เสิ่นเหลียงจะต้องไปตามการแจ้งเตือนที่สำคัญมากเรื่องหนึ่งก่อน ก็เลยถึงได้ให้กู้จือหยั่นมาที่นี่
กู้จือหยั่นพาพวกเธอไปที่บ้านของเสิ่นเหลียง
“ในตู้เย็นมีโยเกิร์ตผลไม้ ผักและเนื้อมีหมด แล้วก็ยังมีขนมที่กินเล่นได้อยู่ที่ทางนี้”
กู้จือหยั่นเหมือนกับอยู่ที่บ้านตัวองก็ไม่ปาน ได้นำมู่น่อนน่อนไปดูตู้เย็นและตู้สำหรับเก็บของอย่างคล่องแคล่วคุ้นเคยเป็นอย่างดี แล้วยังเปิดห้องมาบอกพวกเธอว่าห้องอาบน้ำอยู่ที่ไหน พักอยู่ในห้องนอนห้องไหน
“ถ้ามีเรื่องอะไรก็สามารถโทรหาฉันได้เลย เย็นนี้เสิ่นเสี่ยวเหลียงจะกลับมาค่อนข้างดึกเลย”
กู้จือหยั่นพูดจบ พอหันหน้าไปก็เห็นมู่น่อนน่อนยิ้มออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกลึกซื้ง
กู้จือหยั่นเกาหัวออกมาเล็กน้อยด้วยความเขินอาย “ถึงยังไงถ้ามีอะไรที่ต้องการก็บอกมาได้เลย”
มู่น่อนน่อนเอ่ยออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง “ขอบคุณ”
“ไม่ต้องเกรงใจ เธอเป็นเพื่อนของเสิ่นเสี่ยวเหลียงมั้ยล่ะ แล้วยังเป็นภรรยาของถิงเซียวด้วยอีก มันเป็นเรื่องที่สมควรแล้ว”
มู่น่อนน่อนเองก็จำไม่ได้เหมือนกันว่าใครเคยพูดเอาไว้ว่าที่บ้านของกู้จือหยั่นได้เป็นแก๊งมาเฟียไปแล้ว ต่อมาในภายหลังกู้จือหยั่นโตขึ้นมาหน่อยนึง พ่อของเขาก็เริ่มชำระล้างให้สะอาด แล้วเดินทางถูกกฎหมาย
ก็คงจะได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางครอบครัว กู้จือหยั่นเลยเป็นคนที่มีใจนักเลงต่อเพื่อนฝูงเป็นอย่างมากคนหนึ่งเลย
มู่น่อนน่อนเองก็ไม่ได้เกรงใจอีก จึงได้ตอบรับออกไป “อืม”
“เรื่องถิงเซียว เธอก็อย่าไปกังวลมากเกินไป ยังไงมันก็จะต้องมีวิธีอยู่แล้ว” กู้จือหยั่นถึงแม้ว่าจะกำลังปลอบเธออยู่ แต่หัวคิ้วก็ได้ขมวดออกมาเล็กน้อยด้วยเช่นกัน ดูเหมือนว่าจะกังวลอยู่บ้างเหมือนกัน
หลังจากที่กู้จือหยั่นออกไปแล้ว มู่น่อนน่อนก็ได้หยิบเอาผักและเนื้อออกมาจากในตู้เย็นนิดหน่อย แล้วก็ต้มบะหมี่หมูฝอยกับผัก
เฉินมู่ก็หิวมานานแล้ว จึงได้กินเร็วไปบ้าง
มู่น่อนน่อนให้ความสนใจกับเฉินมู่ไปพลาง ระวังไม่ให้เธอกินเร็วเกินไปจนสำลัก แล้วคิดถึงเรื่องของเฉินถิงเซียวไปพลาง
ก่อนหน้านี้สือเย่ได้บอกเธอว่า เฉินถิงเซียวเป็นเพราะว่าถูกเฉินจิ่งหยุ้นพาไปให้คนสะกดจิตปิดล็อกความทรงจำเอาไว้ จึงได้เกิดภาพลวงที่ “สูญเสียความทรงจำ” ให้คนอื่นได้เห็นกัน
ต่างอาชีพกันความรู้ความเข้าใจแตกต่างกัน ถึงแม้ว่าจะเคยได้ยินมาการสะกดจิตมาก่อน แต่เห็นอาการของเฉินถิงเซียวแล้ว มู่น่อนน่อนพบว่ามันได้นอกเหนือไปจากความรู้ความเข้าใจของเธอไปแล้ว
มู่น่อนน่อนเสิร์ชคำจำกัดความของการสะกดจิตในเน็ตดู
ถ้าบอกว่าการสะกดจิตเป็นปรากฏการณ์ ideomotorขั้นหนักมากจำพวกหนึ่ง นั่นก็เป็นเรื่องที่ไม่ได้แตกต่างกับจิตวิทยาเลยใช่มั้ย?
ลี่จิ่วเชียนไม่ใช่ว่าจบปริญญาเอกทางด้านจิตวิทยามาหรือไง?
เขาจะต้องเข้าใจแน่ว่าการสะกดจิตมันเกิดขึ้นมาได้ยังไง
คิดมาถึงตรงนี้แล้ว มู่น่อนน่อนจึงหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาลี่จิ่วเชียน
ตอนที่รับสาย เธอได้ยินลี่จิ่วเชียนที่อยู่ทางปลายสายพูดออกมาเสียงเบาก่อนว่า “ขอโทษนะ ผมขอรับโทรศัพท์ก่อนนะครับ”
เขาก็คงจะปิดโทรศัพท์เอาไว้แล้วพูดออกมา เสียงฟังไปแล้วเบามากเลย
ทางปลายสายก็ได้มีเสียงของอีกคนหนึ่งดังขึ้นมาอีกที “ไม่เป็นไร”
ต่อมาก็มีเสียงเก้าอี้เคลื่อนก็ได้ดังขึ้น จากนั้นเสียงของลี่จิ่วเชียนก็ได้ดังออกมาจากโทรศัพท์อย่างชัดเจนออกมา “น่อนน่อน”
“คุณมีคนไข้เหรอ? รบกวนคุณแล้ว” คำพูดของมู่น่อนน่อนได้ประดับไปด้วยความรู้สึกขอโทษ
ในเสียงของลี่จิ่วเชียนได้ประดับไปด้วยความหมายเชิงเย้าหยอกออกมา “ไม่เป็นไร คนไข้ไม่สือสาอะไรที่จะให้ผมรับสายสำคัญก่อน”
ฟังไปแล้วเหมือนกับเป็นคำพูดที่สนิทสนมกัน แต่จากที่เขาพูดออกมา มันทั้งไม่ได้พูดมาเล่นๆและทั้งยังชัดเจนออกมาด้วย
มู่น่อนน่อนได้ถามเขาออกไปตรงๆ “คุณรู้เรื่องการสะกดจิตหรือเปล่า?”
“การสะกดจิต? รู้นิดหน่อย มีอะไร?” ลี่จิ่วเชียนรับรู้ได้อย่างรวดเร็ว รู้ว่าเธอไม่มีทางจะถามคำถามนี้ออกมาโดยที่ไม่มีเหตุผล ในน้ำเสียงจึงอดไม่ได้ที่จะแสดงความเป็นห่วงเป็นใยออกไปมากยิ่งขึ้น
“ก็แค่อยากจะถามหน่อยว่าการสะกดจิตมันสามารถ...”
“คุณแม่หนูกินอิ่มแล้ว”
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นมา ก็เห็นเฉินมู่ยกชามเปล่าของตัวเองยื่นมาให้เธอดู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...