เฉินมู่แสดงอาการแปลกใจที่สุดกับคำพูดของมู่น่อนน่อน “กินบุหรี่กินอิ่มด้วยเหรอคะ?”
เธอรู้ว่าบุหรี่คืออะไร แต่ก็แปลกใจว่าสูบบุหรี่มันกินได้ด้วยเหรอ
มู่น่อนน่อนยิ้มให้เล็กน้อยจากนั้นก็พูดออกมา “เพราะว่านั่นเป็นทักษะของพ่อหนูไงคะ ในทางกลับกันหนูแค่รู้ว่าพ่อหนูอิ่มแล้วก็พอแล้วค่ะ”
เฉินมู่พยักหน้าอย่างไม่รู้ความหมาย
……
ตอนที่มู่น่อนน่อนกับเฉินมู่กินข้าวอิ่มแล้วและกลับมานั้น ในห้องมันเงียบเชียบผิดปกติ
มู่น่อนน่อนเปิดไฟ และสำรวจบริเวณโดยรอบ จนสุดท้ายสายตาจับจ้องไปที่ประตูห้องของเฉินถิงเซียว
ไม่ต้องผลักประตูเข้าไปดู เธอก็รู้ดีว่า เฉินถิงเซียวไม่ได้อยู่ในห้อง
เพราะว่า ในห้องกลิ่นอายของเฉินถิงเซียวมันหายไป
ตัวเธอเองก็ยังไม่ชัดเจนกับความรู้สึกแวบนั้น ในทางกลับกันเมื่อเดินเข้าประตูบ้านไปแล้วก็รู้สึกได้ทันที ว่าเฉินถิงเซียวไม่อยู่ที่นี่
เมื่อเดินเข้าประตูไปนั้น เธอก็ยังให้ความสนใจตรงหน้าประตูด้วย
ก้นบุหรี่กับเถ้าบุหรี่ที่อยู่ตรงนั้นมันไม่อยู่แล้ว ไม่คิดเลยว่าเฉินถิงเซียวจะจัดการกวาดจนสะอาดขึ้นมาจริงๆ
เธอจินตนาการท่าทางเฉินถิงเซียวถือไม้กวาดและโค้งตัวลงไปกวาดพื้น
เธอไม่เคยเห็นเฉินถิงเซียวกวาดพื้นมาก่อนเลย ภาพภาพนี้ต้องอาศัยจินตนาการเท่านั้น
ส่วนเฉินมู่นั้น เมื่อเข้าประตูไปก็วิ่งไปผลักประตูห้องของเฉินถิงเซียวทันที “คุณพ่อคะ?”
เธอใช้มือตบลงบนบานประตูอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่มีคนตอบกลับเธอ เธอเลยส่งเสียงมาทางมู่น่อนน่อนพร้อมทำสายตาสงสัย “คุณแม่ คุณพ่อไม่ยอมเปิดประตูค่ะ”
เพราะเธอนึกว่าเฉินถิงเซียวยังอยู่ในห้อง
“น่าจะนอนหลับแล้วมั้ง” มู่น่อนน่อนเดินเข้าไปหา พลันจูงมือเธอเข้าไปในห้องน้ำ “มู่มู่ก็ต้องนอนได้แล้วค่ะ”
เวลาก็ไม่ใช่ช่วงหัวค่ำแล้ว ก่อนหน้าที่เฉินมู่จะกินข้าวนั้นก็แสดงอาการให้เห็นว่าง่วงนอนแล้ว
ตอนที่เธอกำลังอาบน้ำให้เฉินมู่อยู่ เฉินมู่ก็เริ่มแสดงอาการสัปหงกหัวเหมือนเจ้าไก่น้อยที่กำลังจิกข้าว
หลังจากกล่อมเฉินมู่นอนแล้ว มู่น่อนน่อนก็ปิดประตู และความหาโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วหาเบอร์โทรศัพท์ของเฉินถิงเซียว นิ้วมือที่อยู่หน้าจอก็มีอาการลังเลอยู่สักพัก ในที่สุดก็ไม่ได้กดโทรหา
ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเป็นความผิดของเฉินถิงเซียว แล้วมีสิทธิ์อะไรที่ให้เธอเป็นคนออกหน้าก่อน
แม้ว่าเธอจะก้มหัวให้เฉินถิงเซียวเพื่อคืนดีกันแล้ว แต่ปัญหาที่มันค้ำคอระหว่างคนสองคนยังไม่ได้สะสางเลย
และก็ไม่รู้ว่าเฉินถิงเซียวกำลังคิดอะไรอยู่...
……
เช้าตรู่ สือเย่ได้รับโทรศัพท์จากเฉินถิงเซียว พร้อมทั้งกำชับให้เขาไปที่วิลล่าเพื่อช่วยเอาของใช้ส่วนตัวพร้อมทั้งเสื้อผ้าสองชุด ไปให้เฉินถิงเซียวที่บริษัทด้วย
สือเย่รับโทรศัพท์จนพูดคุยเสร็จแล้ว จนเกิดความสงสัยอยู่ในใจ
คุณชายก็พักอยู่กับคุณหญิงน้อยอยู่ตลอด? ทำไมจู่ ๆ ต้องให้เขาเอาเสื้อผ้าไปที่บริษัทด้วยล่ะ?
ทะเลาะกันแล้วเหรอ?
เมื่อมาถึงบริษัท สือเย่ก็รู้ว่าสิ่งที่ตนเองคาดเอาไว้นั้นไม่มีผิดเพี้ยนไปเลย
ตลอดทั้งวัน บริษัทเฉินซื่อต่างตกอยู่ในสภาวะอัดอั้นท่ามกลางการถูกบีบจนเคร่งขรึมอยู่ตลอด
เฉินถิงเซียวอารมณ์ไม่ดี เวลาพูดจาออกมาก็ไม่ไว้หน้าใครเลย
ตอนถึงช่วงเวลาเลิกงานนั้น หลังจากที่สือเย่ได้รับข้อความที่ภรรยาส่งมาให้เร่งกลับบ้านไปกินข้าวถึงสามครั้งสามคราแล้วนั้น จึงได้ใช้ข้ออ้างในการส่งเอกสาร เพื่อไปยังห้องทำงานของเฉินถิงเซียว
“คุณชาย วันนี้ให้ผมขับรถไปส่งคุณกลับบ้านไหม?”
เฉินถิงเซียวพูดอย่างไม่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ “ไม่ต้อง”
“งั้นผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับ?” สือเย่ลองถามดู
เฉินถิงเซียวได้ยินดังนั้น ถึงเงยหน้าขึ้นมองเขา “เลิกงานเหรอ?”
สือเย่ผงกหัวรับเล็กน้อย พร้อมทั้งตอบกลับอย่างพินอบพิเทา “ใกล้จะสามทุ่มแล้วครับ”
เฉินถิงเซียวพูดอย่างไม่ค่อยเข้าใจ “เมื่อก่อนนายก็ไม่รีบร้อนกลับบ้านไม่ใช่เหรอ”
“เมียรอกินข้าวอยู่ที่บ้านครับ” เมื่อเอ่ยถึงภรรยา สีหน้าของสือเย่พลันปรากฎรอยยิ้มขึ้นมาทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...