ที่เฉินถิงเซียวพูดนั้นมู่น่อนน่อนไม่เชื่อแม้แต่คำเดียว
ทันใดนั้นเฉินถิงเซียวก็พูดว่า “ช่วงนี้ผมจะยุ่งมาก มีเรื่องอะไรก็ติดต่อกู้จือหยั่น”
“ยุ่งอะไรเหรอ” มู่น่อนน่อนค่อนข้างเหนือความคาดหมาย “เพราะเรื่องที่บริษัทเฉินซื่อราคาหุ้นตกเหรอ”
เฉินถิงเซียวหันหน้าไปมองเธอทันที มู่น่อนน่อนรอคำตอบของเขา ปรากฏว่าเขากลับโน้มตัวลงมาจูบเธอ
“เฉิน......” มู่น่อนน่อนเอนหนีไปข้างหลัง พยายามเลี่ยงการจูบของเขา
เฉินถิงเซียวถอยกลับเล็กน้อย ยกมือขึ้นดึงเนคไท พูดอย่างมีความหมาย “เตียงในห้องพักของโรงแรมจีนติ่ง ทั้งหมดผมส่งคนไปสั่งกลับมาจากต่างประเทศ ให้ความรู้สึกสบายกายอย่างถึงที่สุด อยากลองไหม”
มู่น่อนน่อนหน้าแดงเรื่อ ผลักเขาออกทันที “ฉันกลับแล้ว!”
เฉินถิงเซียวถูกเธอผลักลงไปบนโซฟาโดยไม่ได้มีการป้องกันตัว
เขานอนลงไปบนโซฟา พูดด้วยน้ำเสียงขี้เกียจระคนร้ายอาจ “ไม่ลองจริงเหรอ”
ที่ตอบเขาคือเสียงประตูกระแทกปิดดังลั่น
มู่น่อนน่อนไปแล้ว สีหน้าของเฉินถิงเซียวจึงค่อยๆ คลายลง
เขาพลิกตัวลุกขึ้นนั่ง ล้วงเอากล่องบุหรี่ออกมาจากตัว แล้วจุดไฟ
……
มู่น่อนน่อนขับรถกลับบ้านด้วยความโกรธเคือง
เธอยังคิดอยู่เลยว่าเฉินถิงเซียวมีเรื่องอะไรหรือเปล่า ปรากฏว่าก็ไร้ยางอายเป็นปกติเท่านั้นเอง
มู่น่อนน่อนนึกขึ้นได้ว่าผลไม้ในตู้เย็นหมดแล้ว จึงหยุดระหว่างทางเพื่อซื้อผลไม้กลับไป
เธอหอบผลไม้กลับมาถึงที่พัก เมื่อเปิดประตูเข้าไป ทุกอย่างยังคงเป็นปกติ
เพียงแต่ เมื่อเธอเอาผลไม้ใส่ตู้เย็นแล้วหยิบเอากล้วยออกมาผลหนึ่ง จู่ๆ ก็มีชายคนหนึ่งพันผ้าเช็ดตัวของเธอออกมาจากห้องนอนของเธอเอง
มู่น่อนน่อนตกใจจนก้าวถอยหลังไปสองก้าว “คุณ......คุณๆๆ เป็นใคร”
แม้ว่าเธอจะพยายามรักษาความสงบบนใบหน้าแล้ว แต่การพูดตะกุกตะกักมันทรยศเพราะความกลัวของเธอในตอนนี้
ดึกแล้ว เธอผู้หญิงคนเดียวกลับมาถึงบ้าน แล้วเห็นคนแปลกหน้าออกมาจากห้องนอนของตัวเอง ท่าทางเหมือนกับเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แถมร่างกายส่วนล่างยังพันด้วยผ้าเช็ดตัวของเธอด้วย......
ต่อให้เธอเป็นสาวเจ้าปัญหาที่เคยผ่านการต่อสู้ แต่ก็ยังมีความกังวลอยู่นิดหน่อย
ชายหนุ่มก้าวขายาวเดินตรงเข้ามาตรงหน้าเธอ ก้มหน้ามองเธอ “ไม่รู้จักผมเหรอ”
ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ สูงกว่าเธอมาก สูงพอๆ กับเฉินถิงเซียว คิ้วคมดั่งดาบดูองอาจกล้าหาญ
บนร่างกายมีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียว ที่ตรงกันข้ามกับลักษณะคือ ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าของเขาเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น ดูค่อนข้างน่ากลัว
บนตัวมีหยดน้ำเกาะพราว ระบายไอน้ำเย็น เห็นได้ชัดว่าเพิ่งอาบน้ำเย็นมา
ชายคนนี้แอบเข้าบ้านเธอตอนดึก และอาบน้ำเย็นในห้องน้ำของเธอ แถมผู้ชายโรคจิตนี่ยังใช้ผ้าเช็ดตัวของเธอด้วย!
มู่น่อนน่อนเกิดการแจ้งเตือนดังขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจ เมื่อเขาเข้ามาใกล้ เธอรีบวิ่งกลับหลังไปเอามีดที่ห้องครัว พลันสีหน้าระแวดระวังอย่างยิ่ง “คุณอย่าเข้ามา!”
ความสูงของชายหนุ่มเท่าๆ กับเฉินถิงเซียว ร่างกายกำยำแข็งแรงเหมือนเป็นครูสอนศิลปะการต่อสู้ ถ้าต่อสู้กันเธอเอาชนะเขาไม่ได้แน่
ดวงตาของมู่น่อนน่อนจับจ้องเขาเขม็ง กลัวว่าเขาจะลงมือทำร้ายเธอ มืออีกข้างของเธอล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบโทรศัพท์มือถือ
ชายหนุ่มเห็นการเคลื่อนไหวของเธอ จึงกระตุกยิ้มมุมปาก และพูดกับตัวเอง “ดูเหมือนว่าจะไม่รู้จักผมจริงๆ งั้นผมจะแนะนำตัวเอง ผมคือลี่จิ่วเชียน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...