เฉินมู่สะบัดมือของเฉินถิงเซียวออก และวิ่งมุ่งหน้าไปทางมู่น่อนน่อนทันที
เธอวิ่งเข้าไปหาแล้วกอดขาของมู่น่อนน่อนเอาไว้ จากนั้นก็เงยหน้าจ้องมองเธอ “คุณก็อยู่ที่นี่หรือคะ”
“ใช่จ๊ะ ฉันก็พักอยู่ฝั่งตรงข้าม” มู่น่อนน่อนพูดไป ก็นั่งคุกเข่าลงและจัดการอุ้มเฉินมู่ขึ้นมา และชี้ไปทางประตูที่อยู่ด้านหลัง
เธอเพิ่งจะทำกับข้าวเสร็จไม่นาน และรอให้ลี่จิ่วเชียนกลับมากินข้าวด้วยกัน แต่ลี่จิ่วเชียนก็ยังไม่กลับมาสักที เลยคิดว่าจะไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อสักหน่อย
ผลที่ได้คือ พอเปิดประตูออกมาก็เห็นกลุ่มของเฉินถิงเซียวทันที
เฉินถิงเซียวเหลือบมองไปยังด้านหลังของมู่น่อนน่อน
ตอนที่เธอออกมานั้น ประตูบ้านก็ยังไม่ได้ปิดเลย เมื่อมองลอดช่องประตูที่แง้มอยู่ก็เห็นการตกแต่งบ้านอันอบอุ่น และกลิ่นกับข้าวหอมๆ
สีหน้าของเฉินถิงเซียวหม่นหมองลงอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นก็เบนสายตามามองเฉินมู่ และเรียกเตือนออกไป “มู่มู่”
เฉินมู่ชำเลืองมองตาเฉินถิงเซียวแวบหนึ่งอย่างระแวดระวัง และก็ลื่นตัวลงมาจากมู่น่อนน่อนอย่างไม่ยินยอม และเดินเตาะแตะกลับไปยืนอยู่ด้านหน้าของเฉินถิงเซียว
เธอเดินกลับไปนั้น ยังคว้านิ้ว--มือของเฉินถิงเซียวเอาไว้อย่างเอาใจ
เฉินถิงเซียวฝ่ามือใหญ่มาก เธอก็แค่คว้านิ้วของเขาเอาไว้นิ้วหนึ่งเท่านั้น
เธอสนิทสนมกับเฉินถิงเซียวที่สุด และรับสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของเฉินถิงเซียวที่กำลังโกรธขึ้นมาแล้ว
แม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าทำไมคุณพ่อถึงได้โกรธเรื่องอะไรก็ตาม แต่ว่าเวลานี้ทำได้แค่เชื่อฟังเพื่อต่อสู้กลับ
คุณพ่อไม่เคยตี แต่เรื่องโกรธก็ทำให้คนตกใจมาก...
มู่น่อนน่อนเห็นท่าทางเป็นเด็กน้อยของเฉินมู่ จนปวดใจเล็กน้อย และรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวรุนแรงกับเฉินมู่มากเกินไป
เด็กก็ยังเด็กเกินไป ไม่สามารถต้องทำแบบนี้ทุกครั้งไป ควรจะให้คำแนะนำถึงจะถูกต้องสิ
แต่ว่าเธอกับเฉินถิงเซียวก็ไม่ได้สนิทกัน ไม่ว่ามีวิธีคิดอะไรก็ทำได้แค่กลืนลงคอไป
เฉินถิงเซียวจ้องมองมู่น่อนน่อนด้วยแววตาไร้ความรู้สึก และเดินจูงมือเฉินมู่หันตัวกลับ จากนั้นก็พูดกับสือเย่ “เปิดประตู”
หลังจากที่สือเย่เปิดประตูให้แล้ว ก็ให้เฉินถิงเซียวกับมู่น่อน่อนเข้าไปก่อน เขาอยู่รั้งท้าย และพยักหน้าให้มู่น่อนน่อนเล็กน้อย
มู่น่อนน่อนฉุกคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าเขาคือผู้ชายที่คุยกับเธอเมื่อตอนกลางวัน เลยตอบกลับทันที “คุณเองเหรอคะ ที่ช่วยหาบ้านให้กับคุณเฉิน?”
“ใช่ครับ” สือเย่หลุบตาต่ำ และยื่นนามบัตรให้ด้วยความเคารพ “สวัสดีครับ ผมชื่อสือเย่”
มู่น่อนน่อนรับนามบัตรมา พร้อมทั้งมองอยู่แวบหนึ่งอย่างมีมารยาทแล้วเก็บลงไป “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อมู่น่อนน่อนค่ะ”
นัยน์ตาสือเย่ทอประกายเล็กน้อย “ต่อไปคุณมู่ก็จะเป็นเพื่อนบ้านกับคุณชายของผมแล้ว ยังไงก็ต้องขอคำชี้แนะจากคุณมู่ด้วยนะครับ”
มู่น่อนน่อนตะลึงเล็กน้อย “คุณสือก็เกรงใจเกินไปแล้ว”
รอจนสือเย่เดินเข้าไปแล้ว มู่น่อนน่อนถึงได้ทำหน้าสงสัยแล้วหันตัวเดินกลับไปปิดประตู และมุ่งหน้าเดินทางลิฟต์
เฉินถิงเซียวพาลูกสาวของเขามาด้วย และย้ายมาพักอยู่ที่หมู่บ้านนี้อย่างกะทันหันเลยเหรอ?
แม้ว่าสภาพแวดล้อมของหมู่บ้านนี้ ถือว่าหรูหรามีระดับ แต่คนมีเงินอย่างเฉินถิงเซียวแบบนั้นควรจะพักในวิลล่าที่กว้างขวางที่มีบ่าวไพร่ล้อมหน้าล้อมหลังไม่ใช่หรอกเหรอ?
ทำไมถึงได้ย้ายมาพักอยู่ที่นี่อย่างกะทันหันล่ะ?
มู่น่อนน่อนเกิดอาการสงสัย หลังจากออกไปซื้อของจากซูเปอร์มาเก็ตแล้วกลับมาแล้วนั้น ถึงนึกขึ้นมาได้ว่าตอนที่ตนเองออกจากบ้านนั้นลืมเอากุญแจและโทรศัพท์เอาออกมาด้วย
ลี่จิ่วเชียนก็ไม่รู้ว่าจะกลับบ้านมาตอนไหน เธอทำได้แค่ยืนรออยู่หน้าประตูเท่านั้นเอง
เวลานั้นเอง ประตูฝั่งตรงข้ามก็เปิดออกมา
สือเย่ช่วยสองพ่อลูกจัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมจะกลับบ้านอยู่แล้ว
มู่น่อนน่อนพูดทักทายอย่างมีมารยาท “คุณสือ”
ไม่รอให้สือเย่ตอบกลับเลย พลันมีศีรษะเล็กๆ โผล่ออกมาจากด้านหลัง “พี่สาวคนสวยเหรอคะ?”
เฉินมู่พาดตัวอยู่ด้านข้างประตู พร้อมทั้งเบิกตาโตแววตาดำขลับทอประกาย พร้อมทั้งจ้องมองมู่น่อนน่อนด้วยความตื่นเต้น
มู่น่อนน่อนยิ้มให้เธอ “มู่มู่”
เฉินมู่ถามเธอกลับด้วยความแปลกใจ “ทำไมพี่ถึงนั่งอยู่ตรงประตูล่ะคะ?”
“พี่ลืมเอากุญแจออกมา เลยเข้าบ้านไม่ได้”
“หือ?” เฉินมู่เหมือนตอบสนองกลับไม่ทัน พลันเงยหน้ามองสือเย่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...