มู่น่อนน่อนเดินตามหลัง จ้องมองลี่จิ่วชังยกกระเป๋าเดินทางของเธอลงบันไดอย่างสบายๆ แววตาอดไม่ได้ที่จะพิจารณา
เรื่องที่ช่วยเธอถือกระเป๋าเดินทาง ถ้าเป็นลี่จิ่วเชียนทำ ก็คงไม่รู้สึกอะไร
แต่ในตอนนี้ คนที่ช่วยเธอถือกระเป๋าเดินทางคือลี่จิ่วชังซึ่งเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเล็กน้อย
ลี่จิ่วชังวางกระเป๋าเดินทางของเธอลง เมื่อหันศีรษะ ก็เห็นมู่น่อนน่อนจ้องมาที่เขาอย่างไม่กะพริบ
แววตาของเขาเป็นประกายเล็กน้อย แต่ในไม่นานเขาก็สงบลง "ไปเถอะ"
มู่น่อนน่อนในใจรู้สึกแปลกประหลาดมาก
ลี่จิ่วชังเห็นเธอนิ่งเฉย จึงพูดว่า "ทำไม ไม่อยากไปแล้วเหรอ?"
มู่น่อนน่อนเดินเข้าไป เอื้อมมือไปจับกระเป๋าเดินทาง สักพัก พูดออกมาสองคำ "ขอบคุณ"
สีหน้าของลี่จิ่วชังยังคงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
มู่น่อนน่อนก็ไม่พูดอะไรอีก ลากกระเป๋าเดินทางแล้วเดินออกไป
เธอวางกระเป๋าไว้ที่แถวหลังทันที แล้วนั่งข้างหน้าตรงที่ขับรถ
เมื่อสตาร์ทรถ เธอมองออกไปนอกหน้าต่างอีกครั้ง
ทุกอย่างที่เห็นเหมือนกับวันแรกที่เธอมาไม่มีผิด
เธอมีลางสังหรณ์ ว่าเรื่องนี้จะไม่จบลงสบายๆง่ายๆแน่
รถเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เธอยังไม่ทันไปไกล ก็เห็นรถสีดำกำลังมุ่งมาจากด้านหน้า
มู่น่อนน่อนเหลือบมองอย่างไม่ตั้งใจ มองไปทางรถคันนั้นจากกระจกด้านหลังอย่างไม่รู้ตัว เธอเห็นรถสีดำจอดอยู่ที่ประตูบ้านพักตากอากาศของลี่จิ่วชัง
จากนั้นคนขับก็ลงจากรถเปิดประตูเบาะหลังแล้วลงจากรถพร้อมกับชายสูงอายุสวมหมวกสุภาพบุรุษ
ชายชราสวมเสื้อคลุมขนสัตว์สีดำและผ้าพันคอหนา ดังนั้นเขาจึงมองเห็นไม่ชัดเจน
ทันใดนั้นชายชราก็มองมาทางนี้
มู่น่อนน่อนรีบละสายตาทันที ต่อมา นางเสียใจอีกครั้ง ทำไมเธอไม่มองให้มากกว่านี้ ขอเพียงเธอได้มองมากกว่านี้ เธอก็จะสามารถมองเห็นใบหน้าของชายชราได้ชัดเจน
ชายชราคนนั้นอาจเป็นพ่อบุญธรรมของลี่จิ่วชังกับลี่จิ่วเชียน
แต่เธอกลับรู้สึกสนใจพ่อบุญธรรมคนนี้เล็กน้อย
ผู้ที่สามารถเลี้ยงดูลูกบุญธรรมทั้งคู่ออกมายอดเยี่ยมอย่างลี่จิ่วเชียนกับลี่จิ่วชังได้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน
แต่ทุกวันนี้ ทุกเรื่องวุ่นวายโกลาหล มู่น่อนน่อนช่วงเวลานี้ก็ได้แต่ต้องกลับไปที่เมืองหู้หยางก่อน
...
มู่น่อนน่อนขับรถไปสนามบิน
เธอลองดูทางอินเทอร์เน็ต ถึงกับยังมีตั๋วจริงๆ อาจเป็นเพราะว่าช่วงนี้เป็นการเดินทางนอกฤดูกาล
เธอตรวจสอบเวลา และเลือกตั๋วเครื่องบินไฟล์ที่เร็วที่สุด
ตั๋วซื้อเรียบร้อยแล้ว แต่ยังห่างจากเวลาออกเดินทางอีกนาน มู่น่อนน่อนจึงหาร้านกาแฟ นั่งอ่านนิตยสารอย่างเบื่อหน่าย
เปิดนิตยสารได้แค่สองสามหน้า ก็รู้สึกได้ว่ามีคนกำลังมองเธออยู่
เธอเงยหน้าหันมองไปมาอย่างระแวดระวัง
ในร้านกาแฟมีผู้คนมากมาย แต่พวกเขาก็ลดเสียงพูดคุยอย่างรู้ตัว มองไปแล้วดูเหมือนทุกคนส่วนใหญ่ก็ปกติ
ทันใดนั้น เธอหันไปมองข้างหลัง และเห็นด้านหลังศีรษะของผู้ชายคนหนึ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...