มู่น่อนน่อนหัวเราะ ก่อนจะเรียกพนักงานเสิร์ฟมา จากนั้นยื่นเมนูให้เสิ่นเหลียง "สั่งอาหาร"
เสิ่นเหลียงก็ไม่ได้เกรงใจอะไร เธอไม่คำนึงถึงราคาด้วย เธอสั่งอาหารหลายอย่างที่พวกเธอทั้งสองคนต่างก็ชอบ
หลังจากสั่งอาหารแล้ว เสิ่นเหลียงก็ถามเธอว่า “เมื่อคืนนี้ เธอสองคนเป็นยังไงบ้าง?”
มู่น่อนน่อนรู้สึกประหลาดใจ "เธอรู้ได้ยังไงว่าเฉินถิงเซียวออกมาตามหาฉัน?"
“ฉันรู้จักเธอขนาดนี้ ทันทีที่เธอออกไป คุณชายเขาก็ตามเธอออกไปเลย แน่นอนว่าเขาต้องไปหาเธออยู่แล้ว และที่สำคัญเธอก็คงรอเขาอยู่ข้างนอก”
หลังจากเสิ่นเหลียงพูดจบ เธอก็หัวเราะออกมาก่อนจะพูดว่า “เธอคงไม่รู้สินะ หลังจากที่เธอออกไป คุณชายเขาก็ชมว่าเธอสวยมาก…ฉันจะเลียนแบบวิธีการพูดของเขาในเมื่อคืน เธอดูนะ"
เสิ่นเหลียงกระแอมในลำคอ จากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อยเพื่อให้ดูเย็นชา ยกริมฝีปากและมองไปด้านข้าง เธอกดเสียงแล้วพูดเลียนแบบเฉินถิงเซียว “นั่นเป็นอดีตภรรยาของผม สวยใช่ไหมละ?”
ทันทีที่พูดจบ เสิ่นเหลียงก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่าฮ่า ตอนนั้นที่ฉันได้ยินแบบนี้ฉันก็อยากจะหัวเราะจริงๆ แต่คนที่ชื่อซูเหมียนก็ดูเก่งมากๆ นะเพราะเธอไม่ได้ไม่พอใจในทันที… "
มู่น่อนน่อนพยักหน้า "เพื่อนของเฉินจิ่งหยุ้น แน่นอนว่าคงจะไม่ได้มีบทบาทที่ธรรมดาแน่นอน"
“ฉันคิดว่าบางครั้งคุณชายก็เท่อยู่นะ” หลังจากเสิ่นเหลียงพูดจบ เธอก็พูดด้วยท่าทีที่เป็นกังวลอีกครั้ง “แต่ ฉันคิดว่ายังไงซูเหมียนก็ต้องไปหาคุณชายอีกครั้งในภายหลังแน่ๆ เรื่องราวยังไม่มีท่าทีจะเกิดขึ้นเลย แต่เธอก็มีท่าทีมั่นใจในตัวเองมาก"
“อืม ฉันรู้” มู่น่อนน่อนถอนหายใจออก “ไม่ง่ายเลยนะที่จะได้มานั่งทานข้าวด้วยกัน อย่าเอาแต่พูดถึงเรื่องไร้สาระพวกนี้เลย”
เมื่อคืนเธอและเฉินถิงเซียวได้แสดงละครต่อหน้าเฉินจิ่งหยุ้นและซูเหมียนแล้ว
เฉินจิ่งหยุ้นอาจเกลียดเธอมากกว่าเดิม และเธอคงจะรีบยัดเยียดซูเหมียนให้เฉินถิงเซียวอย่างแน่นอน
เสิ่นเหลียงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เธอก็ยังถามออกไป “มีข่าวคราวของเฉินมู่บ้างไหม?”
มู่น่อนน่อนส่ายหัว “ไม่เลย”
เสิ่นเหลียงก็ถอนหายใจตามไปด้วย “จะเกลียดหรือแค้นอะไรนักหนา แล้วทำไมต้องขโมยเด็กไปด้วย? ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉานเลย”
ทุกครั้งที่พูดถึงเรื่องนี้ เสิ่นเหลียงก็จะเอาดุด่าแบบนี่
ในขณะที่มู่น่อนน่อนกำลังจะพูด เธอก็รู้สึกได้ถึงบางอย่าง เธอจึงหันมองไปข้างหลัง และเธอก็เห็นแสงสีขาววูบวาบอยู่หลังม่าน
สีหน้ามู่น่อนน่อนตึงเครียด เธอพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “มีปาปารัสซี่อยู่”
“บัดซบ ฉันไม่มีแต่งหน้าด้วย” เสิ่นเหลียงหยิบหมวกแก๊ปขึ้นมาสวมบนหัวของเธออย่างรวดเร็ว แล้วก็ดึงผมมาปกปิดใบหน้าส่วนใหญ่ ก่อนจะมองไปรอบๆ และถามว่า “อยู่ตรงไหน?”
มู่น่อนน่อนชี้ไปที่นอกม่าน “เมื่อกี้อยู่ตรงนั้น ส่วนตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน”
“คนพวกนี้แค่มีโอกาสนิดหน่อยก็ไม่เว้นเลย ฉันเป็นแค่นักแสดงที่ไม่มีชื่อเสียง จะมาแอบถ่ายฉันทำไม?” ใบหน้าของเสิ่นเหลียงดูกังวล
ไหนบอกว่าจะเดินในเส้นทางที่ใช้ความสามารถไง?
มู่น่อนน่อนกระแอมไอ และพูดด้วยความเขินอายว่า “บางทีอาจจะกำลังถ่ายฉันอยู่”
เสิ่นเหลียง: "...ดูไม่ออกเลยว่าเธอจะหลงตัวเองด้วย?"
น้ำเสียงของมู่น่อนน่อนจริงจังมาก "เพราะยังไงฉันก็เคยขึ้นเทรนการค้นหามาหลายครั้งแล้ว"
เสิ่นเหลียงคิดอยู่ครู่หนึ่ง และพบว่ามันสมเหตุสมผล “ถ้าอย่างนั้นคงจะถ่ายไม่โดนฉันหรอก?”
ท่ามกลางสายตาที่คาดหวังของเสิ่นเหลียง มู่น่อนน่อนก็พูดปลอบใจเธอว่า “อาจจะ?”
ในตอนบ่าย มู่น่อนน่อนพบว่าเธอขึ้นเทรนการค้นหาอีกครั้ง
#อดีตภรรยาคุณเฉินสังสรรค์กับเพื่อสนิทในร้านอาหาร#
หัวข้อแบบนี้ก็ยังสามารถขึ้นเทรนการค้นหาได้ด้วยเหรอ?
หรือเธอจะเป็นอย่างในตำนานที่บอกไว้ว่าเธอมีร่างกายที่สามารถขึ้นเทรนการค้นหาได้อยู่แล้ว?
แต่คำว่า "คุณเฉิน" ในเทรนการค้นหานี้ พิสูจน์แล้วว่ามู่น่อนน่อนไม่ได้มีร่างกายที่สามารถขึ้นเทรนการค้นหาได้ แต่เป็นเพราะเฉินถิงเซียวเธอถึงได้เป็นที่สนใจขยาดนี้
เนื่องจากภาพเป็นภาพที่แอบถ่ายมา ภาพเลยไม่ชัด ส่วนเสิ่นเหลียงที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอก็ถือว่าโชคดีมากที่ภาพถ่ายออกมาไม่ชัด
“ที่จริงฉันคิดว่าอดีตภรรยาของคุณเฉินดูดีเลยนะ…”
“เธอเป็นนักเขียนบทที่ชื่อมู่มู่? จะไปเป็นนักเขียนบททำไมหน้าตาแบบนี้สามารถเป็นดาราได้เลย”
“ไม่มีใครคิดว่าผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามเธอดูคุ้นๆ เหรอ? ดูเหมือนเธอจะเป็นดาราจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...