ลี่จิ่วเชียนมองมาทางเฉินมู่และยิ้มให้อย่างเป็นมิตร “ช่างน่าเอ็นดูเสียจริง”
เฉินมู่เม้มริมฝีปากพลันยื่นอมยิ้มให้กับมู่น่อนน่อน “คุณแม่แกะให้หนูทีสิคะ”
มู่น่อนน่อนรับมา จากนั้นจึงเริ่มแกะให้เธอ พร้อมทั้งเอ่ยถามลี่จิ่วเชียนไปด้วย “ทำไมห้องทำงานของคุณถึงมีพวกลูกอมอยู่ในห้องด้วยล่ะ?”
“คนไข้ของผมนอกจากคนผู้ใหญ่แล้ว ยังมีเด็กๆ อีก” ลี่จิ่วเชียนพูดกำชับ และแสดงท่าทางต้องการถามเธอกลับ “พูดมาเถอะ ที่มาหาผมมีเรื่องอะไร”
มู่น่อนน่อนตะลึงเล็กน้อย “ฉันมาคุยกับคุณไม่ได้เลยเหรอคะ?”
“ก็หวังให้เป็นแบบนั้นนะ แต่คุณมาหาผมเพื่อจะหาเรื่องคุยกันเท่านั้นเองเลยเหรอ?” รอยยิ้มที่อยู่บนสีหน้าของลี่จิ่วเชียนยังคงยิ้มร่าเช่นเดิม แต่กลับแสดงความรู้สึกมองเห็นทุกอย่างทะลุปรุโปร่งผ่านทางสายตา
มู่น่อนน่อนได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “คุณพูดมาแบบนี้ฉันก็รู้สึกละอายใจอยู่นะ ฉันมีเรื่องจริงๆ ถึงต้องมาที่นี่”
เธอพูดจบ พลันหยิบบัตรเชิญที่อยู่ในกระเป๋าใบนั้นยื่นให้ลี่จิ่วเชียน
“วันศุกร์ที่จะถึงนี้ เฉินถิงเซียวจะจัดงานเลี้ยง หวังว่าคุณสามารถไปร่วมงานได้นะ”
ลี่จิ่วเชียนเหลือบมองบัตรเชิญแวบหนึ่ง ด้วยสีหน้าท่าทางไม่เปลี่ยนไปจากเดิม “เฉินถิงเซียวเขาให้คุณเอามาให้ผมเหรอ?”
แววตาของมู่น่อนน่อนทอประกายออกมา และคอยมองเธอแต่ไม่ได้พูดอะไร
“คุณก็รู้ดีว่าผมกับเฉินถิงเซียวไม่ถูกกัน ย่อมไม่มีทางที่จะเชิญผมไปร่วมงานเลี้ยงที่เขาจัดขึ้นมาแน่นอน ฉะนั้นเฉินถิงเซียวจึงให้คุณเอามาให้ผม”
ลี่จิ่วเชียนแสยะยิ้มออกมา ท่าทางเหมือนการหยอกล้ออยู่บ้าง “เฉินถิงเซียวไอ้หมอนี่ มันช่างตลกจริง ทั้ง ๆ ที่เกลียดแสนเกลียดผมจนไม่อนุญาตให้คุณมาเจอหน้าผม แต่ยังให้คุณเป็นคนมาส่งบัตรเชิญให้ผมด้วยตัวเองนี้ นี่ก็ไม่รู้ว่ามีความคิดแผลง ๆ อะไรอยู่อีก”
มู่น่อนน่อนเพิ่งค้นพบว่า ผู้ชายพวกนี้ที่เธอรู้จัก ไม่มีสักคนที่จะจัดการอะไรง่ายๆ ได้เลย
ลี่จิ่วเชียนซึ่งไม่มีที่มาที่ไปที่แน่ชัด แถมยังเป็นคนฉลาดเฉลียวเช่นกัน จากสภาพก็ไม่ได้จงใจคิดไม่ดีกับเธอเลย แต่มู่น่อนน่อนย่อมรู้ดี สิ่งที่ลี่จิ่วเชียนลงมือทำทุกเรื่องนั้น ไม่มีเรื่องใดที่ไม่มีเหตุและผล
ในทำนองเดียวกัน เฉินถิงเซียวใช่ว่าทำทุกเรื่องอย่างไม่มีเหตุและผล
มู่น่อนน่อนขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่สักพัก เหมือนฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้แล้ว จนหน้าถอดสีทันที
ลี่จิ่วเชียนสังเกตสีหน้าของเธอที่เปลี่ยนไป “มีอะไรเหรอ?”
“เปล่าค่ะ” มู่น่อนน่อนฝืนยิ้ม จนมุมปากมันดูเกร็งอยู่บ้าง “ฉันมีธุระต่อขอตัวกลับก่อนแล้วกันค่ะ เดี๋ยวเจอกันนะคะ”
“ผมไปส่งคุณเอง ขับรถมาใช่ไหม?” ลี่จิ่วเชียนลุกพรวด พลันหยิบเสื้อโค้ทที่วางพาดอยู่บนเก้าอี้ขึ้นมา เพื่อเตรียมไปส่งมู่น่อนน่อนทางด้านนอก
มู่น่อนน่อนพูดทันควัน “ไม่ต้องไปส่งหรอก ฉันขับรถมาเอง”
“งั้นผมเดินไปส่งพวกคุณ”
ลี่จิ่วเชียนไม่สนใจคำพูดของมู่น่อนน่อนสักนิด แถมยังพาตัวสองคนแม่ลูกมาส่งถึงที่รถจอดอยู่
จังหวะที่เดินกลับมานั้น พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ก็พูดติดตลกกับเขา “คุณหมอลี่ คุณมู่ตั้งใจมาหาคุณโดยตรงเลยนะเนี่ย”
“ใช่ครับ ตั้งใจมาหาผมโดยเฉพาะเลย มานั่งอยู่ไม่ถึงสิบนาทีก็กลับซะแล้ว” ลี่จิ่วเชียนตอบคล้อยตามน้ำกับคำพูดของเธอไป แต่ไม่มีอาการโกรธเคืองแต่อย่างใด
เมื่อเขากลับเข้ามาด้านในห้องทำงานแล้ว รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าก็จืดจางลงทันที
ยามเมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ด้านหลังโต๊ะทำงานแล้ว ลี่จิ่วเชียนก็แสยะยิ้มด้วยความเย็นชาออกมาแทน
สายตาของเขาจับจ้องอยู่บนบัตรเชิญ เพียงชั่วพริบตาเดียว จากนั้นก็เบนสายตาไปทางอื่นแทน
เฉินถิงเซียวนี่กำลังคิดยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวอยู่นี่หน่า
เขาไม่เพียงแต่กำลังลองใจมู่น่อนน่อน และเป็นการลองใจเขาเช่นกัน
ถึงขั้นคนเข้ามาเชื้อเชิญถึงที่แล้ว เขาย่อมออกสู้รบอย่างยินดี
……
ตลอดการเดินทางกลับบ้านของมู่น่อนน่อน เธอขับรถค่อนข้างเร็วอยู่พอควร
เฉินมู่นั่งอยู่เบาะหลัง และผล็อยหลับไปแล้วหลังจากได้กินอมยิ้ม
ตอนที่รถยนต์ขับมาถึงใต้ตึกหมู่บ้านนั้น รถยนต์ของเฉินถิงเซียวก็กำลังขับเข้ามาในเวลาเดียว
มู่น่อนน่อนเหลือบมองนาฬิกา ประมาณห้าโมงครึ่งพอดี
เฉินถิงเซียวเพิ่งจะเลิกงานและกลับมาพอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...