อ่านสรุป บทที่ 500 ส่งไปให้ด้วยตัวเอง จาก ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)
บทที่ บทที่ 500 ส่งไปให้ด้วยตัวเอง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Meow(○` 3′○) อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
มู่น่อนน่อนจ้องมองสือเย่ไปเหมือนกับยิ้มแต่ก็ไม่ได้ยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร และก็ไม่ได้รับจดหมายเชิญไปด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่าสือเย่รู้อยู่แล้วว่ามู่น่อนน่อนได้มองออกแล้วว่านี่เป็นเจตนารมณ์ของเฉินถิงเซียวที่ได้สั่งให้ทำ
เขาก้มหน้าลงไปเล็กน้อย จำต้องกัดฟันเอ่ยออกมา “คุณหญิงกับคุณลี่มีความสนิทสนมกัน คุณเป็นคนออกหน้า เขาจะต้องไว้หน้าคุณแน่”
มู่น่อนน่อนเลิกคิ้วพลางเอ่ยออกมา “พูดเสียเหมือนกับว่าพวกนายออกหน้าแล้วลี่จิ่วเชียนจะไม่มีวันเข้าร่วมงานเลี้ยงยังไงอย่างนั้น เขาไม่ใช่คนใจแคบอย่างนั้นเสียหน่อย”
ถึงแม้ว่าลี่จิ่วเชียนกับเฉินถิงเซียวจะไม่ถูกกัน แต่ลี่จิ่วเชียนเป็นคนที่ใจกว้างคนหนึ่ง ขอเพียงแค่พวกเขาส่งจดหมายเชิญไป ลี่จิ่วเชียนก็จะต้องไปแน่ๆ
สือเย่ปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย
เมื่อตอนนั้นตอนที่เขาตามจีบภรรยาก็คิดว่ามันเป็นเรื่องที่ยากที่สุดแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า นั่นไม่ใช่เรื่องที่ยากที่สุดเลย
สิ่งที่ยากที่สุดเลยก็คือการมีเจ้านายที่มีนิสัยประหลาดคนหนึ่ง และคุณผู้หญิงของเจ้านายที่ทำอะไรผิดแผกไปจากแบบแผนที่กำหนดไว้คนหนึ่ง
มู่น่อนน่อนพูดมาอย่างนี้แล้ว แน่นอนว่าสือเย่ไม่มีทางจะพูดอ้อมค้อมกับมู่น่อนน่อนออกไปอีก เขาทอดถอนหายใจออกมาเบามากเสียจนยากที่จะสังเกตได้ “แท้ที่จริงแล้วนี่เป็นความต้องการของคุณชายครับ”
สือเย่พูดไปตามจริง มู่น่อนน่อนเองก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจอีก ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางเอ่ยถามออกไป “ทำไมเขาถึงได้ให้ฉันเป็นคนไปส่งจดหมายเชิญ?”
ตามความรู้สึกนึกคิดของเฉินถิงเซียว ไม่ใช่ว่าควรจะไม่ให้เธอกับลี่จิ่วเชียนได้เจอกันหรอกเหรอ? ตอนนี้นึกไม่ถึงว่าจะยังให้เธอไปส่งจดหมายเชิญให้อีก
“ไม่ทราบครับ” เมื่อตอนนั้นเฉินถิงเซียวเพียงแค่มอบหมายเรื่องนี้มาเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้บอกเหตุผลมา
แน่นอนว่าสือเย่ไม่กล้าถามออกไปอยู่แล้วเช่นกัน
“ฉันทราบแล้ว” มู่น่อนน่อนรับจดหมายเชิญไป “ฉันจะเอาไปส่งด้วยตัวเองกับมือเลย นายกลับไปเถอะ”
มู่น่อนน่อนพาเฉินมู่ขึ้นรถ สือเย่ยืนอยู่ที่ข้างถนน รอให้รถของมู่น่อนน่อนขับไปแล้วถึงจะผันร่างเดินเข้าไปในตึกใหญ่ของบริษัทเฉินซื่อไป
เขาตรงไปขึ้นลิฟต์ไปยังห้องทำงานของเฉินถิงเซียว
ประตูห้องทำงานไม่ได้ปิด สือเย่เดินไปที่ข้างประตู ยื่นมือไปเคาะประตูไปสองที
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย เพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองเขาไปแวบนึง ส่งสัญญาณบอกให้เขาเข้ามา
ไม่รอให้เฉินถิงเซียวถามออกมา สือเย่ก็ได้เป็นฝ่ายเอ่ยออกไปก่อน “จดหมายเชิญผมได้เอาให้คุณหญิงเรียบร้อยแล้วครับ”
“เธอว่ายังไงบ้าง?” เฉินถิงเซียวก้มหน้าลงเปิดเอกสาร น้ำเสียงฟังไปแล้วดูไม่ใส่ใจอะไร ราวกับไม่ได้สนใจ
แต่สือเย่กลับฟังออกถึงความรู้สึกที่ต่างออกไปจากเดิมอยู่บ้างจากในน้ำเสียงของเขาออกมารางๆ
เขาครุ่นคิดไปแป๊บนึง แต่ก็เลือกที่จะพูดตามจริงออกไป “คุณหญิงบอกว่าเธอจะส่งไปให้คุณลี่ด้วยตัวเองกับมือเลย”
การเคลื่อนไหวในการเปิดเอกสารของเฉินถิงเซียวได้ช้าลงไปเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ดวงตาสีดำสนิทเหมือนกับหมึกดำคู่นั้นได้เข้มขึ้นเสียจนเหมือนกับมีน้ำหมึกกำลังจะหยดออกมาจากข้างในยังไงอย่างนั้น
“นายพูดมาอีกที” เสียงของเขาดังชัดและเยือกเย็นออกมา ยังคงเป็นน้ำเสียงที่ไม่ได้เร็วไม่ได้ช้าจนเกินไปอยู่ แต่ในทุกๆคำล้วนเฉียบคมจนเหมือนกับแท่งน้ำแข็งที่ย้อยลงมาเลยทีเดียว
สือเย่นั้นถึงแม้ว่าใจยังมีความลังเลอยู่ แต่ก็ยังคงพูดซ้ำออกไปอีกครั้งด้วยความเร็วในการพูดที่เร็วมาก “คุณผู้หญิงบอกว่าเธอจะเอาไปส่งให้คุณลี่ด้วยตัวเองกับมือครับ”
ภายในห้องทำงานมีความเงียบไปอยู่สักพักนึง
แม้ว่าสือเย่จะไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมองใบหน้าตรงๆของเฉินถิงเซียว ก็สามารถจินตนาการถึงสีหน้าในตอนนี้ของเฉินถิงเซียวออกมาได้ว่ามันไม่น่ามองมากแค่ไหน
แต่หลายวิผ่านไป เขาก็ได้ยินเพียงแค่เฉินถิงเซียวพูดประโยคหนึ่งออกมาเท่านั้น “ออกไปเถอะ”
สือเย่จึงได้เงยหน้าขึ้นมา เตรียมที่จะผันร่างออกไป
เพียงแต่ว่าตอนที่เขากรอกสายตามองไปโดยไม่ตั้งใจ ก็เห็นมือทั้งสองข้างของเฉินถิงเซียวได้กำหมัดแน่น มือข้างหนึ่งที่ได้วางอยู่บนเอกสาร ได้กำเอกสารหน้านั้นจนกลายเป็นก้อนเดียวกัน
ภายในใจของสือเย่ได้ตกใจกลัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่กล้าพูดมากมายอะไรออกมา แล้วผันร่างออกไปทันที
หลังจากที่เขาออกไป เพิ่งจะปิดประตูห้องทำงานลง ก็ได้ยินเสียง “ปังปัง” ดังออกมาจากด้านใน เหมือนกับกำลังทุบอะไรอยู่
“มาแค่ตัวก็พอแล้ว เอาผลไม้มาทำอะไร? ผมขาดแคลนผลไม้นิดหน่อยพวกนี้ของคุณไว้กินเหรอ?” คำพูดของลี่จิ่วเชียนถึงแม้ว่าจะพูดไปอย่างนั้น แต่ก็ยังเก็บผลไม้เอาไว้
“แน่นอนว่าคุณไม่ได้ขาดแคลนมันอยู่แล้ว แต่ฉันไม่สามารถมามือเปล่าได้” มู่น่อนน่อนพูด แล้วนั่งลงฝั่งตรงกันข้ามกับเขา
ตรงหน้าโต๊ะทำงานของลี่จิ่วเชียน มีเก้าอี้อยู่สองตัว
หลังจากที่มู่น่อนน่อนนั่งลงไปแล้ว ก็ได้อุ้มเฉินมู่ไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวนึง “มู่มู่ เรียกคุณลุงลี่สิคะ”
มือเล็กทั้งสองข้างของเฉินมู่ได้ดันขอบโต๊ะทำงานไปเบาๆ ดวงตากลมกรอกไปตามเสียง สุดท้ายก็มาจรดอยู่ที่บนร่างของลี่จิ่วเชียน แล้วก็ส่งเสียงเรียกออกไปอย่างว่าง่าย “คุณลุงลี่”
ถึงแม้ว่าเธอกับลี่จิ่วเชียนจะเจอกันมาก่อนหลายครั้ง แต่ถึงยังไงก็ไม่ค่อยจะคุ้นเคยกันเท่าไหร่นัก
อยู่ตรงหน้าคนที่ไม่คุ้นเคย เธอได้เปลี่ยนเป็นเงียบไปเล็กน้อย
“มู่มู่ก็มาด้วย?”
เฉินมู่ตัวเล็ก ลี่จิ่วเชียนนั่งอยู่ สายตาได้รับการจำกัดเอาไว้ เมื่อกี้เขาจึงมองไม่เห็นเฉินมู่ตามมาด้วยเลย
“อืม มู่มู่มาเที่ยว” เฉินมู่พยายามยืดคอเงยหน้าขึ้นไปมองลี่จิ่วเชียนไปด้วยความลำบาก และได้ตอบกลับไปด้วยท่าทางจริงจัง
ลี่จิ่วเชียนถูกเธอทำให้รู้สึกตลกขึ้นมา ดึงลิ้นชักออกมาแล้วหยิบเอาอมยิ้มออกมาเม็ดนึงส่งไปให้เฉินมู่ “กินลูกอมมั้ย?”
นิ้วมือของเฉินมู่ขยับออกมาเล็กน้อย ดวงตามองจดจ่อเข้าไปแล้ว แต่ก็ยังหันหน้ามองไปทางมู่น่อนน่อนอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วขอความเห็นจากเธอ “คุณแม่”
มู่น่อนน่อนหลุดยิ้มออกมา แล้วถามเธอออกไป “มู่มู่อยากกินลูกอมเหรอ?”
เฉินมู่พยักหน้าออกมาติดๆกัน เธอชอบกินลูกอมที่สุด แต่ว่าคุณแม่บอกว่าไม่อาจรับของคนอื่นซี้ซั้วได้
มู่น่อนน่อนแตะหัวเธอไปด้วยความเอ็นดู “หยิบไปเถอะ คุณลุงลี่เอาให้หนูสามารถรับมันไปได้ หลายวันมานี้ไม่ได้กินลูกอมเลย วันนี้สามารถกินได้”
ได้รับการเห็นชอบจากมู่น่อนน่อน เฉินมู่จึงรีบยื่นมือออกไปรับลูกอมมาทันที แล้วเอ่ยเสียงหวานออกไป “ขอบคุณค่ะคุณลุงลี่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...