เฉินถิงเซียวทำเป็นหูทวนลมไม่ยอมฟังคำพูดของสือเย่สักนิด
เขาเอนหลังพิง พร้อมทั้งพูดออกมาตามปกติ “งั้นนายพูดออกมาสิ จุดประสงค์อะไรกันที่ทำให้เขาดูแลมู่น่อนน่อนมาสามปีเต็ม แถมยังเรียกตัวเองเป็นว่าที่สามีของมู่น่อนน่อนอีก อีกทั้งตอนอยู่บนเขานั้น เขาก็สามารถหาตัวผมกับมู่น่อนน่อนได้ทันที ส่วนเรื่องจุดประสงค์นั้น...”
เขาหยุดและครุ่นคิดอยู่สักพัก จากนั้นก็หัวเราะแห้งออกมา “หึ!”
ทั้ง ๆ ที่เห็นอยู่แล้วว่าคิดไม่ซื่อกับมู่น่อนน่อน ซึ่งมันก็เพียงพอที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของเฉินถิงเซียวแล้ว คงไม่ต้องไปเอ่ยถึงจุดประสงค์อื่นอีกแล้ว
สือเย่ถอนหายใจทันที และก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เฉินถิงเซียวคิดอะไรได้ พลันช้อนตามองมาทางสือเย่ “ช่วงนี้เจอคนคอยสะกดรอยตามมู่น่อนน่อนไหม?”
“ไม่มีครับ” สือเย่ส่ายหน้าปฏิเสธทันควัน
เฉินถิงเซียวหลุบตาลงและไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ สักพัก ถึงได้พูดออกมาหนึ่งประโยค “จับตาดูทางฝั่งลี่จิ่วเชียนไว้ให้ดี”
ตอนแรก ลี่จิ่วเชียนหาที่พักของเขากับมู่น่อนน่อนเจอได้ตั้งแต่แรก นั่นก็หมายความว่า ลี่จิ่วเชียนได้ให้คนจับตาดูทุกการเคลื่อนไหวของมู่น่อนน่อนทุกอย่าง ไม่งั้นก็ไม่สามารถรับรู้ร่องรอยของมู่น่อนน่อนได้อย่างแม่นยำขนาดนั้น
หลังจากกลับมาจากเมืองหู้หยางแล้ว เขาก็ให้คนคอยปกป้องมู่น่อนน่อนอยู่แบบลับ ๆ แต่ทางฝั่งของลี่จิ่วเชียนกลับเงียบสนิทไม่มีการเคลื่อนไหวสักนิด
หลายปีที่ผ่านมานี้ ลี่จิ่วเชียนถือว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่ฉลาดที่สุดเท่าที่พวกเขาเจอมา
เขารู้ว่าตอนที่ยังตรวจสอบฐานะของลี่จิ่วเชียนกับจุดประสงค์ไม่ได้นั้น ลี่จิ่วเชียนกลับแสดงท่าทางเป็นห่วงเป็นใยมู่น่อนน่อนอยู่มาก
แถมมู่น่อนน่อนยัง...
เฉินถิงเซียวหงุดหงิดพลันยื่นมือออกมานวดบริเวณหัวคิ้วทันที น้ำเสียงแสดงความเหนื่อยล้าออกมาเล็กน้อย “นายกลับบ้านเถอะ”
สือเย่ที่จิตใจจดจ่ออยู่กับการกลับบ้าน ทว่าเมื่อเห็นท่าทางเฉินถิงเซียวในแบบนี้แล้วนั้น เขาก็อดใจไม่ไหว “คุณชาย ผมจะกินข้าวเป็นเพื่อนคุณชายนะ”
“อย่าพูดมาก”
สือเย่ไม่กล้าพูดอะไรมาก จากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปทันที
ก่อนที่เขาจะกลับไปนั้น ยังเดินพะวงหน้าพะวงหลังเหลือบมองเฉินถิงเซียวอย่างไม่วางใจ
……
วันศุกร์ใกล้มาถึงเข้าไปทุกที
หลายวันก่อน มู่น่อนน่อนยังไม่ค่อยออกจากบ้านสักเท่าไหร่ เมื่อเขียนบทเสร็จก็ส่งให้ฉินสุ่ยซานดูทันที เมื่อมีเรื่องต้องคุยกันก็วิดีโอคอลทันที
ต้องขอบคุณเทคโนโลยีสมัยใหม่
“คืนนี้แกมางานเลี้ยงจริงๆ เหรอ? ฉันพาแกเข้าไปได้นะ”
หลายวันมานี้ฉินสุ่ยซานคุยงานจบ ปกติแล้วก็จะไม่พูดประโยคตามหลังเลย
“ฉันไม่ไปจริงๆ” มู่น่อนน่อนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมฉินสุ่ยซานถึงได้ดื้อดึงกับเรื่องนี้ได้
“โอเค ถ้าแกเกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน ก็โทรศัพท์มาหาฉันทันที” ฉินสุ่ยซานเห็นว่าเธอยังยืนกรานปฏิเสธ เลยไม่อยากฝืนเธอ
“ตกลง”
หลังจากกดวางวิดีโอคอลแล้ว มู่น่อนน่อนก็หยิบโทรศัพท์มา แต่ก็ไม่มีสายที่ไม่ได้รับสาย และไม่มีข้อความที่ยังไม่ได้อ่านเลย
นี่เฉินถิงเซียวช่างเก็บอารมณ์ไว้ได้จริงๆ นี่มันสามวันเต็มแล้ว เฉินถิงเซียวยังไม่ยอมติดต่อมาหาเธอเลย
ถ้าพูดว่าตอนที่เธอเพิ่งจะทะเลาะกับเฉินถิงเซียวนั้น มันก็แค่โมโหเล็กน้อยเท่านั้นเอง แต่หลังจากระเบิดอารมณ์ออกมาและผ่านไปสามวันแล้ว มู่น่อนน่อนก็โกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว
ถึงขั้นเฉินถิงเซียวไม่ยอมเป็นคนติดต่อเธอเองเลย งั้นก็ดูกันว่าทั้งสองคนใครจะเก็บอารมณ์ได้มากกว่ากัน
มู่น่อนน่อนที่ในมือถือโทรศัพท์อยู่จนหลุดภวังค์ไป จู่ ๆ โทรศัพท์ก็สั่นขึ้นมา
เธอใจเต้นทันที คิดว่าเฉินถิงเซียวโทรศัพท์เข้ามาหา พลันก้มหน้ามอง แต่กลับเป็นเสิ่นเหลียงโทรเข้ามาหาแทน
เธอกดรับสายทันที เสิ่นเหลียงจึงเอ่ยปากถามเธอ “ออกมาทำผมเร็ว ชุดราตรีที่จะออกงานเลี้ยงเลือกเอาไว้แล้วหรือยัง?”
เรื่องงานเลี้ยงที่เฉินถิงเซียวจัดขึ้น เหมือนว่าลือกระฉ่อนไปทั่วเมืองหู้หยางแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...