ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 396

มู่น่อนน่อน งอปาก ยิ้มด้วยสีหน้าที่ดูแข็งเกร็ง " ฉันรู้ดีว่าคุณเฉนเป็นคนที่ร่ำรวยและมั่งคั่ง แต่ฉันไม่ต้องการให้คุณต้องใช้จ่ายสิ้นเปลืองแบบนี้ "

เธอไปอยู่ที่นั่นกับลี่จิ่วเชียนมาช่วงหนึ่ง ถึงของที่ใช้ในชีวิตประจำวันแต่ไม่มากเท่าไหร่ แต่ของแต่ละชิ้นที่เพิ่มมาก็ใช้เงินซื้อไม่น้อย

ของพวกนั้นยังใช้ได้ทั้งหมด ทำไมถึงต้องทิ้งด้วยล่ะ

เฉินถิงเซียวมองหน้าเธอ ทำเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม ก่อนจะพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำที่เดาอารมณ์ไม่ถูก: " ไม่ใช้เงินของผม? ถ้างั้นคุณก็คงพอใจกับการใช้เงินของคนหลอกลวงอย่างลี่จิ่วเชียนน่ะสิ แบบนั้นคงสบายใจกว่าสินะ? "

" คุณเฉิน อย่าพูดสรุปในเรื่องที่คุณไม่รู้ความจริงแน่ชัดมาก่อนดีกว่านะคะ เพราะคุณอาจจะทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นได้! "

มู่น่อนน่อนรู้สึกว่าเฉินถิงเซียวคิดเองเออเองเกินไปแล้ว

ลี่จิ่วเชียนกล่าวโทษอะไรถึงเขาเลย แต่เขาถึงกับต้องพุ่งเข้าไปที่ลี่จิ่วเชียนแบบนี้เลยเหรอ?

หรือที่ผ่านมาผู้ชายอวดดีคนนี้ ใช้ใจในการทำเรื่องทุกอย่างเลยเหรอ?

มู่น่อนน่อนพูดจบ ก็ไม่ให้ช่องกับเฉินถิงเซียวได้พูด ก็เสริมขึ้นมาว่า " อีกอย่าง ฉันจะใช้เงินใครก็ไม่ใช่เรื่องของคุณ "

เธอใช้เงินของลี่จิ่วเชียนก็จริง แต่เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ใช้เธอก็จดบันทึกไว้ทั้งหมด รวมถึงค่าเข้าพักโรงพยาบาลสามปีก่อนหน้านี้ด้วย เธอยังเก็บบัญชีไว้อยู่เลย

ไม่ว่าเธอจะทำเรื่องอะไรเธอก็รู้ขีดจำกัดของตัวเองดี

เฉินถิงเซียวได้ยินที่เธอพูด สีหน้าของเขาก็ดูนิ่งลง

ผู้หญิงที่ไม่หัดแยกแยะดีเลวคนนี้นี่มัน!

เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงคำพูดที่ฟังไม่เข้าหูของเฉินถิงเซียว มู่น่อนน่อนก็ไม่รอให้เขาเปิดปากพูด เธอพูดจบก็รีบสาวเท้าออกไปข้างนอก

เสียงของเฉินถิงเซียวที่ได้ยินตามหลังมาคือเสียงตะโกนด้วยความโมโห " มู่น่อนน่อน! "

มู่น่อนน่อนกำหมัด ในใจก็ได้แต่คิดว่ายกนี้ตัวเองชนะแล้ว " V "

เมื่อออกไปข้างนอก มู่น่อนน่อนก็เล่าสถานการณ์คร่าวๆ ให้ลี่จิ่วเชียนฟัง

ลี่จิ่วเชียนยิ้มและพูดย้ำกับเธอ " ไม่เป็นไรหรอก ของของคุณ เดี๋ยวผมเก็บไว้ให้คุณเอง "

คำพูดนี้จังหวะพอดีกับที่เฉินถิงเซียวเพิ่งจะเดินออกมา จึงได้ยินเข้า

เขาจึงเดินตรงข้อมือ ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์แล้วมองไปยังมู่น่อนน่อน: " ไม่ใช่จะกลับไปเอาของหรือไง? "

" ฮ้ะ? " แล้วเมื่อกี้ไม่ได้พูดเรอะ ว่าไม่ให้กลับไปเอาของน่ะ?

เฉินถิงเซียวทำสีหน้าเร่งเร้าเธอ: " ยังไม่รีบไปอีก? "

มู่น่อนน่อนดึงสติได้ก็ย่างเท้าตามเขาไป

เมื่อเธอก้าวขาไปได้สองสามก้าวก็หันไปมองลี่จิ่วเชียน

ลี่จิ่วเชียนยิ้มให้เธอ แล้วเดินตามไปด้วย

.........

มู่น่อนน่อนยืนอยู่ในห้องโถงของบ้านลี่จิ่วเชียน เธอมองเฉินถิงเซียวด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก ที่เห็นเขากำลังชี้นิ้วสั่งให้ลูกน้องเข้าไปช่วยเธอขนของภายในบ้าน

บริษัทเฉินซื่อเป็นกิจการใหญ่ระดับข้ามชาติขนาดนั้น,ประธานอย่างเฉินถิงเซียวต้องว่างขนาดนี้เลยเหรอ?

หรือว่าบริษัทเฉินซื่อจะข้ามขั้นแล้ว?

เธอก็บอกไปแล้วว่าไม่ได้มีของอะไรเยอะแยะ เฉินถิงเซียวก็ยังจะให้คนมาช่วยเธอย้ายอีก

เมื่อเห็นว่ากลุ่มลูกน้องของเขาที่ยืนนิ่งไม่รู้จะจัดเก็บยังไงอยู่ในห้อง มู่น่อนน่อนก็ทนดูต่อไปไม่ไหวจึงพูดว่า " ฉันคนเดียวก็ได้แล้ว อีกอย่างมันเป็นของใช้ส่วนตัว.... "

เธอคงไม่เท่าพวกเขาที่ไม่รู้จะลงมือยังไง เพราะเธอไม่มีของอะไรจะให้ย้ายจริงๆ

เฉินถิงเซียว ยืนกวาดสายตาอยู่ตรงหน้าประตู เห็นได้ชัดว่าห้องนี้มีเพียงร่องรอยของมู่น่อนน่อนคนเดียวที่อาศัยอยู่

เขาทำเป็นถามแบบขอไปที: " ลี่จิ่วเชียนล่ะอยู่ห้องไหน? "

ขณะที่มู่น่อนน่อนเก็บของอยู่ ก็ตอบด้วยท่าทีสบายๆ "เขาก็อยู่ห้องของตัวเองน่ะสิ "

เฉินถิงเซียวไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

เมื่อให้มู่น่อนน่อนจัดการของของตัวเองให้เรียบร้อยแล้วก็ออกไป ของพวกนั้นก็ถูกลูกน้องของเฉินถิงเซียวขนไปไว้ในลิฟต์

มู่น่อนน่อนถามเฉินถิงเซียว: " ไม่ได้อยู่ตรงข้ามเหรอ? "

เฉินถิงเซียวกวาดสายตามองเธอ แล้วตอบด้วยอารมณ์ที่สงบนิ่ง " เล็กเกิน อยู่ไม่ไหว "

มู่น่อนน่อนเม้มปากหมดคำจะพูด

ภายในบริเวณบ้านที่มีคุณภาพสูงแห่งนี้เป็นลักษณะสองชั้นทั้งหมด มันไม่ได้ดูเล็กเลยด้วยซ้ำ

อีกอย่างเฉินถิงเซียวเพิ่งจะย้ายได้มาไม่นาน ก็จะเปลี่ยนบ้านอีกแล้วเหรอ.....

ก็เป็นคนมีเงินนี่นะ

ในที่สุดรถก็ขับมาจอดที่หน้าคฤหาสน์แห่งหนึ่ง

มู่น่อนน่อนยืนอยู่หน้าประตูห้องคฤหาสน์ ในที่สุดตอนนี้เธอก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเฉินถิงเซียวถึงบอกว่าบ้านและห้องแถวนั้น มันถึงได้เล็กจนอยู่ไม่ได้

คฤหาสน์ทั้งสี่ชั้นมีสวนดอกไม้ มีร้านบ้านที่กว้างใหญ่ พร้อมทั้งคนใช้และบอดี้การ์ดเป็นกลุ่ม

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูแล้ว คนใช้และบอดี้การ์ดต่างยืนกันเป็นแถวสองฝั่งแล้วโค้งตัวลง " คุณชาย! "

มู่น่อนน่อนเหลือบตามองเฉินถิงเซียวแล้วเดินตามหลังเข้าไปข้างใน

ทั้งสองยังไม่ทันเดินเข้าโถงใหญ่ ก็มีเจ้าตัวน้อยแก้มกลมวิ่งออกมาจากข้างใน

เฉินถิงเซียวที่ยืนอยู่ข้างหน้า มู่น่อนน่อน เมื่อเขาเห็นว่าเจ้าตัวน้อยแก้มกลมวิ่งเข้ามาแล้ว ก็หยุดก้าวเดิน จากนั้นก็เอื้อมมือเตรียมที่จะรับเด็กน้อยไว้.......

แต่ถ้าว่าเจ้าตัวน้อยแก้มกลมกลับวิ่งแฉลบข้างผ่านเขาไป ไม่กี่วิต่อมาก็โผเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของมู่น่อนน่อน

" อามู่! "

เด็กหญิงตัวน้อยกะพริบตาดวงโตนั้นปริบๆ เรียกชื่อเธอเจื้อยแจ้ว

เฉินมู่มักจะกระตือรือร้นทุกครั้งที่เห็นเธอเสมอ เช่นเดียวกับเมื่อก่อนที่มู่น่อนน่อนก็รู้สึกดีใจและเบิกบาน

แต่ครั้งนี้ เธอกลับรู้สึกปวดใจจนอยากจะร้องไห้

" มู่มู่........ "

มู่น่อนน่อนกอดเด็กน้อยแน่น ดวงตาแดงก่ำ

เธอจะบอกเฉินมู่ยังไงดี ว่าเธอไม่ใช่" อามู่ " แต่เธอคือ " แม่" ต่างหาก

เฉินถิงเซียวเก็บมือที่ยื่นออกมาตอนแรกกลับไป ก็หันหน้าที่ดูเคร่งขรึมนั้นมามองมู่น่อนน่อนที่กำลังกอดเฉินมู่อยู่พร้อมดวงตาที่แดงก่ำจวนจะร้องไห้ออกมา

เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย คนใช้ที่ยืนอยู่อีกฝั่งจะเดินเข้ามาช่วย ก็ถูกสายตาเขาห้ามไว้

ผ่านไปสักพัก ก็เป็นเฉินมู่ที่โพล่งขึ้นมาก่อนว่า " แน่นเกินไปแล้วค่ะคุณอา "

มู่น่อนน่อนได้ยินดังนั้นก็รีบปล่อยเฉินมู่

เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพยายามปรับอารมณ์ให้คงที่ จากนั้นจึงอุ้มเฉินมู่ขึ้นมา

เมื่อหันหน้าเรื่องความไม่ตั้งใจ ก็ไปปะทะเข้ากับสีหน้าที่ไร้อารมณ์ของเฉินถิงเซียวที่กำลังจ้องมองพวกเธออยู่

" เฉินชิงเซียว "เมื่อเฉินมู่เห็นเฉินถิงเซียวก็ชูมือน้อยที่ดูอ้วนๆ ไปทางเขาเป็นเชิงอยากให้อุ้ม

เฉินถิงเซียวเพิ่งนึกได้ว่าเมื่อกี้นี้ เฉินมู่โผตัวเข้าไปให้มู่น่อนน่อนกอด ก็ทำหน้าขรึม แล้วเบือนหน้าหนีพร้อมเดินเข้าไปข้างใน

เฉินมู่กะพริบตาปริบๆ ขมวดคิ้วพลางหันหน้ามามองมู่น่อนน่อน แล้วถามด้วยความงุนงง " เขาโกรธเหรอ? "

มู่น่อนน่อนถูกท่าทางของเด็กน้อยที่ขมวดคิ้วจนดูแก่แดดแก่ลมทำให้ขำ: " เขาไม่ได้โกรธ เขาหึงน่ะ (หึงในภาษาจีน) "

เมื่อกี้ที่มู่น่อนน่อนเดินตามเฉินถิงเซียวอยู่ข้างหลัง แน่นอนว่าท่าทางเล็กๆ น้อยๆ ของเฉินถิงเซียวทำให้รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง พอมาตอนนี้เธอถึงนึกขึ้นมาได้

เฉินมู่ขมวดคิ้วอยู่อย่างนั้น แล้วทำหน้ารังเกียจ " ทำไมต้องกินน้ำส้มสายชู มันเปรี้ยวจะตาย "

มู่น่อนน่อนเห็นด้วยพร้อมพูดว่า " ก็ใช่น่ะสิ น้ำส้มสายชูมันเปรี๊ยวเปรี้ยวเนอะ "

ขณะที่เธอกำลังคุยกับเฉินมู่ ก็พลางอุ้มเด็กน้อยแล้วเดินเข้าไปข้างในด้วย

เฉินมู่เป็นเด็กช่างพูด พอได้พูดแล้วก็พูดกันไม่จบไม่สิ้น

มู่น่อนน่อนก็อดทนฟัง ถึงได้รู้ว่าพัฒนาการพูดของเฉินมู่นั้นแข็งแรงมาก และคำศัพท์ที่ใช้ก็มากด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกัน คนใช้สาวก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้ามู่น่อนน่อน และพูดด้วยความเคารพ: " คุณมู่ คุณชายให้ดิฉันพาคุณไปดูห้องนอนค่ะ "

มู่น่อนน่อนพยักหน้าน้อยๆ " ขอบใจจ้ะ "

คนใช้สาวพามู่น่อนน่อนไปยังชั้นสอง เมื่อเปิดประตูเข้าไป ก็ทำท่าผายมือเชิญให้เข้า : " ถึงแล้วค่ะ เชิญค่ะ "

มู่น่อนน่อนแค่ยืนและสังเกตโดยรอบคร่าวๆ เธอก็มีสีหน้าที่ตกใจเล็กน้อย: " นี่คือห้องนอนของฉันเหรอ? "

สาวใช้ยิ้มน้อยๆ แล้วตอบกลับ: " ใช่ค่ะ เดี๋ยวคุณก็ดูว่าต้องการอะไรเพิ่มไหม ก็สามารถบอกพวกเราได้ตลอดเวลาเลยนะคะ "

สาวใช้พูดจบ ก็เดินออกไป

มู่น่อนน่อนก็พาเฉินมู่เดินเข้าไป

ห้องนอนใหญ่มาก ข้างในมีกระจกบานใหญ่ มีระเบียง และยังมีห้องแต่งตัวเล็กแยกออกมาอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม