราะจริงๆ แต่คนที่ชื่อซูเหมียนก็ดูเก่งมากๆ นะเพราะเธอไม่ได้ไม่พอใจในทันที… "
มู่น่อนน่อนพยักหน้า "เพื่อนของเฉินจิ่งหยุ้น แน่นอนว่าคงจะไม่ได้มีบทบาทที่ธรรมดาแน่นอน"
“ฉันคิดว่าบางครั้งคุณชายก็เท่อยู่นะ” หลังจากเสิ่นเหลียงพูดจบ เธอก็พูดด้วยท่าทีที่เป็นกังวลอีกครั้ง “แต่ ฉันคิดว่ายังไงซูเหมียนก็ต้องไปหาคุณชายอีกครั้งในภายหลังแน่ๆ เรื่องราวยังไม่มีท่าทีจะเกิดขึ้นเลย แต่เธอก็มีท่าทีมั่นใจในตัวเองมาก"
“อืม ฉันรู้” มู่น่อนน่อนถอนหายใจออก “ไม่ง่ายเลยนะที่จะได้มานั่งทานข้าวด้วยกัน อย่าเอาแต่พูดถึงเรื่องไร้สาระพวกนี้เลย”
เมื่อคืนเธอและเฉินถิงเซียวได้แสดงละครต่อหน้าเฉินจิ่งหยุ้นและซูเหมียนแล้ว
เฉินจิ่งหยุ้นอาจเกลียดเธอมากกว่าเดิม และเธอคงจะรีบยัดเยียดซูเหมียนให้เฉินถิงเซียวอย่างแน่นอน
เสิ่นเหลียงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็ยังถามออกไป “มีข่าวคราวของเฉินมู่บ้างไหม?”
มู่น่อนน่อนส่ายหัว “ไม่เลย”
เสิ่นเหลียงก็ถอนหายใจตามไปด้วย “จะเกลียดหรือแค้นอะไรนักหนา แล้วทำไมต้องขโมยเด็กไปด้วย? ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉานเลย”
ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ เสิ่นเหลียงก็จะเอาดุด่าแบบนี่
ในขณะที่มู่น่อนน่อนกำลังจะพูด เธอก็รู้สึกได้ถึงบางอย่าง เธอจึงหันมองไปข้างหลัง และเธอก็เห็นแสงสีขาววูบวาบอยู่หลังม่าน
สีหน้ามู่น่อนน่อนตึงเครียด เธอพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “มีปาปารัสซี่อยู่”
“บัดซบ ฉันไม่มีแต่งหน้าด้วย” เสิ่นเหลียงหยิบหมวกแก๊ปขึ้นมาสวมบนหัวของเธออย่างรวดเร็ว แล้วก็ดึงผมมาปกปิดใบหน้าส่วนใหญ่ ก่อนจะมองไปรอบๆ และถามว่า “อยู่ตรงไหน?”
มู่น่อนน่อนชี้ไปที่นอกม่าน “เมื่อกี้อยู่ตรงนั้น ส่วนตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน”
“คนพวกนี้แค่มีโอกาสนิดหน่อยก็ไม่เว้นเลย ฉันเป็นแค่นักแสดงที่ไม่มีชื่อเสียง จะมาแอบถ่ายฉันทำไม?” ใบหน้าของเสิ่นเหลียงดูกังวล
ไหนบอกว่าจะเดินในเส้นทางที่ใช้ความสามารถไง?
มู่น่อนน่อนกระแอมไอ และพูดด้วยความเขินอายว่า “บางทีอาจจะกำลังถ่ายฉันอยู่”
เสิ่นเหลียง: "...ดูไม่ออกเลยว่าเธอจะหลงตัวเองด้วย?"
น้ำเสียงของมู่น่อนน่อนจริงจังมาก "เพราะยังไงฉันก็เคยขึ้นเทรนการค้นหามาหลายครั้งแล้ว"
เสิ่นเหลียงคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพบว่ามันสมเหตุสมผล “ถ้าอย่างนั้นคงจะถ่ายไม่โดนฉันหรอก?”
ท่ามกลางสายตาที่คาดหวังของเสิ่นเหลียง มู่น่อนน่อนก็พูดปลอบใจเธอว่า “อาจจะ?”
ในตอนบ่าย มู่น่อนน่อนพบว่าเธอขึ้นเทรนการค้นหาอีกครั้ง
#อดีตภรรยาคุณเฉินสังสรรค์กับเพื่อสนิทในร้านอาหาร#
หัวข้อแบบนี้ก็ยังสามารถขึ้นเทรนการค้นหาได้ด้วยเหรอ?
หรือเธอจะเป็นอย่างในตำนานที่บอกไว้ว่าเธอมีร่างกายที่สามารถขึ้นเทรนการค้นหาได้อยู่แล้ว?
แต่คำว่า "คุณเฉิน" ในเทรนการค้นหานี้ พิสูจน์แล้วว่ามู่น่อนน่อนไม่ได้มีร่างกายที่สามารถขึ้นเทรนการค้นหาได้ แต่เป็นเพราะเฉินถิงเซียวเธอถึงได้เป็นที่สนใจขยาดนี้
เนื่องจากภาพเป็นภาพที่แอบถ่ายมา ภาพเลยไม่ชัด ส่วนเสิ่นเหลียงที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอก็ถือว่าโชคดีมากที่ภาพถ่ายออกมาไม่ชัด
“ที่จริงฉันคิดว่าอดีตภรรยาของคุณเฉินดูดีเลยนะ…”
“เธอเป็นนักเขียนบทที่ชื่อมู่มู่? จะไปเป็นนักเขียนบททำไมหน้าตาแบบนี้สามารถเป็นดาราได้เลย”
“ไม่มีใครคิดว่าผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามเธอดูคุ้นๆ เหรอ? ดูเหมือนเธอจะเป็นดาราจริงๆ”
มู่น่อนน่อนกดโทรหาเฉินถิงเซียว
หลังจากโทรออก ในสายก็ดังอยู่ไม่กี่ครั้ง ก่อนที่เฉินถิงเซียวจะกดรับสาย
เสียงของเฉินถิงเซียวยังทุ้มต่ำเช่นเคย “ผมได้เส้นผมมาแล้ว และได้สั่งคนให้เอาไปตรวจDNA เพื่อพิสูจน์ความเป็นพ่อลูกแล้ว”
มู่น่อนน่อนคิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดเรื่องนี้ในทันทีที่เขารับสาย
ในเมื่อเขาพูดทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มู่น่อนน่อนจึงต้องถามไถ่เขาว่า “คุณรู้สึกประหม่าไหม?”
“ทำไมผมต้องประหม่าด้วย?” เฉินถิงเซียวชะงักไป ก่อนจะพูดว่า “มีหลายสิ่งหลายอย่างที่มีที่มามีที่ไปสามารถตรวจสอบได้ การที่ไปตรวจ
DNA พิสูจน์ความเป็นพ่อลูก ก็เพื่อเป็นสิ่งที่ยืนยันเท่านั้น”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงของเฉินถิงเซียว ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถคาดเดาได้ตั้งแต่แรก
“คุณรู้ตั้งนานแล้วเหรอ?”
“ผมแต่เคยสงสัยมาก่อน แต่เพราะผมคิดว่ามันไร้สาระเกินไป ผมก็เลยไม่ได้ตรวจสอบอย่างลึกซึ้ง” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวยังคงสงบมาก
มู่น่อนน่อนคิด ตอนที่เฉินถิงเซียวคาดเดาถึงเรื่องนี้ในครั้งแรก อารมณ์ความรู้สึกของเขาคงจะไม่สงบขนาดนี้
มู่น่อนน่อนถามเขาว่า "ผลจะออกมาเมื่อไหร่?"
อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์เงียบไปครู่หนึ่ง และมู่น่อนน่อนก็รู้สึกว่าน้ำเสียงของเฉินถิงเซียวนั้นเคร่งขรึมมากขึ้น "เร็วที่สุดก็พรุ่งนี้"
……
ตอนเที่ยงวันถัดไป มู่น่อนน่อนไปที่คอนโดของเฉินถิงเซียว
เนื่องจากเธอเคยบอกกับเฉินชิงเฟิงไปแล้ว ว่าเธออยากทำอาหารให้เฉินถิงเซียวเพื่อเอาชนะใจของเขา แล้วก็อยากจะรู้ว่าเฉินมู่เป็นอย่างไรบ้าง อย่างนั้นเธอก็ต้องแกล้งทำให้เหมือนหน่อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...