บทที่ 565 มีเรื่องปิดบังเธอ – ตอนที่ต้องอ่านของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
ตอนนี้ของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 565 มีเรื่องปิดบังเธอ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“มู่น่อนน่อน”
เฉินถิงเซียวเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงเข้มงวด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจกับที่เธอไล่ตามเขาแบบนี้
มู่น่อนน่อนกอดคอเขาไว้ไม่ปล่อย เขาก็ขี้เกียจแกะมือนี้แล้วเหมือนกัน ก็เลยก้มลงไปจูบเธอแล้วพูดว่า: “ตอนนี้ก็กำลังทำธุระด่วนเหมือนกัน”
มู่น่อนน่อนรีบปล่อยเขาทันที แล้วผลักเขาออกไปข้างๆ จากนั้นก็ดึงผ้าห่มมาคลุมหัวตัวเอง ทิ้งเขาไว้คนเดียวด้านนอก
ตอนแรกเฉินถิงเซียวก็เริ่มมีอารมณ์แล้ว แต่มู่น่อนน่อนไม่อยากทำ เขาก็จะบังคับเธอไม่ได้
เขาถอดเสื้อแล้วนอนลงบนเตียง แล้วกอดมู่น่อนน่อนโดยมีผ้าห่มกั้นเอาไว้
แม้ในห้องจะเปิดเครื่องทำความร้อนไว้ แต่ก็ยังหนาวอยู่ดี
มู่น่อนน่อนไม่อยากให้เขาต้องทนหนาวอยู่แล้ว เธอดึงผ้าห่มออกแล้วเอามาคลุมตัวเขาไว้
เฉินถิงเซียวก็ไม่เกรงใจ ยื่นมือมาแล้วโอบมู่น่อนน่อนไว้ในอ้อมกอดทันที
ภายในห้องเงียบสงัด มู่น่อนน่อนกลับนอนไม่หลับเลย
เธออยากจะพลิกตัวสักหน่อย ก็เห็นว่าเฉินถิงเซียวกำลังโอบเอวตัวเองไว้ จนเธอขยับไปไหนไม่ได้
“นอนไม่หลับเหรอ?” เฉินถิงเซียวกระซิบถามเธอเสียงเบา
มู่น่อนน่อนไม่พูด แค่ยื่นมือไปกอดเฉินถิงเซียวไว้
“ในเมื่อนอนไม่หลับ งั้นพวกเราก็มาคิดบัญชีกันเถอะ”
“บัญชีอะไร?”
“เที่ยวสนุกในเมืองM จนลืมแล้วเหรอว่าตัวเองมายังไง?” น้ำเสียงของเฉินถิงเซียวเรียบเฉยไม่มีอะไรผิดปกติ แต่น้ำเสียงนั้นกลับมีความเยือกเย็นแปลกๆ
เขาพูดแบบนี้ มู่น่อนน่อนไม่อยากจำว่าตัวเองออกมายังไงก็คงไม่ได้แล้ว
ก่อนหน้านี้เธอแอบซื้อตั๋วเครื่องบินตอนที่เฉินถิงเซียวไม่อยู่บ้าน ตอนที่มาขึ้นเครื่องก็ถึงบอกเฉินถิงเซียวว่าตัวเองจะไปเมืองM
พอนึกถึงเรื่องนี้แล้ว มู่น่อนน่อนก็รู้สึกผิด
มู่น่อนน่อนจับมือเฉินถิงเซียวไว้แน่น กลัวว่าเขาจะโกรธจนทำอะไรตัวเอง
แต่ว่า วินาทีต่อมา เฉินถิงเซียวก็พูดว่า: “งานแต่งต้องชะลอไปอีก มู่น่อนน่อน เธอจะชดใช้ฉันยังไง?”
มู่น่อนน่อนรู้สึกผิดอยู่แล้ว ได้ยินเฉินถิงเซียวพูดแบบนี้อีก ก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองทำแบบนี้มันเกินไปจริงๆ
มู่น่อนน่อนจึงถามเขาไปตรงๆว่า: “นายอยากทำยังไงล่ะ?”
เฉินถิงเซียวเงียบสักพักแล้วพูดว่า: “เที่ยวเล่นที่เมืองMกับฉันสักพัก”
มู่น่อนน่อนได้ยินแล้วก็อึ้งเล็กน้อย เธอไม่คิดว่าเฉินถิงเซียวจะยื่นเงื่อนไขที่ง่ายขนาดนี้ออกมา
เห็นมู่น่อนน่อนยังไม่ตอบสักที เฉินถิงเซียวก็โอบเอวเธอแน่นกว่าเดิม น้ำเสียงก็เต็มไปด้วยคำข่มขู่: “ทำไม? ไม่ตกลงเหรอ?”
“ตกลงสิ” แม้เธอจะคิดถึงเฉินมู่มาก แต่ตอนนี้ปลอบเฉินถิงเซียวให้เขาหายโกรธก่อนดีกว่า
……
มู่น่อนน่อนตกลงว่าจะเที่ยวเล่นที่เมืองMกับเฉินถิงเซียวสักพัก เฉินถิงเซียวให้เวลาเธอพักผ่อนฟื้นฟูร่างกายสองวัน เวลาหลังจากนั้นก็จะพาเธอไปเที่ยวเล่นรอบเมือง
และในช่วงนี้ เธอก็ออกไปกับเฉินถิงเซียวตั้งแต่เช้า จนกระทั่งตอนเย็นถึงจะกลับมา
พวกเขาออกไปเที่ยวเล่น ไม่เพียงแต่ไม่เอาบอดี้การ์ดไปด้วย ขนาดสือเย่ยังไม่เอาไปด้วยเลย
และสือเย่ก็ดูจะยุ่งมากเหมือนกัน พวกเขาออกไปเที่ยวกินข้าวจนดึกแล้วกลับมา ก็ยังไม่เห็นสือเย่กลับมาเลย
เวลานานเข้า มู่น่อนน่อนก็เริ่มสงสัย
วันนี้ ตอนที่เธอกินข้าวเช้ากับเฉินถิงเซียว ก็ถามเขาลอยๆว่า: “ช่วงนี้สือเย่ยุ่งอะไรอยู่เหรอ? ออกเช้ากลับเย็นทุกวันเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเชื่อในตัวของเขา ฉันคงคิดว่าเขาแอบมีผู้หญิงข้างนอกแล้วล่ะ”
คำพูดด้านหลังเธอแค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าสือเย่จะกลับมาพอดีแล้วได้ยินสิ่งที่เธอพูดทั้งหมด
สือเย่อาจจะอ้างออกไปซื้อเครื่องสำอางให้ภรรยาตัวเอง แล้วกำลังช่วยเฉินถิงเซียวทำอะไรสักอย่างอยู่ แล้วเฉินถิงเซียวก็พาเธอออกไปเที่ยวเล่นทุกวัน อาจจะไม่อยากให้เธอรู้ว่าสือเย่กำลังทำอะไร
สองคนนั้นต้องมีเรื่องปิดบังเธอแน่ๆ และนั่นอาจจะเป็นเรื่องใหญ่ก็ได้
เฉินถิงเซียวจะปิดบังเธอ นั่นก็หมายความว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดี
เฉินถิงเซียวไม่พูด เธอก็จะถามตรงๆไม่ได้ แล้วถ้าเธอถามออกไปตามตรง ก็จะทำให้เฉินถิงเซียวระวังตัวมากขึ้น แล้วหาข้ออ้างอื่นๆมาปกปิดเธออีก
ความฉลาดของมู่น่อนน่อน ไม่สามารถปกปิดเฉินถิงเซียวได้หรอก
เธอนึกถึงวันนั้นขึ้นมากะทันหัน เธอเดินตามหลังเฉินถิงเซียว ได้ยินเขากับสือเย่พูดคุยกันด้วยสีหน้าที่ลำบากใจ จากนั้นก็ลงไปในห้องใต้ดินไปเจอมู่หวั่นขี
หลายวันมานี้ เธอไม่เคยถามเรื่องมู่หวั่นขีเลย เพราะเฉินถิงเซียวบอกแล้วว่าเขาจะจัดการเรื่องนี้เอง
ครั้งนี้เธอตกอยู่ในเงื้อมมือของมู่หวั่นขี เฉินถิงเซียวมาช่วยเธอไว้ เธอก็จะไม่มีสิทธิ์ถามเรื่องมู่หวั่นขีงั้นเหรอ?
แต่ตอนนี้ดูแล้ว เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับมู่หวั่นขีแน่
มู่น่อนน่อนเรียบเรียงเรื่องนี้ในใจ จากนั้นก็รอโอกาสอย่างสบายใจ
……
เช้าวันต่อมา
ก็เหมือนกับวันก่อนๆ เฉินถิงเซียวคิดจะพามู่น่อนน่อนออกไปเที่ยวเล่นแต่เช้า
รอออกจากคฤหาสน์แล้วขึ้นรถไป มู่น่อนน่อนก็ค้นของในกระเป๋าตัวเอง ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “ฉันลืมเอาลิปมันมาด้วยน่ะ”
เธอค้นหาของในกระเป๋าอยู่นานมาก แล้วพูดกับเฉินถิงเซียวว่า: “นายรอฉันก่อนนะ ฉันกลับไปเอาลิปมันก่อน”
เฉินถิงเซียวไม่สงสัยอะไรเลย: “ไปเถอะ”
มู่น่อนน่อนอมยิ้มแล้วพูดว่า: “เดี๋ยวฉันกลับมานะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...