ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 322

ด้วยปัจจัยที่ซือหมิงหวนเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงโด่งดัง การที่เขาประสบอุบัติเหตุถูกรถชนจึงมีอิทธิพลต่อสังคมอย่างแน่นอน ดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สรุปคดีความว่าเป็นเหตุมาจากการอุบัติเหตุทางการจราจร

สุดท้ายแล้วอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็สรุปสำนวนคดีให้เป็นอุบัติเหตุแค่นั้น

หลังจากสำนวนออกมาแล้วว่าเป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์ ก็เริ่มจัดงานศพของซือหมิงหวนทันที

หลังจากที่กลุ่มของเฉินชิงเฟิงมาถึงเมืองMแล้ว เรื่องของซือหมิงหวน ก็ไม่จำเป็นต้องให้เฉินถิงเซียวเข้ามาจัดการอีกแล้ว

ในที่สุดเขาก็มีเวลาว่างสักที

ก่อนที่เริ่มพิธีงานศพ สือเย่ก็กลับมาจากข้างนอก จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังห้องของเฉินถิงเซียวทันที

เฉินถิงเซียวใส่เสื้อสีดำกางเกงดำท่าทางเคร่งขรึมทั้งชุด พลางนั่งลงบนโซฟาด้วยท่าทางสุขุมเคร่งขรึม

สือเย่เดินเข้ามาหา พลางพูดอย่างให้ความเคารพ “คุณชาย”

เฉินถิงเซียวไม่ได้เงยหน้ามองเขา ก็แค่ถามกลับเท่านั้นเอง “ตรวจสอบเรื่องไปถึงขั้นไหนแล้ว?”

สือเย่ตอบกลับ “ผมตรวจสอบแล้ว ซึ่งผลที่ได้ก็เหมือนกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูเหมือนว่าจะเป็นอุบัติเหตุทางจราจรจริงๆ”

ขนาดเฉินมู่ยังถูกลักพาตัวไปทั้งที่ยังไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำ เฉินถิงเซียวจึงมีเหตุผลข้อกังขาว่าเรื่องอุบัติเหตุทางรถชนของซือหมิงหวนมันไม่ใช่แค่อุบัติเหตุแค่นั้น

ก๊อก ก๊อก!

ด้านนอกประตูมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น

จากนั้นก็มีเสียงของคนรับใช้ดังขึ้น “คุณชายเฉิน ตอนนี้ถึงเวลาที่ต้องไปศาลาจัดงานศพแล้ว”

เฉินถิงเซียวได้ยินแล้วก็ลุกขึ้นจากโซฟาทันที พลันจัดเสื้อเชิ้ตสีดำที่อยู่บนร่างกายของตนเองทันที พลางพูดกับสือเย่ว่า “ไปกันเถอะ”

……

เมื่อมาถึงศาลาจัดงานศพแล้ว คนในตระกูลซือต่างมากันครบแล้ว

ซือเฉิงหยู้ยืนต้อนรับแขกผู้คนที่มาแสดงความไว้อาลัยเป็นเพื่อนกับเฉินเหลียน

เฉินเหลียนใช้เวลาแค่หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ผอมโซลงไปเยอะ ขนาดแต่งหน้าหนาจัดก็ไม่สามารถปกปิดอายุมากที่แสดงออกมาให้เห็นได้อย่างชัดเจน แถมยังผอมโซหมดเรี่ยวแรงอย่างมาก

เฉินถิงเซียวพยักหน้าเล็กน้อย พลางพูดอย่างสุขุม “ขอแสดงความเสียใจด้วย”

เฉินเหลียนไม่ได้พูดอะไร ทำได้แค่พยักหน้าเท่านั้นเอง ท่วงท่าเช่นนี้ของเธอดูเหมือนหม่นหมองลงไปถนัดตา

หัวคิ้วของเฉินถิงเซียวเลิกขึ้นเล็กน้อย พลางประเมินเธอแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินเข้าไป

เมื่อเดินเข้าไป เขาก็เห็นเฉินเจียฉินที่นั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น

หลายปีที่ผ่านมานี้แม้ว่าเฉินเจียฉินจะถูกปล่อยทิ้งปล่อยขว้างมาโดยตลอด แต่ว่าเลือดข้นกว่าน้ำ ปีนี้เขาอายุ15ปีแล้ว รู้ซึ่งคำว่าเสียชีวิตว่ามันหมายถึงอะไร

เขาได้สูญเสียบิดาไปตลอดกาล

เฉินถิงเซียวเดินมานั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้างของเขา พลางยื่นทิชชูให้กับเขา

เฉินเจียฉินเงยหน้าขึ้น ดวงตาบวมฉึ่งและแดงก่ำ จมูกแดงแจ๋ พลันส่งเสียงสะอึกสะอื้นแหบพร่าเรียกเขา “พี่ชาย”

แค่ออกปากเรียกเขาเพียงเท่านี้ น้ำตาของเฉินเจียฉินก็ไหลพรากออกมาทันที

แม้ว่าเขาจะเม้มปากอย่างฝืนกลั้น ก็สามารถเห็นถึงอาการเสียงสะอึกสะอื้นที่พยายามอดกลั้นอยู่ในลำคอ

“อื้อ” เฉินถิงเซียวส่งเสียงตอบรับ พลางยื่นทิชชูยัดใส่มือของเขา

คนเรามีเรื่องมากมายที่ไม่สามารถควบคุมได้ และก็ไม่สามารถเลือกได้

คำพูดปลอบใจ ซึ่งเวลาส่วนใหญ่ ล้วนเป็นสิ่งที่ชี้ชัดถึงช่วงเวลาที่อ่อนแอหมดกำลัง

เฉินเจียฉินกำทิชชูที่เฉินถิงเซียวยื่นมาให้เขาไว้แน่น พลางก้มหน้าลงต่ำสุด เพื่อไม่อยากให้เฉินถิงเซียวเห็นใบหน้าของตนเอง แต่ว่าเฉินถิงเซียวก็ยังมองเห็นหยดน้ำตาที่ไหลพรากออกมาเป็นเม็ดที่หยดแหมะลงบนพื้น

เฉินถิงเซียวทำได้แค่ตบหลังของเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน

……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม