เฉินถิงเซียวนั่งพิงเก้าอี้ น้ำเสียงดูไม่ใส่ใจเป็นอย่างมาก “ไม่ต้องสนใจพ่อ ลูกกินไปเลย”
เฉินมู่แฉเขาอย่างไรความปรานี “แต่เหมือนว่าพ่อกำลังโกรธ……”
เธอพูดไปด้วย ขณะหยิบซี่โครงจากจานอาหารค่ำส่งเข้าปากเขาไปด้วย
ซี่โครงนี้คือสิ่งที่มู่น่อนน่อนึ่งจะคีบให้เธอ
เฉินมู่ใช้ตะเกียบไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ ก็เลยใช้มือ กัดจนปากมันไปหมด
เฉินถิงเซียวเหลือบมองเธอ เอื้อมมือออกไปม้วนแขนเสื้อขึ้น
เฉินมู่ยื่นซี่โครงอีกครึ่งชิ้นที่เหลือของตัวเองไปตรงหน้าเฉินถิงเซียว ท่าทางดูไม่อยากจะให้ “เนื้อเนื้อ น่ากินๆ ”
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร ได้แค่หันหน้าไปทางอื่น ปฏิเสธแบบไร้เสียง
เฉินมู่เห็นว่าเขาไม่กิน ก็รีบเก็บกลับมาในทันที แล้วก็กล่าวอย่างคลุมเครือว่า “ให้พี่สาวสุดสวยให้พ่อกิน”
คำว่า “คีบ”ถูกเธอละทิ้งไป
เฉินถิงเซียวแก้ไขให้เธอ “คุณน้า”
เฉินมู่ทำตามคำแนะนำ “คุณน้าสุดสวย”
มู่น่อนน่อนเห็นการโต้ตอบระหว่างพ่อกับลูกสาว ปากก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา
ถึงแม้ว่าเฉินถิงเซียวจะละเอียดรอบคอบไม่พอ แต่ว่าเขาก็ตั้งใจดูแลเฉินมู่อย่างดี
แต่ว่า เฉินมู่คือเด็กน้อยที่ไว้หน้าคนอื่น คำเรียกของเธอหนีไม่พ้นคำว่า “สวย” คำนี้
เฉินมู่กินซี่โครงในมือจนเสร็จ แล้วก็ดูดนิ้วพร้อมกับหันไปมองมู่น่อนน่อน ใบหน้าไร้เดียงสา “คุณน้าสุดสวยเอาเนื้อให้พ่อหน่อยค่ะ”
บรรยากาศดูกระอักกระอ่วนขึ้นในทันที
มู่น่อนน่อนไม่มีทางรู้สึกว่า เฉินถิงเซียวคือคนที่ปล่อยให้คนอื่นคีบอาหารให้ได้มั่วซั่ว
น่าจะเพราะว่าความรู้สึกของระยะห่างค่อนข้างจะชัดเจน มู่น่อนน่อนรู้สึกว่า แค่การที่ตัวเองนั่งกินข้าวกับเฉินถิงเซียวก็แปลกพอแล้ว อย่าพูดถึงการคีบอาหารให้เขาเลย
“พ่อของหนูอยากกินอะไร เขาก็คีบเองได้ หนู……”
เดิมมู่น่อนน่อนอยากจะผ่อนคลายบรรยากาศที่กระอักกระอ่วนนี้ ไม่คิดเลยว่าจู่ๆ เฉินถิงเซียวจะพูดขึ้นมา “มู่มู่ พ่ออยากกินซี่โครง”
ถึงแม้ว่าคำพูดของเขาจะพูดกับเฉินมู่ แต่ว่ามู่น่อนน่อนกลับรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังพูดอยู่กับตัวเอง
บรรยากาศยิ่งกระอักกระอ่วนขึ้นไปกันใหญ่
“หา? ” เฉินมู่มองมือที่มันเยิ้มของตัวเอง ใบหน้าของเด็กน้อยดูทำอะไรไม่ถูก “สกปรก”
ทันใดนั้นลี่จิ่วเชียนก็พูดขึ้นมา “ความสัมพันธ์ระหว่างคุณเฉินกับลูกดีมากเลยนะครับ คิดว่า คุณน่าจะรักแม่ของเด็กมากเลยนะครับ”
ดวงตาของเฉินถิงเซียวมีหมอกหนาทึบขึ้นมาในทันที พร้อมกับพูดอย่างเย้ยหยัน “ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ของคุณลี่กับคุณมู่ จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นักนะครับ”
สีหน้าของลี่จิ่วเชียนไม่ได้เปลี่ยนไป แต่ว่าไม่ได้มีท่าทีเหมือนกับว่าจะยอมแพ้ “ดูไม่ออกเลยนะครับ ว่าคุณเฉินมีงานอดิเรกชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นด้วย”
เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาของเขานั้นมืดมิด “ไม่เท่ากับการที่คุณลี่ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นหรอกครับ”
ลี่จิ่วเชียนสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาโกรธมากแต่กลับยิ้มออกมา “ที่คุณเฉินพูดก็ถูก”
เฉินถิงเซียวไม่ได้ไปสนใจลี่จิ่วเชียนอีก หันหน้าไปมองเฉินมู่ ถึงแม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ว่าเสียงก็เบากว่าเดิมลงมาก “กินอิ่มรึยัง? ”
เฉินมู่สัมผัสได้ว่าบรรยากาศดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ ก็พยักหน้าด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “กินอิ่มแล้วค่ะ”
“ถ้ายังงั้นก็กลับได้แล้ว”เฉินถิงเซียวยื่นมือไปอุ้มเธอขึ้นมา แล้วก็หันไปมองลี่จิ่วเชียนไปมู่น่อนน่อน “ขอบคุณสำหรับการต้อนรับนะครับ”
พอเห็นว่าเฉินถิงเซียวออกมาแล้ว มู่น่อนน่อนถึงได้เอ่ยปากถามลี่จิ่วเชียนด้วยสีหน้าที่แปลกประหลาด “นายกับคุณเฉินเป็นอะไรกัน? เมื่อก่อนเคยไม่พอใจกันงั้นเหรอ? ”
ตอนที่เฉินถิงเซียวเข้ามาในบ้านนั้น ผู้ชายทั้งสองคนนี้ก็ยังดูปกติดีมากอยู่เลย
เธอก็แค่เข้าไปตักอาหารในครัว ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้?
แล้วอีกอย่าง แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยเห็นลี่จิ่วเชียนใช้น้ำเสียงที่แหลมคมแบบนี้พูดกับใครมาก่อนเลย เห็นได้ชัดว่าเขากำลังโกรธ
ลี่จิ่วเชียนคลี่ยิ้ม “ไม่มีอะไรหรอก กินข้าวกันเถอะ”
มู่น่อนน่อนมองออกว่าลี่จิ่วเชียนไม่อยากจะเจาะลึกเข้าไปในหัวข้อนี้
ยิ่งเขาเป็นแบบนี้ มู่น่อนน่อนยิ่งรู้สึกว่า เมื่อก่อนลี่จิ่วเชียนน่าจะรู้จักกับเฉินถิงเซียว หรือไม่ก็เคยมีเรื่องขัดแย้งอะไรกับเฉินถิงเซียว
เขาไม่อยากพูด เธอก็ไม่ถามมาก
สายตาของเธอไปตกอยู่ที่จานของเฉินมู่ ในนั้นมีซี่โครงอยู่แค่ชิ้นเดียวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...