สรุปตอน บทที่ 561 ลุกคนเดียวไหวไหม? – จากเรื่อง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)
ตอน บทที่ 561 ลุกคนเดียวไหวไหม? ของนิยายโรแมนซ์เรื่องดัง ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดยนักเขียน Meow(○` 3′○) เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
มู่หวั่นขีต้องไม่พอใจอยู่แล้ว
เซียวชู่เหอกับมู่น่อนน่อนเป็นแค่คนรับใช้ของเธอเท่านั้น แนวคิดนี้ฝังอยู่ในหัวเธอมาตั้งแต่เด็กแล้ว จนกระทั่งตอนนี้ ในใจเธอก็ยังคิดเช่นนี้เหมือนเดิม
ในสายตาของเธอ มู่น่อนน่อนต้องสยบแทบเท้าเธอเป็นคนที่คอยรับใช้เธอโดยไร้ข้อแม้ใดๆ
แต่ว่า มู่น่อนน่อนที่ควรรับใช้เธอโดยไร้ข้อแม้ใดๆ กลับทำให้เฉิงหยู้ของเธอต้องตายไป!
กว่าเธอจะได้อยู่กับซือเฉิงหยู้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เขากลับถูกมู่น่อนน่อนนังบ้านั่นกับเฉินถิงเซียวฆ่าตาย!
มู่หวั่นขีกัดริมฝีปากแน่น เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปตรงหน้ามู่น่อนน่อน เงื้อมือขึ้นตบหน้าของมู่น่อนน่อนอย่างแรง: “มู่น่อนน่อน สองวันนี้ เป็นวันที่ฉันมีความสุขที่สุดในสามปีนี้ เธอรู้ไหมว่าทำไม?”
มู่หวั่นขีตบแรงมาก จนใบหน้าครึ่งซีกของมู่น่อนน่อนชาไปเลย มู่น่อนน่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ ผ่านไปสักพักก็ถึงรู้สึกดีขึ้น
เธอหันหน้าไปมองใบหน้าที่กำลังโมโหจัดของมู่หวั่นขี แล้วก็หัวเราะออกมา: “ถึงเธอจะมีความสุขแค่ไหน ซือเฉิงหยู้ก็ไม่มีทางฟื้นคืนชีพได้หรอกนะ”
มู่น่อนน่อนตั้งใจพูดกระตุ้นเธอ
และมู่หวั่นขีก็ถูกคำพูดของมู่น่อนน่อนกระตุ้นอีกครั้งอย่างง่ายดาย
เธอยื่นมือไปกระชากเสื้อของมู่น่อนน่อนไว้แน่น: “มู่น่อนน่อน อย่าคิดว่ามีชีวิตสุขสบายแค่ไม่กี่วัน ก็คิดว่าจะสบายไปตลอดชีวิตนะ อย่าทำเป็นใจเย็นหน่อยเลย เพราะเดี๋ยวเธอจะใจเย็นไม่ลงแล้วยังไงล่ะ”
มู่น่อนน่อนเลิกคิ้วขึ้น ทำเป็นไม่สนใจคำพูดของเธอ: “งั้นเหรอ?”
เธอไม่ได้ไม่ใส่ใจกับคำพูดของมู่หวั่นขีเลย แต่เพราะเธออยากจะรู้จริงๆว่ามู่หวั่นขีพยายามจะทำอะไรกันแน่ ถึงได้ใช้วิธีการกระตุ้นเธอแบบนี้ ให้หวั่นขีพูดออกมาเอง
แต่ว่า ครั้งนี้มู่หวั่นขีกลับอดทนไว้ได้ จากเมื่อวานจนถึงวันนี้ มู่น่อนน่อนได้โอกาสก็รีบกระตุ้นมู่หวั่นขีทันที แต่มู่หวั่นขีกลับไม่พูดอะไรเลย
นี่ทำให้มู่น่อนน่อนรู้สึกแปลกใจ ขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกไม่สบายใจไปด้วย
เธอสงสัยว่า ครั้งนี้มู่หวั่นขีอาจจะมีแผนร้ายอะไรซ่อนไว้ข้างหลังก็ได้
มู่หวั่นขีแสยะยิ้มเย็นชา เธอลุกขึ้นกลับไปที่หน้าโต๊ะอาหาร แล้วโยนขนมปังไปตรงหน้ามู่น่อนน่อน จากนั้นก็พูดกับเธออย่างจองหองว่า: “หิวหรือยัง? กินสิ”
มู่น่อนน่อนหิวก็จริง แต่ก็ไม่ได้หิวจนถึงขนาดเก็บของที่ตกลงพื้นมากินหรอกนะ
“ใจแข็งดีนะ!” แววตาของมู่หวั่นขีเย็นชาขึ้น
แต่เธอกลับเกลียดท่าทางที่ไม่ว่าจะทำยังไงก็ไม่อาจจะเอาชนะมู่น่อนน่อนได้ มันขัดตาเธอมากเลยล่ะ
แต่ไม่นาน เธอก็จะทำลายมู่น่อนน่อนจากนอกสู่ใน ทำให้มู่น่อนน่อนไม่สามารถใจเย็นแบบนี้ได้อีกต่อไป
มู่น่อนน่อนนั่งลงบนพื้นไม่พูดอะไร มู่หวั่นขีขี้เกียจสนใจเธออีก จึงนั่งลงกินอาหารของตัวเอง
มู่น่อนน่อนแม้จะนั่งอยู่บนพื้นอย่างจนตรอก แต่ก็ยังคงสังเกตมู่หวั่นขีอยู่ตลอดเวลา
เทียบกับครั้งก่อนที่เจอมู่หวั่นขี ตอนนี้เธอผอมลงไปมาก อาหารก็กินน้อยลงด้วย ขนมปังแค่ชิ้นเดียวก็กินช้ามากเลย นมก็ดื่มแค่ครึ่งแก้วอีก
แม้จะแต่งหน้าจัด ก็ดูออกว่าตอนนี้สีหน้ามู่หวั่นขีโทรมมาก
ตอนครั้งก่อนที่เจอมู่หวั่นขี มู่น่อนน่อนเห็นว่ามู่หวั่นขีมีอาการป่วยทางจิต เป็นคนอารมณ์เสียและรุนแรงง่ายมาก แถมยังกินยาอยู่ด้วย
มู่น่อนน่อนมองมู่หวั่นขีทั้งตัวเงียบๆ จนกระทั่งมู่หวั่นขีกินเสร็จแล้วลุกเดินออกไป
มู่หวั่นขีพาคนออกไปแล้ว แต่ไม่ได้พามู่น่อนน่อนไปด้วย ข้างๆเหลือแค่บอดี้การ์ดเฝ้าอยู่สองคน
บอดี้การ์ดก็ไม่ได้เฝ้ามู่น่อนน่อนอย่างจริงจังเท่าไหร่ สองคนนั้นกำลังยืนคุยกันอยู่ ไม่ได้เป็นห่วงเลยว่ามู่น่อนน่อนจะหนีไป
มู่น่อนน่อนรู้สึกว่า จิตของมู่หวั่นขีไม่ปกติ สองวันนี้เรื่องที่มู่หวั่นขีทำอะไร ด้วยนิสัยของมู่หวั่นขีแล้ว ไม่ถือว่าเป็นการทรมานเลย
มู่หวั่นขีพยายามข่มอารมณ์ตัวเอง ไม่ทำร้ายเธอหนักมากเกินไป
บอดี้การ์ดก็คุยกันข้างๆ มู่น่อนน่อนนั่งอยู่บนพื้นแกล้งทำท่าไม่มีแรงจนเหนื่อยจริงๆ จึงขยับตัวไปพิงเก้าอี้ข้างๆ
แกล้งทำตัวเป็นคนไม่มีแรงและไร้ประโยชน์มันเหนื่อยมากจริงๆ
ด้านหลังคนถือปืน เป็นรูปร่างของคนที่มู่น่อนน่อนคุ้นเคยดี
มู่น่อนน่อนเห็นเขาแล้วก็พึมพำว่า: “เฉินถิงเซียว”
ตรงหน้าเธอมีโต๊ะและเก้าอี้บังไว้ คนทั่วไปถ้าเดินเข้ามาในร้านก็จะไม่เห็นเธอ
เธอพูดเสียงเบามาก แต่เฉินถิงเซียวกลับเหมือนได้ยินเสียงเธอเลย เขาเดินตรงมายังที่ที่เธออยู่อย่างแม่นยำ
เฉินถิงเซียวนำคนมาเยอะมาก ด้านหลังเขายังมีสือเย่ รวมไปถึงกลุ่มบอดี้การ์ดอีกด้วย แต่ละคนมีสีหน้าเย็นชาและเข้มงวด ดูแล้วน่าจะมีประสบการณ์ที่โชกโชน
บอดี้การ์ดสองคนที่เฝ้ามู่น่อนน่อนอยู่ที่นี่ หนึ่งในนั้นถูกเฉินถิงเซียวเอาปืนจ่อหัวไว้ อีกคนเห็นแล้วก็รีบตะโกนไปว่า: “นายเป็นใคร นายกำลังบุกรุกพื้นที่ส่วนตัวนะ แถมยังเอาปืน……เอาปืนมาขู่อีก……”
เฉินถิงเซียวหันกลับไปมองเขา แล้วกระตุกยิ้มเบาๆ ต่อมาก็เตะคนคนนั้นไปแรงๆหนึ่งที
จากนั้น เขาก็ถึงเดินมาหามู่น่อนน่อน
เขาจ้องมองมู่น่อนน่อนอยู่สักพัก เขายื่นมือไปครึ่งหนึ่งแต่ก็หยุดลง จากนั้นก็ชักกลับมา
ตอนนี้เอง เขาก็ถึงพูดขึ้นช้าๆ ด้วยน้ำเสียงแหบๆว่า: “ลุกคนเดียวไหวไหม?”
มู่น่อนน่อนยื่นมือไปจับเก้าอี้ไว้ เพื่อพยุงตัวเองลุกขึ้นมา
เธอยังยืนได้ไม่นิ่งเลย ก็ถูกชายตรงหน้าอุ้มขึ้นมาก่อน
จากเมื่อวานที่เธอถูกมู่หวั่นขีจับมาจนถึงวันนี้ ในเวลาเกือบยี่สิบสี่ชั่วโมง เธอยังไม่ได้ล้างหน้าแปลงฟันอาบน้ำหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย ตอนนี้เธอดูโทรมมากกว่าปกติมาก
มู่น่อนน่อนปล่อยให้เฉินถิงเซียวอุ้มตัวเองขึ้นมาเงียบๆ จากนั้นก็ถึงผลักเขาเบาๆแล้วพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆว่า: “นายปล่อยฉันก่อนสิ ฉันไม่ได้ล้างหน้าแปลงฟันตั้งแต่เมื่อวานจนถึงตอนนี้เลยนะ”
เฉินถิงเซียวไม่ได้ปล่อยเธอลง กอดเธอไว้แล้วเงียบสักพัก ถึงพูดไปอย่างไร้อารมณ์ว่า: “เมื่อก่อนเธอขี้เหร่อย่างกับผี ฉันยังไม่รังเกียจเธอเลย”
“……” มู่น่อนน่อนเม้มปาก ทุบเขาไปทีหนึ่งอย่างงอนๆ: “นายน่ะสิผี!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...