ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 430

จู่ๆเฉินจิ่งหยุ้นก็เสียการควบคุมอารมณ์ไป สีหน้าที่แสดงออกมาได้เปลี่ยนมาเป็นดุร้ายน่ากลัวออกมา “ออกไปเดี๋ยวนี้! ไสหัวออกไป!”

ในความทรงจำของมู่น่อนน่อน เฉินจิ่งหยุ้นเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับความสมบูรณ์แบบมากคนหนึ่ง เป็นผู้หญิงที่ไม่มีทางยั้งสติไม่อยู่ทำตัวเสียกิริยาออกมาต่อหน้าคนอื่นแน่

แต่เฉินจิ่งหยุ้นในตอนนี้ไหนเลยจะยังมีท่าทีอวดเบ่งเที่ยวระรานชาวบ้านอย่างเมื่อก่อนอยู่อีก ตัวเธอเหมือนกับว่าใกล้จะพังทลายเต็มทีแล้ว

มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย พลางส่งเสียงถามเธอออกไป “เฉินจิ่งหยุ้น เธอเป็นอะไรไป?”

เฉินจิ่งหยุ้นมองมาทางมู่น่อนน่อนทันที สายตาค่อยๆกลับมาแจ่มใสขึ้นมา

ในทันใดนั้น เธอก็ได้ส่งเสียงถามมู่น่อนน่อนออกไป “เธอมาหาฉัน ก็เพื่อเฉินถิงเซียว?”

มู่น่อนน่อนคิดว่าเฉินจิ่งหยุ้นดูไปแล้วแปลกๆอยู่บ้าง แต่เธอไม่คิดจะไปใส่ใจเฉินจิ่งหยุ้น เพียงแค่ถามเธอออกไป “เธอให้ใครมาสะกดจิตให้เฉินถิงเซียว? คนคนนั้นอยู่ที่ไหน? หน้าตาเป็นยังไง?”

“ไม่รู้” เฉินจิ่งหยุ้นกลับมาสงบลง จากนั้นก็เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าซีดเซียว “ขอเตือนเธอเอาไว้อย่าง คบอยู่กับเฉินถิงเซียว เธอจะต้องนึกเสียใจภายหลังแน่ เขาจะต้องไม่ใช่คนที่สามารถมอบความสุขให้กับใครได้แน่”

คำพูดนี้เฉินจิ่งหยุ้นได้พูดออกมาเสียจนน่างงงวยอธิบายไม่ถูกอยู่บ้าง มู่น่อนน่อนคิดว่าเฉินจิ่งหยุ้นนั้นกำลังยุแยงเธอกับเฉินถิงเซียว

มู่น่อนน่อนได้ยินแล้ว ในดวงตาใสกระจ่างได้พาดผ่านไปด้วยความเยือกเย็นที่เย็นยะเยือกออกมา “ความสุขของเฉินถิงเซียวเหมือนกับว่ามันจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับเธอนะ แต่ในทางตรงกันข้ามกันกลับเป็นเธอที่เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง กลับทำเรื่องที่ผิดต่อเฉินถิงเซียวไปไม่น้อยเลย แต่ไหนแต่ไรมาเธอไม่เคยใส่ใจเขามาก่อนเลย แล้วมีสิทธิ์อะไรไปว่าเขาอีก?”

เฉินจิ่งหยุ้นมองสำรวจมู่น่อนน่อน มักจะรู้สึกว่าลักษณะท่าทางของมู่น่อนน่อน ดูเหมือนว่าจะมีจุดที่เหมือนกับเฉินถิงเซียวเลยทีเดียว

ครั้งที่แล้วเธอเกือบจะถูกเฉินถิงเซียวบีบคอตาย ดังนั้นแล้วจึงเกลียดชังมู่น่อนน่อนมากยิ่งขึ้น

เธอส่งเสียงเฮอะเสียงเย็นออกมา “ถ้าฉันเข้าใจไม่ผิด ตอนนี้เธอมาขอร้องฉัน? นี่คือน้ำเสียงขอร้องคนอื่นของเธอ?”

“เธอผิดแล้ว ฉันไม่ได้กำลังขอร้องเธอ” มู่น่อนน่อนไม่มีขลาดกลัวเลยแม้แต่น้อย “เฉินถิงเซียวต้องกลายมาเป็นอย่างนี้ ล้วนแล้วแต่จะเป็นเพราะเธอทั้งนั้น ในเมื่อเธออยากให้เขารักษาความมั่งคั่งของตระกูลเฉินเอาไว้ ก็ต้องภาวนาให้เขาสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บไม่ไข้ ไม่อย่างนั้นถึงตอนนั้นแล้วตำแหน่งคุณหนูใหญ่ตระกูลเฉินของเธอก็คงรักษาเอาไว้ไม่ได้แล้ว”

“มู่น่อนน่อน เธอไม่ลองดูตัวเองสักหน่อยว่ามีสถานะอะไร ก็กล้าใช้น้ำเสียงอย่างนี้มาพูดกับฉัน? คนที่มันหลงตัวเองเกินไปต่างก็ไม่มีจุดจบดีๆเลยสักคนเธอไม่รู้เหรอ?”

เฉินจิ่งหยุ้นเหมือนกับว่าจู่ๆก็นึกเรื่องที่มีความสุขอะไรขึ้นมาได้ก็ไม่ปาน รอยยิ้มบนใบหน้าได้กดลึกมากขึ้นไปไม่หยุด

“ตอนนี้เฉินถิงเซียวยังนึกเรื่องในอดีตขึ้นมาไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ? เขานึกเรื่องในอดีตขึ้นมาไม่ได้ แน่นอนว่าจะต้องจำความรู้สึกที่มีต่อเธอไม่ได้ด้วยเช่นกัน นี่เธอรีบแต่งงานใหม่กับเขาโดยเร็ว เป็นคุณหญิงตระกูลเฉินแล้วถึงจะมาหาฉัน”

เห็นมู่น่อนน่อนไม่พูดอะไรออกมา เฉินจิ่งหยุ้นก็ยิ่งรู้สึกว่าการคาดเดาของตนมันถูกต้อง

รอยยิ้มบนใบหน้าของเธออดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนมาได้ใจขึ้นมา “แต่ว่านะ เธออย่าคิดเพ้อฝันที่จะแต่งงานกับเขาใหม่อีกครั้งเพื่อเป็นคุณหญิงตระกูลเฉินได้แล้ว ฉันหาผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสะกดจิตชั้นยอดของโลกมาสะกดจิตให้เฉินถิงเซียวเลยนะ เธอนึกว่าผู้เชี่ยวชาญทางด้านการสะกดจิตจำพวกนี้เพียงแค่อุปโลกน์ชื่อเสียงจอมปลอมกันขึ้นมาเหรอ? ฮ่าๆๆ!”

จู่ๆเฉินจิ่งหยุ้นก็เงยหน้าหัวเราะเสียงดังออกมา ท่าทางที่แสดงออกมาดูบ้าคลั่งอยู่บ้าง “ชั่วชีวิตนี้เขาอย่าได้คิดที่จะจำเรื่องในอดีตขึ้นมาได้เลย ความรู้สึกที่เขามีต่อเธอก็ไม่มีทางกลับมาอีกเหมือนกัน เขามันเป็นสัตว์ประหลาดที่โหดเหี้ยมไร้หัวใจ!”

มู่น่อนน่อนกำมือทั้งสองข้างแน่นอย่างไม่รู้ตัว ใบหน้าขาวเนียนบีบเกร็งแน่น เธอกัดมุมปากออกมา เอ่ยเสียงเย็นออกไป “ไม่ ฉันคิดว่าอย่างเธอ ที่ไม่แยแสต่อการตายของแม่ตัวเองเลยสักนิด ทั้งๆที่รู้ดีอยู่แล้วว่าฆาตกรที่ฆ่าแม่เป็นใคร แต่กลับเพื่อการที่จะมีเงินมีอำนาจจึงไม่กล้าพูดออกมา...”

พูดถึงตรงนี้แล้ว มู่น่อนน่อนชะงักไป บีบเอาคำพูดไม่กี่คำออกมาจากระหว่างริมฝีปาก “เธอต่างหากที่เป็นสัตว์ประหลาด! สัตว์ประหลาดเลือดเย็น!”

“เธอหุบปากไป!” เฉินจิ่งหยุ้นมีสีหน้าตื่นตกใจออกมา “เธอรู้อะไรบ้าง?”

มู่น่อนน่อนเชิดคางขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเบามาก “เรื่องที่เธอกลัวว่าฉันจะรู้ ฉันรู้หมด”

เธอพูดจบ มองสีหน้าที่เปลี่ยนไปในทันทีของเฉินจิ่งหยุ้นไปด้วยความพึงพอใจ แล้วผันร่างออกไปโดยทันที

มู่น่อนน่อนหลังจากที่รู้เรื่องคดีเมื่อตอนนั้นของแม่ของเฉินถิงเซียวแล้ว ก็เคยสงสัยว่าเฉินจิ่งหยุ้นใช่ว่าจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย

เฉินจิ่งหยุ้นจะต้องไม่ใช่คุณหนูพันชั่งที่สวยแต่ไร้สมองที่ได้รับการเลี้ยงดูมาจากบ้านคนมีเงินธรรมดาๆอย่างแน่นอน เธอมีสมองและก็มีความคิด

เด็กสาวที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันมักจะแก่เกินอายุมากกว่าเด็กผู้ชาย สิบเอ็ดปีก็เป็นอายุที่มีการบันทึกความทรงจำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และก็มีสามัญสำนึกที่แน่นอนแล้ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม