ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 495

เฉินมู่ที่ได้รับคำชมมากทั้งสองด้าน ก็หยิบพู่กันไปสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองต่ออย่างมีความสุขอีกครั้ง

มู่น่อนน่อนก็ได้กลับไปที่ห้องครัว

เฉินถิงเซียวเดินไปที่ตรงหน้าโต๊ะอาหารอาหารมองไปสักพักนึง ก็สังเกตเห็นได้ว่าบนโต๊ะอาหารได้วางอาหารที่เขาชอบเอาไว้หลายอย่าง

ตรงระหว่างคิ้วของเขาได้ขยับออกมาเล็กน้อย เดินเข้าครัวไปอย่างเบามือเบาเท้า

มู่น่อนน่อนยืนหันหลังให้เขา กำลังรอน้ำในหม้อเดือดขึ้นมาแล้วก็เทไข่เข้าไปคน

เมนูที่ทำของเย็นวันนี้คือซุปมะเขือเทศใส่ไข่

น้ำในหม้อเดือดแล้ว ในตอนที่เธอเตรียมที่จะเทไข่ไก่เข้าไป ก็รู้สึกได้ว่าด้านหลังมีคนเข้าใกล้เข้ามา

ไม่รอให้เธอหันหน้าไป บนเอวก็ได้มีแขนของผู้ชายข้างหนึ่งโอบรัดเอาไว้เสียแล้ว จากนั้นก็ใช้แขนอีกข้างหนึ่งคล้องเข้ามาด้วยติดๆ โอบกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน

มู่น่อนน่อนจู่ๆก็ถูกเฉินถิงเซียวกอดเข้ามาอย่างนี้ ตกใจจนมือสั่นออกมา ไข่ไก่ในชามได้เทลงไปในหม้อจนหมดไปทันที

ไข่ไก่เดิมทีก็สุกเร็วอยู่แล้ว พอเทลงไปในหม้อก็เกาะตัวกันเป็นก้อน

มู่น่อนน่อนไม่ทันได้พูดอะไร ก็หยิบกระบวยมาคนน้ำซุปในหม้อเพื่อที่จะแก้ไขมันสักหน่อย

ไข่ไก่ถูกคนอย่างนี้ ก็ได้คนจนกลายมาเป็นซุปไข่ไปแล้ว

มู่น่อนน่อนปิดแก๊ส หันไปมองเฉินถิงเซียวเล็กน้อย “ปล่อยมือ!”

ชายที่กอดอยู่ข้างหลังไม่ฟังคำพูดที่เธอบอกว่าให้ปล่อย แต่กลับพูดประโยคหนึ่งออกมาแทน “กอดแป๊บนึง”

หัวของเฉินถิงเซียวฝังอยู่ในลำคอของเธอ เสียงฟังไปแล้วดูเบาเล็กน้อย และก็อู้อี้อยู่บ้าง

มู่น่อนน่อนชะงักไปเล็กน้อย คำพูดที่มาถึงที่ปากก็ได้กลืนกลับไป

เธอตักซุปในหม้อออกมา แล้วตบไปที่มือของเฉินถิงเซียวไปเบาๆ “คุณบอกว่าแค่กอดแป๊บนึงเท่านั้นนะ”

และเฉินถิงเซียวก็ได้ปล่อยเธอไปอย่างที่คิดจริงๆ

เขาเหยียดตัวตรงขึ้น เอี้ยวตัวเล็กน้อย แล้วยกซุปที่เมื่อกี้มู่น่อนน่อนตักเสร็จแล้วออกไป ตลอดการเคลื่อนไหวได้เป็นไปอย่างคล่องแคล่วน่ามองสุดๆ

คนที่บุคลิกดี ถึงแม้ว่าจะเพียงแค่เบียดเสียดอยู่ในครัวที่คับแคบเพื่อยกซุป ก็ยังคงดูไม่ธรรมดาอยู่ดี

มู่น่อนน่อนตามออกไป ก็ได้ยินเสียงเฉินถิงเซียว “มู่มู่ กินข้าว”

เฉินมู่ตอบกลับมาด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย “หนูวาดภาพอยู่”

เฉินถิงเซียวเดินเข้าไปไม่รู้ว่าพูดอะไรกับเธอบ้าง เฉินมู่ก็ได้วางพู่กันลงไปอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วลุกขึ้นเข้ามากินข้าว

มู่น่อนน่อนตอนที่เห็นเฉินมู่กินข้าว ในหัวจู่ๆก็มีความคิดหนึ่งแวบขึ้นมา ทันใดนั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้

เธอเงยหน้าขึ้นมองไปทางเฉินถิงเซียวทันที แล้วก็หันหน้ามองเฉินมู่ไปอีกที ตอนนี้ไม่สะดวกพูดเรื่องพวกนี้ออกไป

เฉินถิงเซียวรู้สึกได้ถึงสายตาของเธอ เลิกคิ้วออกมาเล็กน้อย เหมือนกับว่ามองออกถึงความคิดของเธอ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายออกมา

หลังจากกินข้าวเสร็จแล้วเฉินมู่ก็ไปสร้างผลงานของเธอต่อ มู่น่อนน่อนถึงได้เอ่ยพูดออกมา “เมื่อกี้จู่ๆฉันก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ มู่หวั่นขีเธอรู้เรื่องที่เกิดขึ้นที่บนเกาะเล็กเมื่อตอนนั้นได้ยังไง?”

เฉินถิงเซียวรู้ว่าคำพูดของเธอยังพูดไม่จบ จึงไม่ได้พูดแทรกออกไป ส่งสัญญาณบอกให้เธอพูดต่อ

“มู่หวั่นขีทุกครั้งที่เจอฉัน ก็บอกว่าอยากแก้แค้นให้กับซือเฉิงหยู้เสียทุกครั้งเลย แล้วเธอยังเคยบอกว่า ทำไมพวกเราถึงยังดีๆกันอยู่ แต่คนที่ตายกลับเป็นซือเฉิงหยู้แทน ตั้งแต่ต้นจนจบเธอไม่เคยพูดถึงเฉินมู่เลย”

มู่น่อนน่อนพูดมาถึงตรงนี้ ก็เลิกตาขึ้นมองเฉินถิงเซียวที่ยังคงฟังไปอย่างตั้งอกตั้งใจผิดปกติ แล้วพูดออกมาต่อ “หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ที่เกาะเมื่อตอนนั้น เฉินจิ่งหยุ้นก็ปิดข่าวทั้งหมดที่บนเกาะไป เมืองหู้หยางเองก็ไม่เคยมีสื่อเจ้าไหนรายงานข่าวออกมาเลย รวมไปถึงการตายของซือเฉิงหยู้ด้วยก็ได้เป็นเพียงแค่การเสียชีวิตไปด้วยอุบัติเหตุในการเดินทาง

สมมติว่าก่อนที่ซือเฉิงหยู้จะไปที่เกาะเล็กเมื่อตอนนั้น ได้เคยบอกเล่าแผนการของตัวเองกับมู่หวั่นขีไปแล้ว อย่างนั้นแล้วเธอก็จะต้องรู้สิว่าเมื่อตอนนั้นเป้าหมายที่พวกเราไปก็คือจะพาเฉินมู่กลับมา และแน่นอนว่าจะต้องรู้ถึงการมีอยู่ของเฉินมู่อยู่แล้ว...”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม