“ของขวัญที่คุณกู้ได้เจอกับมู่มู่”มู่น่อนน่อนตอบ แล้วก็หันไปยิ้มให้กับกู้จือหยั่น
กู้จือหยั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ
เฉินถิงเซียวชั่งน้ำหนักตู้เซฟในมือของตัวเอง แล้วก็หันไปมองกู้จือหยั่น อย่าพูดเบาๆ ว่า “ตอนนี้มู่มู่ยังไม่มีแนวคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องเงิน”
กู้จือหยั่นใบหน้าดูแปลกใจ “นายยังไม่ทันดูเลย รู้ได้ยังไงว่าข้างในเป็นเงิน? ”
“ไม่อย่างนั้นข้างในคืออะไร? ” ไข่ใต้น้ำเสียงที่เรียบเฉยของเฉินถิงเซียว แฝงไปด้วยความไม่ชอบที่ชัดเจน
แต่ว่าคนที่คุ้นเคยกับเขาจะฟังออก
กู้จือหยั่นหน้าตาจริงจังทันที “นาย……”
เฉินถิงเซียวไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่นิดเดียว หันหน้าไปมองมู่น่อนน่อน “ไปเป็นเพื่อนผมที่นึง”
“ไปที่ไหนเหรอ?”
เธอยังไม่ทันเข้าใจเลยว่าทำไมจู่ๆ เฉินถิงเซียวถึงมาที่นี่ได้ ก็ถูกเฉินถิงเซียวเรียกร้องไปที่หนึ่งกับเขา……
เฉินถิงเซียวยืนตัวแสบในมือให้กับสือเย่ในทันทีพร้อมกับสั่งว่า “นายไปส่งมู่มู่กลับไปก่อน”
สือเย่ตอบกลับด้วยความเคารพ “ครับ”
และในทันที เฉินถิงเซียวก็หันกลับมามองเฉินมู่แล้วพูดว่า “กลับไปกับลุงสือเย่ พวกเรายังมีธุระอื่นอีกอาจจะกลับช้าหน่อย รอพวกเราที่บ้านนะ”
เฉินมู่ก็พยักหน้าเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ
เฉินถิงเซียวสูง188เซนติเมตร เฉินมู่พึ่งจะอายุสามขวบ ยืนเป็นก้อนกลมๆ อยู่ต่อหน้าเขา ความสูงของทั้งสองคนต่างกันมากกว่าหนึ่งเมตร
แม้ว่าจะไม่ใช่ภาพที่อบอุ่น แต่เมื่อมองจากมุมมองของคนอื่นแล้ว ภาพลูกสาวตัวน้อยที่พยักหน้าให้พ่อของเธออย่างไม่รู้ตัวก็ดูน่ารักมากเป็นพิเศษ
แต่ว่าเห็นได้ชัดว่าเฉินถิงเซียวไม่สนใจที่จะสานต่อภาพความรักนี้ต่อไป พอเขาพูดจบ เขาดึงมู่น่อนน่อนแล้วก็เดินออกไป
เดิมทีมู่น่อนน่อนยังอยากตักเตือนอะไรบางอย่างกับเฉินมู่ แต่ว่าพูดอะไรไม่ทัน
เธอได้แต่หันหน้าไปแล้วพูดกับเฉินมู่ว่า “กลับบ้านกับลุงสือเย่อย่าเชื่อฟังนะ เดี๋ยวแม่กับพ่อก็รีบกลับมาแล้ว บ๊ายบาย?”
คำว่า “บ๊ายบาย” 2 คำหลังนั้นแฝงไปด้วยกล่อมเบา
เฉินมู่ท่าทางดูมันงง แต่ว่ายังคงโบกมือให้กับมู่น่อนน่อนอย่างเชื่อฟัง
มู่น่อนน่อนถูกเฉินถิงเซียวพาออกมาจากโรงแรมจีนติ่ง
พอออกมาจากโรงแรมจีนติ่ง มู่น่อนน่อนก็สะบัดมือของเฉินถิงเซียวออก “ฉันเดินเองได้ ไม่ต้องมาจับมือถือแขนหรอก”
จู่ๆ ก็มาที่นี่แล้วก็บอกให้เธอไปยังสถานที่หนึ่งเป็นเพื่อนเขา เมื่อกี้ตอนที่ได้เจอกับเฉินมู่ ไม่ได้เจอกันทั้งวัน ตาแมวแต่กอดก็ไม่ยอมกอดเฉินมู่เลย
เฉินถิงเซียวหรี่ตามองดูเบอร์ของตัวเอง แล้วก็ไม่พูดอะไรพร้อมกับเปิดประตูขึ้นไปนั่งตำแหน่งคนขับ
มู่น่อนน่อนก็เปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ
“จะไปไหนกันแน่?”เธอคาดเข็มขัดไปด้วยพร้อมกับเอ่ยถามเขาไปด้วย
ครั้งนี้เฉินถิงเซียวตอบคำถามของเธอต่อหน้า “โรงพยาบาล”
“ไปทำอะไรที่โรงพยาบาล?คุณไม่สบายตรงไหนเหรอ?”พอมู่น่อนน่อนถามจบก็รู้สึกว่าคำถามของตัวเองไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่นัก ถ้าเกิดว่าเฉินถิงเซียวรู้สึกไม่สบาย ก็คงจะไม่ได้ให้เธอไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขาหรอกมั้ง?
ยังไงต่อให้คิดไปก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ก็ไม่ต้องถามดีกว่า
……
ทั้งสองคนนั่งเงียบตลอดทางทางแล้วก็ไปถึงที่โรงพยาบาล
ตอนที่เราจากรถนั้น มือทั้งสองข้างของมู่น่อนน่อนเสียบเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ เดินอยู่ด้านหลังเฉินถิงเซียว เดินรักษาระยะห่างกับเขา
ยังไม่ทันจะเข้าไปในโรงพยาบาล เฉินถิงเซียวก็หันหน้ามา พร้อมกับมองเธอด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย “มู่น่อนน่อน เท้าของคุณติดอยู่ที่พื้นเหรอ? ”
มู่น่อนน่อนตอบอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก “คุณจะมาสนใจฉันทำไม ต่างคนก็ต่างเดินไปสิ ฉันตัวโตขนาดนี้ไม่มีทางหายหรอก”
ไม่รู้เลยจริงๆ ว่าทำไมวันนี้เฉินถิงเซียวต้องเข้ามายุ่งเกี่ยวกับข้าวของของเธอ ยุ่งเกี่ยวกับการเดินของเธอด้วย
เฉินถิงเซียวมองหน้าเธอด้วยแววตาที่มืดมน เขายืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับเขยื้อน
มู่น่อนน่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ก้าวยาวเดินตรงไปข้างหน้า
เธอจงใจเดินเร็วมาก และฝีเท้าข้างหลังเดินเร็วมากตามความถี่ของเธอ
พอเธอเดินช้า คนที่อยู่ด้านหลังก็เดินช้าตามเธอเหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...