มู่น่อนน่อนพูดแล้ว ก็อุ้มเฉินมู่เดินอ้อมเฉินถิงเซียวขึ้นไปที่ชั้นบน
เฉินถิงเซียวยื่นมือออกมาได้ครึ่งทาง ตะลึงงันมองมู่น่อนน่อนขึ้นไปข้างบนแล้ว ถึงได้เก็บมือกลับมา
เขาสูดลมหายใจลึก หลุบตาลงอย่างไม่รู้ว่าคิดสิ่งใดอยู่
......
มู่น่อนน่อนวางเฉินมู่ลงบนเตียง ตอนที่ช่วยเธอถอดเสื้อผ้า เฉินมู่ก็ตกใจตื่นเสียแล้ว
เธอเอ่ยเรียกด้วยน้ำเสียงตื่นตระหนกเล็กน้อย “คุณแม่”
มู่น่อนน่อนรีบกุมมือเธอเอาไว้ และหอมแก้มเธอ “แม่อยู่นี่จ้ะ”
เฉินมู่จึงหลับต่อไปด้วยความสบายใจอย่างรวดเร็ว
เธอเฝ้ามองอยู่ข้างเตียงอีกครู่หนึ่ง ถึงได้หมุนตัวออกไป
เธอเดินไปตามระเบียงทางเดิน ลงไปที่ชั้นล่าง ก็พบว่าภายในห้องโถงว่างเปล่า นอกจากคนรับใช้ไม่กี่คน ก็ไม่มีเงาร่างของเฉินถิงเซียว
มู่น่อนน่อนเดินขึ้นไปยังตำแหน่งที่ตั้งห้องหนังสือของเฉินถิงเซียวที่ชั้นบน เธอเดาว่า เฉินถิงเซียวน่าจะอยู่ในห้องหนังสือ
เธอกำลังจะขึ้นไป ก็เห็นเฉินถิงเซียวเดินลงมาเสียแล้ว
เขาเปลี่ยนเป็นชุดนอน กลิ่นอายคมปลาบบนร่างกายลดลงไปไม่น้อย
“มู่มู่หลับแล้ว?” เฉินถิงเซียวเดินมาถึงตรงหน้าเธอ ก้มหน้าหอมแก้มเธอครั้งหนึ่ง
มู่น่อนน่อนพยักหน้า “อืม คุณขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้า?”
ในตอนนี้เองที่คนรับใช้เดินเข้ามาเอ่ยด้วยท่าทางเคารพนบนอบ “คุณชาย คุณหญิงน้อย อาหารเย็นเตรียมเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”
.......
เมื่อกินมื้อเย็นเสร็จ มู่น่อนน่อนก็ขึ้นไปดูเฉินมู่ที่ชั้นบน
ก่อนหน้านี้เฉินมู่กินข้าวแล้ว มู่น่อนน่อนจึงไม่ต้องเป็นห่วงว่าเธอจะตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะหิวข้าว เพียงแต่มาดูเพราะไม่วางใจ
คนเป็นแม่อาจจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน ยิ่งมองลูกของตัวเอง ก็ยิ่งรู้สึกว่าน่ารักจนแทบทนไม่ไหว
เธออยู่ในห้องของเฉินมู่นานมาก จนกระทั่งเฉินถิงเซียวมาหาเธอ “คุณตั้งใจนอนที่นี่คืนนี้?”
มู่น่อนน่อนหันหน้าไป ยื่นนิ้วชี้ขึ้นมาแตะริมฝีปาก “ชู่ว เบาหน่อย”
เฉินถิงเซียวเดินเข้ามา และหันหน้าไปมองเฉินมู่ครู่หนึ่ง
หลังจากนั้นก็หันมามองมู่น่อนน่อน “คุณก็ควรจะเข้านอนได้แล้ว”
มู่น่อนน่อนมองเฉินมู่ เอ่ยเสียงเบาว่า “คืนวันนี้ฉันอยากนอนกับมู่มู่”
เฉินถิงเซียวเลิกคิ้ว เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “แล้วผมล่ะ”
น้ำเสียงของเขาแทบจะไม่แตกต่างอะไรจากช่วงเวลาปกติ แต่มู่น่อนน่อนฟังออกถึงความรู้สึกคับแค้นใจที่ถูกทิ้งอยู่หลายส่วน
มู่น่อนน่อนมองเขา พลางเอ่ยว่า “คุณก็นอนเองสิ หรือต้องให้ฉันกล่อม?”
“อืม” เฉินถิงเซียวรับคำ กอดอกจ้องมองเธอ คล้ายกับว่ารอคำตอบจากเธอ
มู่น่อนน่อนครุ่นคิด เอ่ยหยั่งเชิงขึ้นว่า “อย่างนั้น...ก็นอนด้วยกัน?”
เฉินถิงเซียวไม่พูดอะไร เธอจึงถือว่าเฉินถิงเซียวเห็นด้วยแล้ว
เธอเลิกผ้าห่มเฉินมู่ออก เอ่ยกับเฉินถิงเซียวว่า “คุณกอดเฉินมู่เถอะ เบาหน่อยนะ อย่าทำให้เธอตื่น”
เฉินถิงเซียวหรี่ตาลงเล็กน้อย เอ่ยขึ้นว่า “นอนด้วยกัน?”
“ใช่สิ พวกเราสามคนนอนด้วยกัน” มู่น่อนน่อนมองสีหน้าไม่เป็นมิตรเท่าไรนักของเฉินถิงเซียวแล้ว ก็เข้าใจได้ว่า ความหมายของคำว่า “นอนด้วยกัน” ที่เฉินถิงเซียวเข้าใจ กับที่เธอเข้าใจนั้นไม่ใช่ความหมายเดียวกัน
การนอนด้วยกันที่เธอพูดถึงก็คือ พวกเราสามคนนอนด้วยกัน
ส่วนการนอนด้วยกันที่เฉินถิงเซียวพูดถึงคือ เขากับมู่น่อนน่อนนอนด้วยกัน
นี่มันช่าง....
เพียงแต่ว่า สุดท้ายเฉินถิงเซียวก็ถูกบีบให้เป็นฝ่ายถอย
เขาอุ้มเฉินมู่ไปที่ห้องนอนหลัก
ตอนที่มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป ก็เห็นเฉินถิงเซียววางเฉินมู่ที่ริมเตียงด้านหนึ่ง
เธอเดินเข้าไป ขยับเฉินมู่ไปที่ตรงกลางเตียง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...