เคร้ง!
ช้อนตักน้ำซุปในมือของมู่น่อนน่อนร่วงลงบนโต๊ะอาหาร
เธอหันหน้าไปมองเฉินถิงเซียวตาค้าง
เธอไม่เคยเห็นท่าทางเชื่อฟังเช่นนี้ของเฉินถิงเซียวมาก่อน
มู่น่อนน่อนจับแขนเสื้อของเขา หันหน้าไปมองเขา “คุณพูดอีกครั้งหนึ่งสิ?”
เฉินถิงเซียวหันหน้ามา ขมวดคิ้วมองเธอ เอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด “พูดอะไร?”
หลังจากนั้น ก็ดึงมือเธอออกราวกับรังเกียจการสัมผัสจากเธอเป็นอย่างมาก
การกระทำเช่นนี้ในสายตาของบุคคลอื่นก็เหมือนว่าหงุดหงิดจากสัมผัสของเธอ
แต่มู่น่อนน่อนรู้สึกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วว่า เฉินถิงเซียวเขินอายเสียแล้ว
เพียงแต่เขาไม่ใช่คนที่เชี่ยวชาญในเรื่องการแสดงออก ดังนั้นในตอนนี้จึงอาศัยสัญชาตญาณหลบสายตาเธอ
มู่น่อนน่อนรู้สึกคล้ายกับว่าเธอค้นพบวิธีการใหม่ที่ถูกต้องในการทำความรู้จักกับเฉินถิงเซียวแล้ว
กู้จือหยั่นที่นั่งอยู่ตรงข้ามทั้งสองคนทนดูต่อไปไม่ไหว
เขาโยนตะเกียบลงกับโต๊ะ ถอนหายใจพลางเอ่ยว่า “ฉันรู้แล้วว่าทำไมฟู้ถิงซี เจ้าหมอนั่นถึงไม่มากินข้าวด้วยกัน ข้าวมื้อนี้ฉันก็ยังไม่ค่อยได้กิน ก็รู้สึกว่าถูกการจู๋จี๋ตรงหน้าทำให้ตาใกล้จะบอดเสียแล้ว”
เขาเอ่ยจบก็เอ่ยซ้ำอีกรอบด้วยความเสียใจในการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตัวเอง “มิน่าเขาถึงไม่มา”
เฉินถิงเซียวได้ยินแล้ว ก็ยื่นมือไปโอบมู่น่อนน่อนเข้ามาในอ้อมแขน ภายใต้ความไม่ใส่ใจแฝงไปด้วยความรู้สึกโอ้อวดอยู่หลายส่วน “ลืมบอกนายไปเลยว่า พวกเราจะแต่งงานกันแล้ว ถึงตอนนั้นจะเชิญนายมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว”
กู้จือหยั่นที่ถูกโจมตีติดต่อกัน ทั่วทั้งร่างก็รู้สึกไม่ดีเสียแล้ว
“นาย...ไม่กี่วันก่อนหน้านี้พวกนายยังทะเลาะกันอยู่ไม่ใช่หรือ ทำไมถึงจะแต่งงานกันเร็วขนาดนี้ล่ะ”
กู้จือหยั่นเอ่ยถามมู่น่อนน่อน “น่อนน่อน เธอคิดดีแล้วจริงๆหรือ”
เฉินถิงเซียวยิ้มเย็น ตัดบทเขา “แม้ว่าจะเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว แต่ก็อย่าลืมของขวัญแต่งงานล่ะ บ้าน รถ เครื่องบิน เงินสด ที่ดิน ล้วนได้หมด ฉันไม่เลือกมาก”
“......” กู้จือหยั่นไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว
.......
กู้จือหยั่นถูกเฉินถิงเซียวกับมู่น่อนน่อนยั่วโมโห ดังนั้นจึงดื่มไวน์ไปเยอะมาก
เฉินถิงเซียวให้บริกรแบกเขาขึ้นไปนอนบนห้องพักด้านบน และพามู่น่อนน่อนจากไป
เมื่อนั่งอยู่ในรถ มู่น่อนน่อนก็รู้สึกไม่วางใจอยู่บ้าง
“ให้กู้จือหยั่นอยู่ที่นั่นคนเดียวจะไม่เป็นไรหรือ”
“โรงแรมจีนติ่งเป็นของเขาครึ่งหนึ่ง เบื้องหน้าเขาก็เป็นเจ้านาย ไม่มีใครกล้าทำอะไรเขาหรอก” เฉินถิงเซียวเอ่ยจบแล้วก็มีสีหน้าเคร่งขรึม “หลังจากนี้ก็เป็นห่วงผู้ชายคนอื่นให้น้อยหน่อย”
มู่น่อนน่อนถามเขา “เป็นห่วงในฐานะเพื่อนก็ไม่ได้หรือ”
คำตอบของเฉินถิงเซียวนั้นเด็ดขาด “ไม่ได้”
มู่น่อนน่อนได้ยินแล้ว ก็เม้มริมฝีปาก ไม่เอ่ยพูดอะไร
ปัญหาเดิมระหว่างเธอกับเฉินถิงเซียวยังคงอยู่
ก่อนหน้านี้เขาไม่ให้เธอทำความรู้จักกับลี่จิ่วเชียน มู่น่อนน่อนยังสามารถนึกถึงเหตุผลได้นิดหน่อย
แต่กระทั่งเธอเอ่ยว่าเป็นห่วงกู้จือหยั่นประโยคเดียว เฉินถิงเซียวก็ไม่อนุญาต
น้ำเสียงของเขาจริงจังขนาดนี้ ไม่เหมือนกับล้อเล่นแม้แต่น้อย
กู้จือหยั่นเป็นเพื่อนสนิทของเฉินถิงเซียวมาหลายปี
มู่น่อนน่อนรู้ว่า เฉินถิงเซียวเชื่อในตัวกู้จือหยั่น
ในเมื่อเชื่อในตัวกู้จือหยั่น และรู้ว่าเธอเพียงแค่เป็นห่วงกู้จือหยั่นในฐานะเพื่อน ทำไมเขาถึงยังคงไม่อนุญาตกัน?
มู่น่อนน่อนนึกถึงคำพูดที่สือเย่เคยพูดเอาไว้
สือเย่พูดว่า นิสัยของเฉินถิงเซียวมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง
ความจริงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
ถ้าหากชั่วชีวิตนี้เฉินถิงเซียวเป็นแบบนี้ตลอด โมโหเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อย ถือสาที่เธอพูดคุยกับคนต่างเพศประโยคหนึ่ง เช่นนั้นควรจะทำอย่างไรกัน
อาจจะเป็นเพราะว่ามู่น่อนน่อนนิ่งเงียบนานเกินไป เฉินถิงเซียวถึงได้เอ่ยถามขึ้นมาประโยคหนึ่งกะทันหัน “กำลังคิดอะไรอยู่”
มู่น่อนน่อนกระพริบตา อำพรางอารมณ์ความรู้สึกในก้นบึ้งนัยน์ตา เอ่ยกับเขายิ้มๆว่า “กำลังคิดถึงมู่มู่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...