ตอนที่54 เธอเลิกงานแล้วเดี๋ยวฉันไปรับ
หลังจากมาถึงแผนกการตลาด มู่หวั่นขีก็พามู่น่อนน่อนไปที่ห้องผู้จัดการ
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเป็นผู้ชายหัวล้านวัยกลางคน พอเห็นมู่หวั่นขีก็ยิ้มจนตาหยี ดูประจบประแจงมาก
“คุณหญิงที่สอง มาที่นี่มีธุระอะไรรึเปล่าครับ?”
มู่หวั่นขีกอดอก แล้วก็เชิดคางแล้วชี้ไปทางมู่น่อนน่อน “นี่จะเป็นพนักงานวิเคราะห์ตลาดใหม่ของแผนกคุณ ฝากดูแลเธอด้วยนะ”
ถึงปากจะบอกว่าให้ฝากดูแลเธอด้วย แต่ว่าการกระทำของมู่หวั่นขีนั้นดูห่างเหินกับมู่น่อนน่อนมาก
ผู้จัดการฝ่ายการตลาดเหมือนว่าจะเริ่มจับจุดได้แล้ว “ผมจะ “ดูแล”เธอให้ดีเลยครับ”
“ฉันไว้ใจคุณอยู่แล้ว” มู่หวั่นขีพูดจบ ก็หันไปเหลือบมองมู่น่อนน่อน แล้วก็เดินออกไป
คำพูดของ มู่หวั่นขี ทำให้ผู้จัดการรู้ว่า คำว่า “ดูแล”ที่มู่หวั่นขีพูดนั้น หมายถึงอะไร
“คุณผู้หญิงที่สองเดินดีๆนะครับ!” ผู้จัดการยิ้มจนตาหยีเดินไปส่งมู่หวั่นขี หลังจากนั้นก็หันหน้ากลับมา แล้วก็มองหน้ามู่น่อนน่อนด้วยท่าทางจริงจัง “ชื่ออะไร”
“มู่น่อนน่อน。”
หลังจากกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเอง ก็เริ่มที่จะพิจารณามู่น่อนน่อน
การวิเคราะห์ในครั้งนี้ ดวงตาของเขาเอาแต่มองเรือนร่างของเธอไม่ขยับไปไหน? “นามสกุลมู่? เธอเป็นอะไรกับผู้อำนวยการ?”
มู่น่อนน่อนรู้สึกรังเกียจสายตาของเขา ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เกี่ยวข้องกันนิดหน่อย”
ผู้จัดการคนนี้แค่ดูก็รู้แล้วว่าเป็นคนทำงานไม่เป็นโล้เป็นพายแต่ว่าเลียแข้งเลียขาเก่ง ไม่แปลกใจที่ทำงานอยู่ที่นี่โดยที่ไม่ได้เลื่อนตำแหน่งอะไรเลยหลายปี
เกี่ยวข้องนิดหน่อย หมายความว่าไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่
ผู้จัดการที่เข้าใจไปว่าตัวเองรู้เหตุการณ์แล้วก็ยิ้มออกมา “อืม ถ้ายังงั้นก็ตั้งใจทำ ฉันจะไม่ลำเอียงให้เธอหรอกนะ”
เขาจงใจเน้นคำว่า “ทำ” มู่น่อนน่อนได้ยินแล้วรู้สึกคลื่นไส้
แต่ว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็ถูกพาตัวไปที่ห้องทำงานเล็กๆ
หลังจากแนะนำตัวง่ายๆเรียบร้อยแล้ว มู่น่อนน่อนก็นั่งลง แล้วก็รู้สึกได้ว่าเพื่อนร่วมงานรอบๆต่างมองหน้าเธอ
เพื่อนร่วมงานคนใหม่ที่สวยขนาดนี้ คุณหญิงที่สองเป็นคนพาเข้ามาเอง พวกเขาก็ต้องสงสัยอยู่แล้ว
แต่ว่ามู่น่อนน่อนไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เธอเองก็ไม่มีอะไรที่ต้องเก็บกวาด หลังจากนั่งลงก็ถ่ายรูปให้เสิ่นเหลียงดู
มู่น่อนน่อน:ฉันเริ่มทำงานที่บริษัทมู่ซื่อแล้วนะ
เสิ่นเหลียง:ตำแหน่งอะไร? รองประธานหรอ?
มู่น่อนน่อน:ฝ่ายวิจัยตลาด
เสิ่นเหลียง:[รูปเครื่องหมาย?สีดำ] เธอมาทำตำแหน่งผู้ช่วยฉันยังจะดีสะกว่าอีก ฉันจะให้เงินเดือนเธอ550,000หยวนต่อปี
คิก——
มู่น่อนน่อนเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา ใครจะไปเป็นผู้ช่วยคนอย่างเสิ่นเหลียงกัน
มีเพื่อนร่วมงานเข้ามาเรียกเธอ “มู่น่อนน่อน ผู้จัดการเรียกให้เธอไปห้องเขา เขามีเรื่องจะคุยกับเธอ”
มู่น่อนน่อนยิ้มแล้วตอบว่า “โอเค เข้าใจแล้ว ขอบคุณมากนะ”
เพื่อนร่วมงานคนนั้นเหมือนมีอะไรจะพูดต่อ แต่ว่าก็ได้แต่ส่งสายตาให้เธอแทน
มู่น่อนน่อนก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ผู้จัดการคนนั้นแค่ดูแวบเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ได้เรื่อง
ยิ่งไปกว่านั้น เธอได้เตรียมตัวมาตั้งแต่แรกแล้ว
……
มู่น่อนน่อนเคาะประตูห้องทำงานของผู้จัดการ
“น่อนน่อน เข้ามาสิ เมื่อกี้ฉันพึ่งทำเอกสารออกมา เดี๋ยวเธอเอาไปดู”
พึ่งเริ่มต้นก็เรียกเธอด้วยชื่อที่สนิทกันขนาดนี้แล้วหรอ?
“ขอบคุณค่ะผู้จัดการ” มู่น่อนน่อนยื่นมือไปรับเอกสาร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...