พนักงานร้านชุดแต่งงานมีสายตาเฉียบแหลมมาก เห็นมู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวเดินเข้าไปทางด้านใน ก็รู้ว่าพวกเขามีเรื่องจะคุยกัน จึงไม่ได้เดินใกล้มากเกินไป ปล่อยให้พวกเขาได้พื้นที่ว่างในการสนทนากัน
ทั้งสองคนเดินไปถึงสถานที่ที่ไม่มีคน มู่น่อนน่อนถึงได้ปล่อยเขา
“คำพูดของซูเหมียนหมายความว่าอะไร งานเลี้ยงคราวที่แล้ว ทำไมคุณถึงให้เธอนั่งข้างคุณ เธอพูดอะไรกับคุณ” เรื่องในงานเลี้ยง เธอเห็นชัดเจนแจ่มแจ้ง
เห็นได้ชัดว่าหลังจากที่ซูเหมียนพูดอะไรบางอย่างกับเฉินถิงเซียว แม้ว่าเฉินถิงเซียวจะไม่เต็มใจ แต่ก็ยอมให้ซูเหมียนนั่งข้างเขา
แต่เมื่อครู่นี้ สายตาของซูเหมียนก็ประหลาดมากเช่นกัน
เฉินถิงเซียวมองมาทางเธอด้วยแววตาเคร่งขรึม ถามด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตรว่า “คุณคิดว่าผมเป็นชายแก่?”
มู่น่อนน่อนคิดไม่ถึงว่าเฉินถิงเซียวยังจะถือสาหาความกับปัญหานี้ไม่เลิก จึงเอ่ยอย่างหงุดหงิดว่า “นั่นฉันกำลังด่าซูเหมียน”
“ในใจคุณคิดแบบนี้” เฉินถิงเซียวไม่ยอมเธอ จับปัญหาเรื่องนี้ไม่ปล่อย
มู่น่อนน่อนเอามือกุมหน้า เอ่ยอย่างจนปัญญาว่า “ไม่ใช่ ผู้ชายอายุสามสิบมีความเป็นผู้ใหญ่ จัดการเรื่องราวได้ดี ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ผู้หญิงที่ไหนเห็นก็หลงรัก คุณเพิ่งจะสามสิบพอดี ไม่แก่”
เฉินถิงเซียวหัวเราะเสียงเย็น เห็นได้ชัดมากว่าคำพูดของมู่น่อนน่อนใช้กับเขาไม่ได้
“เช่นนั้นตอนนี้คุณสามารถตอบคำถามฉันได้แล้วใช่ไหม” มู่น่อนน่อนถามเขา
“วันนี้มาเลือกชุดเจ้าสาว” เฉินถิงเซียวเปลี่ยนหัวข้อสนทนา เอ่ยจบแล้วก็ไปดูชุดเจ้าสาว
เมื่อเห็นเฉินถิงเซียวไปดูชุดเจ้าสาว ผู้จัดการร้านก็รีบตามเข้าไป แนะนำเนื้อผ้าและจุดเด่นของชุดเจ้าสาวเหล่านี้ รวมไปถึงถูกออกแบบโดยนักออกแบบคนใดให้เขาฟัง
“นี่คือนักออกแบบที่โรแมนติกมากที่สุดของฝรั่งเศส....”
“เซตนี้แสดงถึงความเป็นนิรันดร์....”
“.....คุณชายเฉินสายตาเฉียบคมจริงๆ นี่คือชุดที่เลอค่าที่สุดในร้านของพวกเราค่ะ”
เฉินถิงเซียวไปดูชุดเจ้าสาวแล้ว มู่น่อนน่อนก็ทำได้เพียงแค่เดินตามไป
ทั้งสองคนเดินไปรอบหนึ่งแล้วก็ลงมานั่งพักผ่อนที่โซฟา
เจ้าของร้านให้คนยกเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ และเอ่ยถามด้วยท่าทางใจจดใจจ่อ “คุณชายเฉิน คุณหญิงน้อย มีชุดเจ้าสาวที่ถูกใจไหมคะ”
เฉินถิงเซียวไม่พูดอะไร เพียงแค่เงยหน้ามองไปทางมู่น่อนน่อน
ร้านชุดเจ้าสาวร้านนี้เป็นร้านชุดเจ้าสาวชั้นสูงที่สุดร้านหนึ่งที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทเฉินซื่อ
ชุดเจ้าสาวในร้าน แทบจะถูกผลิตจากผู้ที่มีฝีมือยอดเยี่ยม นักออกแบบทั้งในและต่างประเทศล้วนมีหมด
มู่น่อนน่อนดูจนตาลาย รู้สึกว่าทุกชุดล้วนสวยมาก ดังนั้นจึงอยากจะถามความเห็นเฉินถิงเซียวสักหน่อย
เธอเอามือเท้าคาง หันไปมองเฉินถิงเซียว “คุณคิดว่ายังไง”
ในฐานะที่เฉินถิงเซียวเป็นผู้ชายสวมชุดสูทที่ตรงไปตรงมาเป็นเวลานานหลายปี ในฐานะที่เป็นจระเข้ยักษ์ในวงการธุรกิจ ความรู้สึกเกี่ยวกับแฟชั่นและสุนทรียภาพในเรื่องเครื่องแต่งกายนั้นสามารถกล่าวได้ว่าไม่มี
สำหรับเขา ไม่ว่ามู่น่อนน่อนจะใส่ชุดไหน ในสายตาเขาล้วนเหมือนกัน ตอนที่ไม่สวมนั้นสวยที่สุด
แต่เขาก็รู้ว่าขั้นตอนการแต่งงานปกติ ผู้หญิงจะต้องสวมชุดเจ้าสาว ดังนั้นจึงมอบให้สือเย่ไปจัดการเรื่องพวกนี้
ส่วนก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี ตอนที่มู่น่อนน่อนแต่งให้เขา นั่นไม่นับว่าเป็นการแต่งงาน
ครั้งนี้ เขาเตรียมจัดงานยิ่งใหญ่งานหนึ่ง
ส่วนคำถามนี้ของมู่น่อนน่อนทำให้เขาหนักใจมาก
มู่น่อนน่อนยังคงรอคำตอบของเขา นัยน์ตาแมวคู่นั้นมองมาทางเขาโดยไม่กระพริบ ยั่วยวนคนเป็นอย่างมาก
เขากระแอมไอเสียงเบา น้ำเสียงเจือไปด้วยแววปรึกษาหารืออยู่หลายส่วน “ไม่อย่างนั้น ล้วนลองดูสักหน่อย”
“ลองหมด?” มู่น่อนน่อนหันไปมองครู่หนึ่ง ชุดเจ้าสาวมากขนาดนี้ เธอต้องลองไปถึงปีไหนเดือนไหนกัน
“ลองสักหน่อย แล้วก็เลือกชุดที่ชอบมากที่สุดชุดหนึ่ง” เฉินถิงเซียวเอ่ยจบแล้วก็เสริมต่ออีกประโยค “ถ้าหากว่าไม่เจอชุดที่ชอบ พวกเราก็ไปดูกันที่ต่างประเทศ”
มู่น่อนน่อนหัวเราะไม่ได้ ร้องไห้ไม่ออก “ทำไมคุณไม่ไปลองดูให้หมดบ้าง”
“ผมไม่ต้องลอง ผมสามารถอยู่เป็นเพื่อนคุณได้” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวจริงจังมาก
มู่น่อนน่อนก็ไม่ค่อยเก็บเอาคำพูดของเฉินถิงเซียวมาใส่ใจ เลือกออกมาหลายชุดแล้วให้พนักงานร้านนำมาให้เธอลอง
เธอลองชุดเจ้าสาวไปได้ไม่กี่ชุด ช่วงบ่ายก็ผ่านไปแล้ว
ส่วนทุกชุดที่เธอลองออกมา ถามว่าเฉินถิงเซียวเป็นอย่างไรบ้าง ปฏิกิริยาของเฉินถิงเซียวล้วนเป็นการพยักหน้าเพียงอย่างเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...