มู่น่อนน่อนพูดถึงตรงนี้แล้วก็หยุดชะงักไปเล็กน้อยอีกที ในหัวมีภาพผุดออกมามากมายเกินไปขึ้นมาทันที เธอรับมันมาอย่างขาดๆหายๆ
“ลี่จิ่วเชียนทำไมถึงได้ช่วยฉัน?”
“มู่มู่...เฉินถิงเซียว...”
เสิ่นเหลียงไม่ได้ส่งเสียงรบกวนเธอออกมา เพียงแค่มองเธออยู่ข้างๆไปด้วยใบหน้าตึงเครียดออกมา
ตอนนี้พยาบาลก็ได้เรียกคุณหมอมาแล้ว
คุณหมอรีบร้อนเข้ามา “ฟื้นแล้ว? ความรู้สึกเป็นยังไงบ้าง?”
ความคิดของมู่น่อนน่อนเห็นได้ชัดว่าไม่ได้อยู่ตรงนี้ จึงไม่ได้ตอบคำพูดของคุณหมอออกไปเช่นกัน
เสิ่นเหลียงส่งเสียงถามออกไป “เพิ่งฟื้น เพื่อนของฉันเธอเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา?”
เธอรับสายแล้วรีบตามมาเลย ไม่ได้รู้เลยว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ในสายเพียงแค่บอกว่ามู่น่อนน่อนอยู่ที่โรงพยาบาล เธอขับรถมาด้วยความรู้สึกกังวลกลัวมาตลอดทาง
คุณหมอตอบออกมาว่า “ตอนที่ส่งเข้ามาอยู่ในสภาพที่สลบอยู่ แต่ปัญหาไม่ได้ใหญ่โตอะไร เพียงแค่สมองกระทบกระเทือนไปเล็กน้อยเท่านั้น”
“สมองกระทบกระเทือนยังไม่ใช่เรื่องใหญ่อีก?” เสิ่นเหลียงมีสีหน้าเก็บงำความโกรธเอาไว้ในใจ โทนเสียงก็เยือกเย็นออกมาบ้างเล็กน้อยเช่นกัน
คุณหมอดันแว่นขึ้นมาเล็กน้อย ชะงักไปเล็กน้อยแล้วเอ่ยออกไป “การที่สมองกระทบกระเทือนเล็กน้อยแบบนี้เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป ถ้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อดูอาการอีกสักสองสามวันแล้วก็สามารถออกจากโรงพยาบาลได้เลย”
ได้ยินคุณหมอพูดออกมาอย่างนี้ เสิ่นเหลียงถึงได้ยิ้มออกมาอย่างขอโทษขอโพย “อย่างนี้นี่เองสินะ ขอบคุณนะคะ แต่ว่าเมื่อก่อนเธอได้รับบาดเจ็บที่สมองมาก่อน ครั้งนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรใช่มั้ย?”
“ดังนั้นแล้วจึงต้องอยู่พักรักษาตัวเพื่อดูอาการที่โรงพยาบาลอีกสักสองสามวัน” คุณหมอพูดจบแล้ว เคลื่อนสายตาไปทางมู่น่อนน่อน เรียกชื่อของเธอไปด้วยเสียงอ่อนโยน “มู่น่อนน่อน?”
“หา?” มู่น่อนน่อนได้สติกลับมา
คุณหมอถามเธอออกมา “ตอนนี้คุณรู้สึกเป็นยังไงบ้าง? ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?”
มู่น่อนน่อนส่ายหน้าออกมา ท่าทางดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ไม่มี”
สายตาของเธอจรดไปที่ร่างของเสิ่นเหลียง เธอมองจ้องมู่น่อนน่อนอยู่หลายวิ แล้วเอ่ยถามออกมา “มู่มู่ล่ะ?”
เสิ่นเหลียงถูกเธอถามมาอย่างนี้ จึงได้นึกขึ้นมาได้ว่าเฉินมู่ยังนอนหลับอยู่ที่บ้าน
เธอได้รับสาย พอได้ยินว่ามู่น่อนน่อนอยู่โรงพยาบาล ก็รีบร้อนตามมาเลย
มู่น่อนน่อนเพิ่งจะออกมาจากโรงพยาบาลได้ไม่ถึงสองเดือน เสิ่นเหลียงได้ยินว่าอยู่ที่โรงพยาบาล ก็รู้สึกอ่อนไหวมากเกินไปหน่อย ปกติก็อยู่คนเดียวอยู่แล้ว ก็เลยลืมไปโดยปริยายว่าที่บ้านยังมีเจ้าหนูน้อยกำลังนอนอยู่อีกคนหนึ่ง
“นอน...นอนอยู่ที่บ้าน” เสิ่นเหลียงเอ่ยออกมาอย่างกระดากใจ
มู่น่อนน่อนได้ยินอย่างนั้นแล้ว ก็เลิกผ้าห่มออกแล้วเตรียมที่จะลงไปจากเตียง เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล “งั้นตอนนี้พวกเราก็กลับกันเถอะ”
“เดี๋ยวก่อน คุณหมอบอกว่าเธอต้องพักดูอาการที่โรงพยาบาลอีกสักสองสามวัน” เสิ่นเหลียงรีบขวางเธอเอาไว้ทันที
มู่น่อนน่อนผลักเสิ่นเหลียงออกไป “ฉันไม่เป็นไร”
ร่างกายของเธอเอง ตัวเองสามารถรู้สึกได้ มันสบายดีมากๆเลย ไม่มีปัญหาอะไรเลยสักนิดเดียว
ตอนนี้ด้านนอกมีตำรวจนอกเครื่องแบบสองคนเข้ามา
ตำรวจสองคนนั้นเดินเข้ามา หนึ่งในนั้นได้มองมาทางมู่น่อนน่อน “มู่น่อนน่อนฟื้นแล้ว?”
มู่น่อนน่อนเลิกตามองเข้าไป ตำรวจจึงหยิบบัตรตำรวจของตัวเองออกมา พลางเอ่ยออกมาว่า “เหตุระเบิดที่ห้างก่อนหน้านี้ ต้องการให้คุณให้ความร่วมมือในการทำบันทึกประจำวันสักหน่อยนะครับ”
มู่น่อนน่อนพยักหน้าอย่างให้ความร่วมมือออกมา “ได้ค่ะ”
ตำรวจหันหน้ามองไปทางคุณหมอ “อาการเธอเป็นยังไงบ้าง?”
คุณหมอเล่าอาการของมู่น่อนน่อนให้กับตำรวจไปตามความเป็นจริง
เสิ่นเหลียงมีการตอบสนองช้ากว่าคนอื่นไปเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยถามออกไปด้วยความกลัวจนใบหน้าถอดสี “ระเบิดอะไร?”
“คนร้ายแจ้งตำรวจมาเอง บอกว่าเขาจะไประเบิดห้าง ตอนที่พวกเราอพยพกลุ่มคนออกไป คุณมู่ก็เข้าห้างมา นี่เป็นความประมาทของฉัน แต่โชคดีที่การผลิตของระเบิดของคนร้ายทำได้ชุ่ยไป ความอันตรายจึงไม่ได้รุนแรงเลย...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...