ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 419

สรุปบท บทที่ 419 ใครมอบความกล้าให้กับเธอ?: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

บทที่ 419 ใครมอบความกล้าให้กับเธอ? – ตอนที่ต้องอ่านของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ตอนนี้ของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 419 ใครมอบความกล้าให้กับเธอ? จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

การ์ดถูกสีหน้าที่แสดงออกมาของเฉินถิงเซียวทำเอากลัวจนมือสั่นไปหมด “ผมกำลังเตรียมที่จะประคองคุณลงจากรถ ไปโรงพยาบาลครับ”

เขาพูด แล้วก็ได้ถอยห่างออกไปเล็กน้อย ทำให้เฉินถิงเซียวสามารถมองเห็นประตูทางเข้าโรงพยาบาลได้

“มาโรงพยาบาลทำไม? ใครใช้ให้นายส่งฉันมาที่โรงพยาบาล? หืม?” ว่า “หืม” ตัวสุดท้าย มันช่างฟังดูน่ากลัวเสียจนหมือนกับว่าเป็นเครื่องรางที่จะทำให้ตายเร็วขึ้นของยมราชเลยไม่มีผิด

การ์ดได้เงียบกริบกันไปหมด ไม่กล้าพูดอะไรออกไป และก็ไม่กล้าถอยออกไปด้วยเช่นกัน ทำเพียงแค่มองไปทางมู่น่อนน่อนอย่างขอความช่วยเหลือ

มองตามสายตาของการ์ดไป เฉินถิงเซียวจึงได้พบว่ามู่น่อนน่อนก็อยู่ภายในรถด้วย

“เธอจะส่งฉันไปโรงพยาบาล?” เฉินถิงเซียวหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วมองเธอ ยื่นมือออกไปก็ได้บีบคางเธอเอาไว้ พลางเอ่ยถามออกไปด้วยเสียงที่เย็นยะเยือก “เธอส่งฉันไปโรงพยาบาลทำไม? ใครมอบความกล้าให้กับเธอกัน?”

น้ำเสียงประณามความผิดออกมาอย่างรุนแรงนี้ ได้ทำให้มู่น่อนน่อนแข็งค้างไปครู่นึ่งเลย

เฉินถิงเซียวที่เป็นอย่างนี้ ไม่คุ้นเคยเลย

“คุณดูเหมือนว่าป่วย ดูไม่สบายมาก ฉันก็เลยให้พวกเขาส่งคุณมาที่โรงพยาบาล” มู่น่อนน่อนพูดไปพลางมองสำรวจเขาอย่างระมัดระวังไปพลาง

สายตาของเขาล้ำลึกมาก เป็นความดำมืดที่เข้มข้นประหนึ่งน้ำหมึกอะไรทำนองนั้น ปกติตอนที่ไม่ยิ้มก็ดูมืดมนอยู่บ้าง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเขาในตอนนี้ที่กำลังอยู่ในอารมณ์โกรธจัดเลย

แต่มู่น่อนน่อนก็ไม่รู้เลยว่าความโกรธของเขามันเกิดมาจากไหน

ช่วงหลายวันมานี้ พวกเขาอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน เธอไม่เคยเห็นท่าทางอย่างนี้ของเฉินถิงเซียวมาก่อนเลย

เฉินถิงเซียวได้ยินคำพูดของเธอ ตรงระหว่างคิ้วนิ่วเข้าหากัน แรงที่กำลังบีบคางเธออยู่นั้นก็ได้ลงหนักขึ้นกว่าเดิม

มู่น่อนน่อนเจ็บจนหายใจพะงาบๆออกมาด้วยความกลัว พลางเอ่ยออกไป “เฉินถิงเซียว คุณช่วยปล่อยมือก่อนได้มั้ย”

“เธอรู้จักฉัน?” เฉินถิงเซียวไม่เพียงแต่จะไม่คลายมือออกไป แต่สายตายังเปลี่ยนเป็นคมกริบขึ้นมาด้วยเช่นกัน แล้วยังประดับไปด้วยการสือหาความจริงออกมา “เธอเป็นใคร?”

“ฉัน...” มู่น่อนน่อนอยากจะบอกชื่อของตัวเองออกไปทันที แต่ตอนนี้ก็ได้ค้นพบจุดที่ผิดปกติของเฉินถิงเซียวขึ้นมา

เธอถามเฉินถิงเซียวไปอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อ “คุณไม่รู้จักฉัน?”

ถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนเมื่อสามปีก่อนต่างฝ่ายต่างก็ได้สูญเสียความทรงจำกันไป แต่ว่าช่วงนี้ทั้งสองคนก็ได้อาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน จะเกิดสถานการณ์ที่จู่ๆก็มาไม่รู้จักเธอขึ้นมาได้ยังไงกัน?

มู่น่อนน่อนยื่นมือใช้แรงไปขยับมือของเขาที่กำลังบีบอยู่ที่คางของเธออยู่ออกไป จากนั้นก็เข้าไปตรงหน้าเฉินถิงเซียว ชี้มาที่ตัวเอง พูดกับเขาออกไปด้วยใบหน้าที่จริงจัง “คุณตั้งใจมองฉันให้ดีๆ ไม่รู้จักฉันจริงๆ?”

เฉินถิงเซียวกระตุกมุมปากออกมา คำพูดที่ได้พูดออกมาได้ประดับไปด้วยการเยาะหยัน “เหอะ เธอนึกว่าหน้าตาดูเจริญตากว่าผู้หญิงทั่วๆไปหน่อย ฉันก็ควรจะต้องรู้จักเธอ?”

มู่น่อนน่อน “...”

ใครสามารถบอกเธอได้บ้างว่านี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?

เฉินถิงเซียวคงไม่ได้...สมองมีปัญหาหรอกมั้งใช่มั้ย?

มู่น่อนน่อนมีสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนเช้าตอนที่ออกจากบ้านมามองดูแล้วก็ยังดูเหมือนคนปกติอยู่เลย...

ช่วงนี้ เขาเองก็อารมณ์แย่ลงหน่อย แต่ก็ไม่ได้มีจุดที่แตกต่างไปจากคนทั่วไปอะไรเลยนะ

เธอคิดๆไปแล้ว พลางเอ่ยปรึกษาหารือกับเฉินถิงเซียวออกไป “ฉันอธิบายให้คุณได้ไม่ชัดเจนไปสักพักนึง และฉันก็ไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้คุณเป็นอะไรไปกันแน่ เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกเราไปตรวจที่โรงพยาบาลกันก่อนสักหน่อย โอเคมั้ย?”

เฉินถิงเซียวเอ่ยออกมาด้วยความเย็นชา “คนที่ควรจะต้องตรวจเป็นเธอมากกว่าล่ะมั้ง”

“ฉัน...”

เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นมองไปทางการ์ดที่ขับรถอยู่ที่ข้างหน้า พลางเอ่ยออกไป “กลับไป”

“ครับ” การ์ดตอบรับออกมา แล้วสตาร์ทรถเตรียมที่จะกลับไป

ตอนนี้เฉินถิงเซียวกลับเอ่ยขึ้นมาอย่างกะทันหัน “เดี๋ยวก่อน”

การ์ดรีบหยุดรถลงทันที

เฉินถิงเซียวหันหน้าไป มองไปทางมู่น่อนน่อนที่กำลังลอบมองเขาอยู่เป็นครั้งคราวอยู่ที่ข้างๆ หลุดพ่นออกไปสองคำอย่างเย็นชา “ลงไป”

“คุณบอกให้ฉันลงจากรถ?” มู่น่อนน่อนสงสัยว่าตัวเองได้ยินผิดไป

เฉินถิงเซียวเพียงแค่มองเธอไปอย่างเย็นชา “หรือว่าจะยังมีคนอื่นอีกหรือไง?”

มู่น่อนน่อนใจสั่นรัวด้วยความกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แน่นอนว่าปฏิกิริยาจะช้าลงหน่อย

จู่ๆมู่น่อนน่อนก็นึกถึงเฉินมู่ขึ้นมา สีหน้าได้เปลี่ยนไปทันที “เมื่อกี้นี้เขาเพิ่งจะไม่รู้จักฉัน จะเป็นไปได้หรือเปล่าว่าจะไม่รู้จักเฉินมู่ด้วย?”

สือเย่ได้ยิน ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่กลับเพิ่มความเร็วของรถให้เร็วขึ้น

ตอนที่มู่น่อนน่อนกับสือเย่รีบไล่มาถึงวิลล่า ภายในวิลล่าได้วุ่นวายไปหมดแล้ว

คนใช้และการ์ดต่างก็กำลังยืนอยู่ในลานบ้านกัน

มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป ถามคนใช้หนึ่งในนั้น “เฉินถิงเซียวล่ะ?”

สาวใช้เอ่ยออกมาด้วยอาการที่ยังคงรู้สึกหวาดผวาอยู่ “คุณชายอยู่ด้านในค่ะ เขาไล่พวกเราออกมา”

มู่น่อนน่อนมองออกไปรอบๆ ไม่เห็นเงาร่างของเฉินมู่จึงถามออกไป “มู่มู่ล่ะ?”

สาวใช้มองตำแหน่งที่อยู่ข้างๆไปเล็กน้อย กลัวจนหน้าถอดสีออกมา “เมื่อกี้คุณหนูน้อยยังอยู่ตรงนี้อยู่เลย!”

มู่น่อนน่อนไม่มีเวลาให้มาคิดมากมาย จึงก้าวเท้าวิ่งไปข้างใน

เฉินมู่จะต้องเข้าไปหาเฉินถิงเซียวแน่ๆเลย

เธอเพิ่งจะเดินไปถึงที่หน้าประตูห้องโถง จึงมองเห็นว่าความไม่เป็นระเบียบระเกะระกะอยู่เต็มพื้นด้านใน

ส่วนเฉินถิงเซียว ก็ได้นั่งอยู่บนโซฟาตัวนั้นที่มีความสมบูรณ์ที่สุดเพียงหนึ่งเดียวภายในห้องโถง

ตอนนี้มู่น่อนน่อนไม่มีความคิดจะไปสนใจเขา มองไปรอบๆเพื่อตามหาเฉินมู่

“คุณแม่...”

เสียงเบาๆได้ดังเข้ามา มู่น่อนน่อนมองไปตามเสียง ที่ต้นบอนไซขนาดใหญ่ต้นนึง

ส่วนสูงของเฉินมู่เพิ่งจะถึงระดับความสูงของกระถางต้นไม้ของต้นบอนไซต้นนั้นเท่านั้นเอง เธอโผล่หัวเล็กๆออกมา ในดวงตาได้อาบไปด้วยน้ำตา

มู่น่อนน่อนรู้สึกเจ็บปวดใจสุดๆ สาวเท้าเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว แล้วอุ้มเฉินมู่ขึ้นมา

เฉินมู่ที่จากเดิมเพียงแค่เอ่อคลอไปด้วยน้ำตา ไม่ได้ร้องไห้ออกมา ตอนที่ถูกมู่น่อนน่อนอุ้มขึ้นมา ปากคว่ำออกมา แล้วได้ร้องไห้ออกมาทันที “คุณแม่”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม