ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 508

เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไรเลย พลันมองต่ำลง สายตาจับจ้องไปยังท่อนแขนของมู่น่อนน่อนที่คล้องแขนลี่จิ่วเชียนอยู่

ลี่จิ่วเชียนค่อยๆ ช้อนตาขึ้น รอยยิ้มอันแสนอบอุ่นที่อยู่บนใบหน้ากับภาคภูมิใจแต่ไม่มีพลังการโจมตีสักนิด จากนั้นจึงพูดออกมาอย่างง่ายๆ “คุณเฉิน”

น้ำเสียงอันเรียบเฉย ราวกับมีความรู้สึกอื่นๆ ปะปนอยู่

เฉินถิงเซียวคลี่ยิ้ม ความโค้งของมุมปากเย็นชาผิดปกติ

สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ตัวของมู่น่อนน่อน

ถ้าต้องการจะให้พูดออกมาไม่ได้ มู่น่อนน่อนยังคงหวาดกลัวเฉินถิงเซียวอยู่บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เฉินถิงเซียวในเวลานี้

แต่ว่า ชีวิตคนเรามักก้าวเดินไปด้านหน้าเสมอ

ฉะนั้น มู่น่อนน่อนเกี่ยวแขนลี่จิ่วเชียนเอาไว้ และเหนี่ยวเพิ่มแรงให้มากขึ้น เพื่อให้คนสองคนได้ใกล้ชิดมากขึ้นไปอีกขั้น

ซูเหมียนที่นั่งไม่พูดไม่จาอยู่ด้านข้างเฉินถิงเซียวอยู่ตลอด แต่กลับลุกขึ้นพรวดขึ้นมาอย่างกะทันหัน และเดินมายืนอยู่ข้างกายเฉินถิงเซียว และยิ้มแย้มพูดออกมา “ไม่คิดเลยว่าเฉินถิงเซียวจะเชิญคุณมาด้วยเหมือนกัน ถ้ารู้ตั้งแต่แรกฉันก็ควรจะไปทักทายกับคุณ จะได้ไม่ให้พวกคุณต้องเดินมา”

ซูเหมียนในวัยอายุ 30 ปีแล้ว ดูและช่างไม่แตกต่างกับซูเหมียนเมื่อสามปีที่แล้ว

เมื่อพูดแล้ว นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มู่น่อนน่อนพูดกับซูเหมียนในรอบสามปี

การที่ซูเหมียนสามารถเป็นเพื่อนกับเฉินจิ่งหยุ้นได้ ย่อมไม่ใช่ตัวละครธรรมดาแน่นอน

ซูเหมียนจงใจใช้คำพูดกลายเป็นว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนไปเชิญมู่น่อนน่อน การแสดงออกของเฉินถิงเซียวเมื่อครู่นี้คือจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่ามู่น่อนน่อนเป็นใครกัน และนี่เป็นการเปลี่ยนแนวคิดเพื่อบอกให้ทุกคนได้ทราบว่า การที่มู่น่อนน่อนมาในครั้งนี้ไม่ใช่มาดีแน่

อีกทั้ง เธอยังใช้น้ำเสียงแกมตัวเองเป็นนางเอกตอนพูดออกมา

สรุปแล้วซูเหมียนไม่ใช่ลูกสาวที่ถูกเลี้ยงดูแบบคนปกติทั่วไป เพราะเธอจัดการเรื่องราวได้อย่างเป็นผู้ใหญ่และระมัดระวังมากจนเห็นได้อย่างชัดเจน

เพียงแค่พูดลอยลมออกมาไม่กี่ประโยค แต่สามารถทำให้มู่น่อนน่อนอับอายได้

ยังไม่ทันให้มู่น่อนน่อนพูดตอบมา ลี่จิ่วเชียนก็หัวเราะตอบกลับไปแทน “คุณผู้หญิงท่านนี้คงยังไม่ทราบ เดิมคุณเฉินตั้งใจเรียนเชิญผมให้มาร่วมงานเลี้ยง แต่ว่าเป็นห่วงว่าน่อนน่อนจะเบื่อกับการอยู่คนเดียว เลยพาเธอมาด้วยครับ”

เมื่อครู่ซูเหมียนไม่เคยได้สังเกตลี่จิ่วเชียนสักเท่าไหร่ เพราะถึงอย่างไร นอกจากเฉินถิงเซียวแล้ว เธอยังไม่เคยมองผู้ชายคนอื่นเลย

แต่เมื่อได้ยินเสียงลี่จิ่วเชียนพูดขึ้นมา ถึงได้หันหน้าไปมองเขา

เธอใช้สายตากวาดตาพิจารณามองลี่จิ่วเชียน จนแววตาทอประกายอาการดูถูกออกมา

สำหรับเธอแล้ว แม้ว่าลี่จิ่วเชียนจะหน้าตาไม่เลวก็ตาม นิสัยก็ไม่ได้ย่ำแย่ แต่ยังทิ้งแถวเฉินถิงเซียวอยู่ไกลโข

ซูเหมียนยื่นมือขึ้นลูบผมตัวเองเล็กน้อย พลันยิ้มให้อย่างเป็นทางการ น้ำเสียงช่างเป็นธรรมชาติมากที่สุด “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง”

มู่น่อนน่อนจ้องมองทุกการกระทำของของซูเหมียน

ผู้หญิงที่มีภูมิหลังเช่นซูเหมียน เรื่องที่จะมาดูถูกเธอกับลี่จิ่วเชียน เธอสามารถเข้าใจได้

เพราะถึงอย่างไรก็มักมีคนใช้เรื่องฐานะทางบ้านกับสิ่งของภายนอกมาเปรียบเทียบกัน เพื่อแสดงความโดดเด่นของตนเอง แสดงตัวเองสูงส่งอยู่บนหิ้งเหนือกว่าคนอื่นอีกชั้น

มู่น่อนน่อนหัวเราะแห้งๆ และพูดสื่อความหมายเป็นนัย “สิ่งที่คุณหนูซูไม่รู้เรื่องนั้นมีอีกเยอะ มีเวลาก็คอยถามคุณเฉินบ้างนะคะ”

สัญญาการแต่งงานระหว่างซูเหมียนกับเฉินถิงเซียว ต่างเป็นข่าวลือหนาหูมาตลอด เมื่อครู่ตอนเธอนั่งอยู่ด้านข้างเฉินถิงเซียวนั้น สำหรับคนอื่นมองมาแล้ว นี่เป็นการนั่งที่เป็นการบอกถึงความสัมพันธ์ถึงคนสองคน

แต่มู่น่อนน่อนกับซูเหมียนต่างรู้อย่างชัดเจนดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น

โดยปกติแล้ว อย่าไปเอ่ยถึงซูเหมียนว่าจะคุยกับเฉินถิงเซียวเลย ขนาดจะเจอหน้าเจอตากันยังไม่ง่ายเลย

คำพูดอันเหน็บแนมของมู่น่อนน่อน มีแค่ตัวของซูเหมียนที่จะเข้าใจ

รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของซูเหมียนแปรเปลี่ยนเป็นฝืนกลั้นแทน “พูดอีกก็ถูกอีก แต่ว่า ปกติฉันกับเฉินถิงเซียวทำงานยุ่งมาก คงไม่ต้องให้คนนอกมาวิตกกังวลกับเรื่องเล็กน้อยพวกนี้หรอกค่ะ”

เรื่องเล็กน้อยของคนนอกเหรอ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม