ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 55

ตอนที่55 นึกว่าพวกเราตระกูลเฉินไม่มีคนอื่น

ก่อนหน้านี้มู่หวั่นขีกับเซียวชู่เหอเข้าใจผิดคิดว่าเธอกับ“เฉินเจียฉิน”เป็นชู้กัน ถ้าเกิดว่าตอนนี้เธอเห็นว่า“เฉินเจียฉิน”มารับเธอล่ะก็ มันจะ….

มู่น่อนน่อนรู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

หลังจากออกมาจากลิฟต์ มู่หวั่นขีออกมาก่อน มู่น่อนน่อนอยู่ด้านหลัง แล้วก็โทรหา“เฉินเจียฉิน”

เขารับสายเร็วมาก ไม่รอให้มู่น่อนน่อนพูดอะไร เขาก็ถามออกมาก่อนว่า “เธอไม่อยากเลี้ยงข้าวฉัน ก็เลยไปซ่อนงั้นหรอ?”

มู่น่อนน่อน:“……”เหมือนหมาเห่า

เดี๋ยวก่อนนะ...

“ตอนนี้นายอยู่ไหนเนี่ย?” มู่น่อนน่อนสงสัย เขาต้องมาถึงบริษัทมู่ซื่อแล้วแน่ๆ ไม่ยังงั้นเขาจะพูดได้ยังไงว่าเธอซ่อนอยู่!”

เฉินถิงเซียวเงยหน้ามองประตูทางเข้าของบริษัทมู่ซื่อ “ประตูทางเข้าบริษัทมู่ซื่อ ถ้าเกิดว่าไม่ได้ซ่อนอยู่ก็รีบออกมาได้แล้ว เดี๋ยวไปช้าจะไม่มีที่นั่ง

หลังจากตอบออกมาอย่างรัดกุม เขาก็ตัดสายไป

มู่น่อนน่อนโทรไปอีกครั้ง แต่ว่าเขาก็ตัดสาย

เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเดินออกไป หวังว่ามู่หวั่นขีกับเสิ่นชูหานจะออกไปแล้ว

ถ้าเกิดว่ามู่หวั่นขีเห็นว่า“เฉินเจียฉิน”มารับเธอ ไม่แน่ว่าเธอจะเอาไปประกาศอีกว่าเธอไปเป็นชู้กับลูกพี่ลูกน้องของสามีอีก

ถึงแม้ว่าช่วงนี้เฉินถิงเซียวจะอ่อนโยนกับเธอมากกว่าเดิม แต่ว่าเขากับ“เฉินเจียฉิน”ความสัมพันธ์มันแน่นแฟ้นกว่าอยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าเธอกับ“เฉินเจียฉิน”เป็นข่าวด้วยกัน ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เฉินถิงเซียวไม่มีวันยืนอยู่ข้างเธอแน่ๆ

แต่ว่าน่าเสียดาย ฟ้าไม่เป็นใจ ตอนที่เธอเดินออกมานั้น เสิ่นชูหานกับมู่หวั่นขียังไม่ไป

เสิ่นชูหานจอดรถอยู่ตรงหน้าประตู มู่หวั่นขีก็เปิดกระจกออกมา แล้วก็เรียกเธอ “น่อนน่อน ขึ้นรถสิ ฉันจะพาเธอไปกินข้าว”

มู่น่อนน่อนจะมองไม่ออกได้ยังไง ว่ามู่หวั่นขีต้องการจะโชว์เธอว่าเธอดีกับเสิ่นชูหานแล้ว

มู่น่อนน่อนยิ้มน้อยๆ “ไม่ต้องหรอก พวกเธอไปกันเถอะ พวกเราไม่ได้ไปทางเดียวกันซะด้วย”

เสิ่นชูหานกลับเปิดประตูรถแล้วลงมา แล้วก็มองมาทางมู่น่อนน่อน “น่อนน่อน เธออย่า…”

ทันทีที่เขาเห็นรูปลักษณ์ของมู่น่อนน่อนในตอนนี้ เสียงของเขาก็หายไป ดวงตาเปล่งประกายความตะลึง จนถึงตอนที่มู่หวั่นขีเรียกเขาอย่างไม่พอใจว่า “ชูหาน” เขาถึงได้สติกลับมา หลังจากนั้นก็พูดต่อว่า “อย่าเกรงใจเลย เดี๋ยวฉันไปส่งเธอกลับเอง”

ก่อนหน้านี้บอกว่าจะพาเธอไปด้วยกัน แต่ว่าตอนนี้บอกว่าจะไปส่งเธองั้นหรอ?

มู่น่อนน่อนยิ้มมุมปาก ตอนที่กำลังจะอ้าปากพูดนั้น ก็ได้ยินเสียงปิดประตูรถดัง “ปัง”

เธอหันไปมอง ก็เห็น“เฉินเจียฉิน”รูปร่างที่สูงโปร่งเดินเข้ามาหาเธอ

ตอนนั้นเองเสิ่นชูหานกับมู่หวั่นขีถึงได้รู้ว่า มีรถเบนท์ลีย์สีดำคันหนึ่งจอดอยู่ข้างพวกเขามาโดยตลอด

ผู้ชายทุกคนก็ต่างชอบรถกันทั้งนั้น รูปลักษณ์ของรถเบนท์ลีย์นั้นช่างดูเรียบหรูและสวยงาม เสิ่นชูหานหันไปมองอย่างอดไม่ได้ พอเห็น เขาก็เห็นว่ามันคือBentley Elegant 728 ที่หยุดขายไปเมื่อกลายปีก่อน มันเป็นงานออกแบบสำหรับเฉพาะคนเท่านั้น

สำหรับราคานั้น ก็ต้อง50ล้านขึ้นไปอยู่แล้ว เพราะว่ารูปร่างมันสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการของเจ้าของ การออกแบบแต่ละอย่างทำให้ราคาของมันไม่เหมือนกัน ถ้าดูด้วยสายตาอย่างมืออาชีพนั้น รถคันนี้ไม่น่าต่ำกว่าร้อยล้านด้วยซ้ำ

พวกเศรษฐีในเซี่ยงไฮ้นี้ เสิ่นชูหานก็เกือบจะรู้จักแทบทุกคน แต่ว่าพอเห็นผู้ชายที่เดินเข้าไปหามู่น่อนน่อนในตอนนี้ เขากลับไม่รู้จักเลย

เฉินถิงเซียวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ามู่น่อนน่อน แล้วก็หรี่ตามองหน้าเธอ หลังจากนั้นก็หันไปมองเสิ่นชูหาน แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงไม่แยแส แต่ว่าทรงพลังมาก “คุณคนนี้คิดว่าตระกูลเฉินของพวกเราไม่มีคนอย่างงั้นหรอครับ? ก็เลยต้องให้คนอื่นไปส่งคุณผู้หญิงของตระกูลเฉินกลับบ้าน?”

เสิ่นชูหานอึ้งไป ที่แท้ผู้ชายคนนี้ก็คือคนของตระกูลเฉินหรอเนี่ย?

แต่ว่าได้ยินมาว่าเฉินถิงเซียวเป็นคนพิการไปแล้วไม่ใช่หรอ? แล้วผู้ชายที่หล่อเหลาที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้คือใครกัน?

มู่หวั่นขีที่อยู่ด้านข้างก็เตือนเขาว่า “นี่คือลูกพี่ลูกน้องของเฉินถิงเซียว เฉินเจียฉิน”

พอเสิ่นชูหานได้ยินดังนั้น ก็หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “เธอรู้จักเขาได้ยังไง?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม