เธอหัวเราะจนพ่นลมอย่างเย็นชาออกมา “สำหรับคุณแล้ว ฉันมองผู้ชายคนอื่นหลายครั้งหน่อย ก็เท่ากับคิดอยากทำเรื่องบัดสีกับผู้ชายคนนั้นงั้นสิ?”
การแสดงออกของเฉินถิงเซียวเย็นชามากกว่าเธอ “อย่างน้อยลี่จิ่วเชียนก็อยากจะทำเรื่องบัดสีกับคุณแล้วกัน”
“นี่คุณต้องการให้ฉันพูดกับคุณสักกี่ครั้งกันนะ! ฉันกับลี่จิ่วเชียนบริสุทธ์ใจไม่เคยทำเรื่องบัดสีอะไรเลย!”
เหตุเพราะอาการโกรธเคือง มู่น่อนน่อนจึงพูดด้วยเสียงสูงปรี๊ด
“ตอนที่ความทรงจำเสื่อม คุณก็อยู่กับลี่จิ่วเชียนชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ด้วยกันสองต่อสอง...”
ยังไม่ทันรอให้มู่น่อนน่อนโมโห ตัวเฉินถิงเซียวเองก็กำหมัดไว้แน่นขึ้นมาก่อนแล้ว สีหน้าแสดงอาการพายุเพชรหึงออกมา
มู่น่อนน่อนถึงกลับตะลึงชั่วครู่ เธอไม่เคยคิดมาก่อนจริงๆ ว่าในใจของเฉินถิงเซียวยังคงคิดบัญชีกับเรื่องนี้อยู่
แต่ เธอก็ได้อธิบายให้เฉินถิงเซียวไปแล้วไม่ใช่เพียงแค่รอบเดียว ทว่าเฉินถิงเซียวก็ยังคิดบัญชีอยู่ตลอด ไม่ใช่เพียงเท่านี้ แถมยังลองใจเธออีก
เฉินถิงเซียวเขาใส่อารมณ์โมโหพลาดฟาดงวงฟาดงาไปทั่ว แล้วทำไมมู่น่อนน่อนตนเองจะมีอารมณ์โกรธเคืองบ้างไม่ได้ล่ะ
เธอมิอาจยอมปล่อยผ่านไปครั้งแล้วครั้งเล่า
มู่น่อนน่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ น้ำเสียงอดกลั้นความโกรธเคืองเอาไว้ “ตอนนี้เพิ่งรู้สึกเก็บมาคิดแล้วเหรอไง? คุณรู้สึกว่าฉันกับลี่จิ่วเชียนไม่บริสุทธิ์ใจงั้นสิ งั้นคุณกับซูเหมียนก็บริสุทธิ์ใจแล้วเหรอ? สามปีที่ผ่านมาฉันนอนอยู่บนเตียงอยู่ตลอด ส่วนคุณกับซูเหมียนอยู่ในฐานะว่าที่สามีภรรยากัน ไม่มีใครหน้าไหนในเมืองหู้หยางที่ไม่รู้ว่าคุณกับซูเหมียนเป็นว่าที่สามีและภรรยากันด้วยเหรอ?”
ยิ่งขุดคุ้ยพูดเรื่องเก่าในอดีต น้ำเสียงมู่น่อนน่อนยิ่งเย็นชาขึ้น
ในใจของเธอก็เคยมีความรู้สึกที่ไม่สุขใจซุกซ่อนเอาไว้บางๆ แต่เพราะว่าการแสดงออกของเฉินถิงเซียว ดังนั้นเธอเลยเชื่อมั่นเฉินถิงเซียว
ก่อนหน้านี้เธอเคยไปเที่ยวหาเสิ่นเหลียงนั้น ทางสื่อมวลชนก็ยังขุดเรื่องงานแต่งงานของเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนขึ้นมา แถมยังด่าเธอว่าอีเมียน้อยอีก
ตอนนั้นเธอถูกด่าทอจนกลายเป็นกระแสไป
หลังจากนั้นเฉินถิงเซียวได้จัดการเรื่องนี้ทันที ตอนนั้นเธอก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
ทว่า พฤติกรรมในครั้งนี้ของเฉินถิงเซียว มันกระตุ้นต่อมความโกรธของมู่น่อนน่อน
เมื่อก่อนคิดว่าไม่เคยโกรธสักนิด แต่รู้สึกสำคัญอะไรมากนัก ตอนนี้เมื่อหวนกลับไปคิดขึ้นมาแล้ว จนทำให้เธอรู้สึกรับไม่ได้อยู่บ้าง
หากต้องการสร้างความรู้สึกระหว่างคนสองคนเอาไว้ จึงจำเป็นต้องพยายามอย่างต่อเนื่องระหว่างคนสองคน
แต่ถ้าต้องการจะหักหาญกัน มันช่างง่ายดายเหลือเกิน แค่ให้คนหนึ่งในนั้นคว้ามีดออกมา ซึ่งเพียงพอแล้วในการทำลายความรู้สึกอันแสนขื่นขมนี้ไป
ครั้งนี้ เฉินถิงเซียวเป็นคนคว้ามีดออกมาก่อน
ถ้าเป็นในอดีต มู่น่อนน่อนรู้ดีว่าเฉินถิงเซียวเป็นผู้ชายขี้งก จึงคอยเอาใจเพื่อให้ผ่านไปได้
ทว่าระหว่างคนสองคนนั้น การยอมอ่อนข้อให้และการเอาใจมันไม่สามารถเป็นอาวุธที่เอาไว้รักษาความรู้สึกเอาไว้ได้
ถ้าขืนเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ การยอมอ่อนข้อให้การเอาใจ อาจจะกลายเป็นบรรทัดฐานระหว่างพวกเขาแทน
ระยะนี้แม้ว่าทั้งสองคนจะดูเป็นมิตรกันมากก็ตาม แต่ช่องตรงกลางนั้นยังมีปัญหาอยู่มาก
ปัญหาเหล่านั้นก็กำลังอยู่ที่ปากปล่องระบาย เพียงแวบเดียวมันก็จะพรั่งพรูออกมา อย่างดุเด็ดเผ็ดร้อน
แววตาของเฉินถิงเซียวจับจ้องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย พลางเม้มริมฝีปากเหมือนกับควบคุมอะไรอยู่
และก็ไม่รู้ว่าใช้เวลาผ่านไปนานขนาดไหนแล้ว อารมณ์โกรธของเขาเปลี่ยนเป็นการหัวเราะออกมาแทน “เรื่องของผมกับซูเหมียนมันเกิดอะไรขึ้น? คุณย่อมรู้ดีแก่ใจไม่ใช่เหรอ?”
มู่น่อนน่อนถามยอกย้อนฝ่ายตรงข้ามกลับ “เรื่องของฉันกับลี่จิ่วเชียนมันเกิดอะไรขึ้น? คุณย่อมรู้ดีแก่ใจเหมือนกันนี่?”
“ผมไม่เคยรู้แจ้งมาก่อนเลย แต่ตอนนี้ผมรู้แจ้งทุกอย่างแล้ว! หึ!”
การเยาะเย้ยในตอนสุดท้ายนั้น ฟังดูแล้วมันทำให้คนตกใจอยู่มาก
มู่น่อนน่อนโมโหจนลุกพรวดขึ้นทันที พลางชี้ไปที่ประตู “ออกไป!”
เฉินถิงเซียวหรี่ตามองเล็กน้อย “นี่คุณไล่ผมออกไปเหรอ?”
มู่น่อนน่อนต้องการจะอ้าปากพูด พลันฉุกคิดได้ว่าเฉินมู่กำลังนอนหลับอยู่ จึงกระซิบพูดแทน “ดูเหมือนว่าความสามารถในการฟังของคุณยังปกติดีอยู่มากนะ!”
เฉินถิงเซียวกำหมัดไว้แน่น พลันผ่อนแรงและบีบจนแน่น เมื่อแน่นแล้วก็ผ่อนออก
จากนั้นก็ลุกพรวดขึ้น และหันตัวสาวเท้ายาวไปทางด้านนอกทันที
ปึง!
ประตูห้องถูกคนใช้ความรุนแรงในการปิด จนมีเสียงดังสะท้อนทะลุแก้วหู
บรรยากาศในห้องพลันกลับคืนเป็นปกติดังเดิมในเวลานั้น
มู่น่อนน่อนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมทั้งนิ่งอยู่ครู่เดียว ถึงได้หันหน้าไปมองทางประตู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...