ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 380

เฉินมู่สะบัดมือของเฉินถิงเซียวออก และวิ่งมุ่งหน้าไปทางมู่น่อนน่อนทันที

เธอวิ่งเข้าไปหาแล้วกอดขาของมู่น่อนน่อนเอาไว้ จากนั้นก็เงยหน้าจ้องมองเธอ “คุณก็อยู่ที่นี่หรือคะ”

“ใช่จ๊ะ ฉันก็พักอยู่ฝั่งตรงข้าม” มู่น่อนน่อนพูดไป ก็นั่งคุกเข่าลงและจัดการอุ้มเฉินมู่ขึ้นมา และชี้ไปทางประตูที่อยู่ด้านหลัง

เธอเพิ่งจะทำกับข้าวเสร็จไม่นาน และรอให้ลี่จิ่วเชียนกลับมากินข้าวด้วยกัน แต่ลี่จิ่วเชียนก็ยังไม่กลับมาสักที เลยคิดว่าจะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อสักหน่อย

ผลที่ได้คือ พอเปิดประตูออกมาก็เห็นกลุ่มของเฉินถิงเซียวทันที

เฉินถิงเซียวเหลือบมองไปยังด้านหลังของมู่น่อนน่อน

ตอนที่เธอออกมานั้น ประตูบ้านก็ยังไม่ได้ปิดเลย เมื่อมองลอดช่องประตูที่แง้มอยู่ก็เห็นการตกแต่งบ้านอันอบอุ่น และกลิ่นกับข้าวหอมๆ

สีหน้าของเฉินถิงเซียวหม่นหมองลงอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นก็เบนสายตามามองเฉินมู่ และเรียกเตือนออกไป “มู่มู่”

เฉินมู่ชำเลืองมองตาเฉินถิงเซียวแวบหนึ่งอย่างระแวดระวัง และก็ลื่นตัวลงมาจากมู่น่อนน่อนอย่างไม่ยินยอม และเดินเตาะแตะกลับไปยืนอยู่ด้านหน้าของเฉินถิงเซียว

เธอเดินกลับไปนั้น ยังคว้านิ้ว--มือของเฉินถิงเซียวเอาไว้อย่างเอาใจ

เฉินถิงเซียวฝ่ามือใหญ่มาก เธอก็แค่คว้านิ้วของเขาเอาไว้นิ้วหนึ่งเท่านั้น

เธอสนิทสนมกับเฉินถิงเซียวที่สุด และรับสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเฉินถิงเซียวที่กำลังโกรธขึ้นมาแล้ว

แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมคุณพ่อถึงได้โกรธเรื่องอะไรก็ตาม แต่ว่าเวลานี้ทำได้แค่เชื่อฟังเพื่อต่อสู้กลับ

คุณพ่อไม่เคยตี แต่เรื่องโกรธก็ทำให้คนตกใจมาก...

มู่น่อนน่อนเห็นท่าทางเป็นเด็กน้อยของเฉินมู่ จนปวดใจเล็กน้อย และรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวรุนแรงกับเฉินมู่มากเกินไป

เด็กก็ยังเด็กเกินไป ไม่สามารถต้องทำแบบนี้ทุกครั้งไป ควรจะให้คำแนะนำถึงจะถูกต้องสิ

แต่ว่าเธอกับเฉินถิงเซียวก็ไม่ได้สนิทกัน ไม่ว่ามีวิธีคิดอะไรก็ทำได้แค่กลืนลงคอไป

เฉินถิงเซียวจ้องมองมู่น่อนน่อนด้วยแววตาไร้ความรู้สึก และเดินจูงมือเฉินมู่หันตัวกลับ จากนั้นก็พูดกับสือเย่ “เปิดประตู”

หลังจากที่สือเย่เปิดประตูให้แล้ว ก็ให้เฉินถิงเซียวกับมู่น่อน่อนเข้าไปก่อน เขาอยู่รั้งท้าย และพยักหน้าให้มู่น่อนน่อนเล็กน้อย

มู่น่อนน่อนฉุกคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าเขาคือผู้ชายที่คุยกับเธอเมื่อตอนกลางวัน เลยตอบกลับทันที “คุณเองเหรอคะ ที่ช่วยหาบ้านให้กับคุณเฉิน?”

“ใช่ครับ” สือเย่หลุบตาต่ำ และยื่นนามบัตรให้ด้วยความเคารพ “สวัสดีครับ ผมชื่อสือเย่”

มู่น่อนน่อนรับนามบัตรมา พร้อมทั้งมองอยู่แวบหนึ่งอย่างมีมารยาทแล้วเก็บลงไป “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมู่น่อนน่อนค่ะ”

นัยน์ตาสือเย่ทอประกายเล็กน้อย “ต่อไปคุณมู่ก็จะเป็นเพื่อนบ้านกับคุณชายของผมแล้ว ยังไงก็ต้องขอคำชี้แนะจากคุณมู่ด้วยนะครับ”

มู่น่อนน่อนตะลึงเล็กน้อย “คุณสือก็เกรงใจเกินไปแล้ว”

รอจนสือเย่เดินเข้าไปแล้ว มู่น่อนน่อนถึงได้ทำหน้าสงสัยแล้วหันตัวเดินกลับไปปิดประตู และมุ่งหน้าเดินทางลิฟต์

เฉินถิงเซียวพาลูกสาวของเขามาด้วย และย้ายมาพักอยู่ที่หมู่บ้านนี้อย่างกะทันหันเลยเหรอ?

แม้ว่าสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านนี้ ถือว่าหรูหรามีระดับ แต่คนมีเงินอย่างเฉินถิงเซียวแบบนั้นควรจะพักในวิลล่าที่กว้างขวางที่มีบ่าวไพร่ล้อมหน้าล้อมหลังไม่ใช่หรอกเหรอ?

ทำไมถึงได้ย้ายมาพักอยู่ที่นี่อย่างกะทันหันล่ะ?

มู่น่อนน่อนเกิดอาการสงสัย หลังจากออกไปซื้อของจากซูเปอร์มาเก็ตแล้วกลับมาแล้วนั้น ถึงนึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่ตนเองออกจากบ้านนั้นลืมเอากุญแจและโทรศัพท์เอาออกมาด้วย

ลี่จิ่วเชียนก็ไม่รู้ว่าจะกลับบ้านมาตอนไหน เธอทำได้แค่ยืนรออยู่หน้าประตูเท่านั้นเอง

เวลานั้นเอง ประตูฝั่งตรงข้ามก็เปิดออกมา

สือเย่ช่วยสองพ่อลูกจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมจะกลับบ้านอยู่แล้ว

มู่น่อนน่อนพูดทักทายอย่างมีมารยาท “คุณสือ”

ไม่รอให้สือเย่ตอบกลับเลย พลันมีศีรษะเล็กๆ โผล่ออกมาจากด้านหลัง “พี่สาวคนสวยเหรอคะ?”

เฉินมู่พาดตัวอยู่ด้านข้างประตู พร้อมทั้งเบิกตาโตแววตาดำขลับทอประกาย พร้อมทั้งจ้องมองมู่น่อนน่อนด้วยความตื่นเต้น

มู่น่อนน่อนยิ้มให้เธอ “มู่มู่”

เฉินมู่ถามเธอกลับด้วยความแปลกใจ “ทำไมพี่ถึงนั่งอยู่ตรงประตูล่ะคะ?”

“พี่ลืมเอากุญแจออกมา เลยเข้าบ้านไม่ได้”

“หือ?” เฉินมู่เหมือนตอบสนองกลับไม่ทัน พลันเงยหน้ามองสือเย่

สือเย่ลูบผมของเธอ “ไม่มีกุญแจก็เปิดประตูไม่ได้ เลยเข้าบ้านไม่ได้ค่ะ”

“อ๋อ” เฉินมู่พยักหน้า จากนั้นก็เปิดประตูแล้ววิ่งมาทางมู่น่อนน่อน และจูงมือเธอมุ่งหน้ามายังประตูบ้านของตนเอง “งั้นพี่สาวคนสวยก็ไปบ้านหนูเถอะค่ะ”

“… ไม่ต้องหรอกจ้า เดี๋ยวก็มีคนมาเปิดประตูให้พี่แล้วมั้ง?”

เฉินมู่ยังคงดื้อรั้นมาก “ไปเถอะค่ะ”

มู่น่อนน่อนถูกเฉินมู่ฉุดเขามาบ้านเธอ

พอเฉินมู่เข้าประตูมา ก็ตะโกนเสียงดังลั่นเหมือนได้สมบัติมา “เฉินชิงเซียวพี่สาวคนสวยมาแล้วค่ะ!”

เธอพูดจบ ก็จัดแจงหารองเท้าแตะที่อยู่ในตู้รองเท้าที่อยู่ด้านข้างให้เฉินมู่

ในตู้ใส่รองเท้ามีแค่รองเท้าแตะของเธอกับเฉินถิงเซียว เธอเอามาเปรียบเทียบอยู่เล็กน้อย จากนั้นก็เอารองเท้าแตะของเฉินถิงเซียวเอามาให้มู่น่อนน่อน “ให้พี่ใส่อันนี้ค่ะ”

พูดจบ เธอก็รู้สึกว่าจัดการได้ยังไม่ดีพอ เลยหาที่มันเข้าคู่กัน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองมู่น่อนน่อน และทำหน้าตาคาดหวังอยู่เช่นนั้น

มู่น่อนน่อนอดยิ้มไหวจนต้องลูบแก้มของเธอ “ขอบใจจ้า”

“ไม่เป็นไรค่ะ” เฉินมู่เริ่มอายจนวิ่งหนีไปเลย

มู่น่อนน่อนยืนอยู่ตรงทางเดินปากประตู และสำรวจบริเวณโดยรอบ

ตัวบ้านซึ่งเหมือนกับลี่จิ่วเชียนทั้งหมด เป็นแบบดูเพล็กซ์ ตกแต่งสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน อบอุ่นมาก มองออกเลยว่าเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเป็นของใหม่ทั้งหมด

เธอได้แต่ลังเลว่าจะเปลี่ยนรองเท้าเข้าไปดีไหม

แม้ว่าเฉินมู่เป็นคนเชื้อเชิญเธอให้เข้ามา แต่ว่าเฉินถิงเซียวเหมือนจะติดเกลียดเธออยู่หน่อยๆ

เธอก้มศีรษะลง จากนั้นก็มองรองเท้าแตะที่เฉินมู่เอามาให้เธอ

เธอย่างเท้าออกไป จนเท้าแตะบริเวณด้านข้างของรองเท้าแตะเพื่อเปรียบเทียบดูสักหน่อย รองเท้าแตะของผู้ชายมันยาวกว่าเท้าของเธออีกเป็นคืบ

การที่มาใส่รองเท้าแตะของผู้ชายสักคน ถือว่าไม่มีมารยาทเป็นอย่างมาก

ดังนั้น มู่น่อนน่อนจึงเอารองเท้าแตะกลับไปวางที่เดิม และเดินเท้าเปล่าเข้าไปในบ้าน

ไม่รู้ว่าเฉินมู่ไปเทน้ำมาให้จากไหน และวิ่งหน้าตั้งด้วยความดีใจพุ่งมาทางเธอ “พี่สาวคนสวย นี่น้ำของพี่ค่ะ”

เธอค่อนข้างเดินเร็ว เธอเดินมา น้ำที่อยู่ในแก้วมันก็กระฉอกออกมานอกแก้ว

มู่น่อนน่อนรีบเดินไปรับน้ำเอาไว้ทันที

แก้วน้ำใบใหญ่ กระฉอกออกจนเหลือประมาณสองอึกได้

ท่ามกลางแววตาเฉินมู่ที่คาดหวัง เธอก็จัดการดื่มน้ำจนหมดเกลี้ยง

เฉินมู่ดีใจมาก “อร่อยไหมคะ?”

แม้ว่ารสชาติของน้ำมันจะติดแปลกๆ อยู่หน่อย มู่น่อนน่อนก็ยังพยักหน้าให้ “อร่อยค่ะ”

“เดี๋ยวหนูไปเติมน้ำให้เฉินชิงเซียวแก้วหนึ่ง” เฉินมู่พูดไปด้วยก็ดึงแก้วกลับ และวิ่งเข้า.... ห้องน้ำไปทันที

มู่น่อนน่อนเอียงคอตาม ก็เห็นเฉินมู่กำลังเหยียบอยู่บนเก้าอี้ และใช้แก้วรอน้ำทางด้านล่างจากก๊อกน้ำ

หรือว่า...รสชาติแปลกๆ นั่นคือ....

“มู่มู่เมื่อกี้ลูกพูดว่าอะไรนะ?”

พลันมีเสียงเฉินถิงเซียวมาจากด้านหลัง น้ำเสียงเฉยเมยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะผู้ชายคนนี้จริงๆ

มู่น่อนน่อนหันหลังขวับไปทันที ก็เห็นเฉินถิงเซียวใส่เสื้อคลุมอาบน้ำเดินลงมาจากชั้นบน

ตอนที่เธอมองมาทางเขานั้น เขาก็เห็นเธอเช่นเดียวกัน

ฝีเท้าของเฉินถิงเซียวค้างเติ่งทันที สีหน้าที่ไร้ความรู้สึกอยู่ตลอด แต่พอมาเห็นมู่น่อนน่อนแล้ว การแสดงออกก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย

เมื่อดวงตาสองคู่ประสานกัน แววตาของเขานั้นช่างเฉียบคมเกินไป จนมู่น่อนน่อนเริ่มเบนสายตาก่อน พลันเอ่ยทักเสียงทุ้มต่ำ “คุณเฉิน”

เฉินถิงเซียวก็เดินมายืนตรงด้านหน้าของเธอ น้ำเสียงยังคงเย็นชาดั่งเดิม “มู่มู่ล่ะ?”

เธอคิดว่า เขาจะเอ่ยปากถามว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้

“มู่มู่เธอไป...” มู่น่อนน่อนยังพูดไม่ทันจบ ก็ได้ยินเสียงเฉินมู่ดังขึ้น “เฉินชิงเซียว หนูเทน้ำมาให้พ่อค่ะ”

ทั้งสองคนหันหน้ากลับมา ก็เห็นเฉินมู่เดินเตาะแตะอยู่บนรองเท้าแตะ “เตาะแตะ เตาะแตะ” วิ่งมาทางด้านหน้า และจัดการยื่นน้ำให้ราวกับเป็นสมบัติให้ “นี่ค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม