ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 567

เฉินถิงเซียวชะงัก แต่ก็ยังไม่ทำให้เขาหายโกรธ

เขาจ้องหน้ามู่น่อนน่อนอยู่นาน สายตาที่แหลมคมของเขาเหมือนมองทะลุจิตใจของเธอได้: “เมื่อกี้ตอนที่เธอลงมาที่ชั้นใต้ดิน เธอคิดจะทำอะไร? เธอจะบีบคอมู่หวั่นขีตายงั้นเหรอ?”

มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นกะทันหัน เธอเบิกตาโพลงมองเฉินถิงเซียว

มือที่แนบอยู่ข้างกายก็กำหมัดอย่างไม่รู้ตัว เมื่อกี้เธออยากจะฆ่ามู่หวั่นขีให้ตายจริงๆ……

เธอเกลียดมู่หวั่นขี เกลียดที่มู่หวั่นขีร่วมมือกับคนอื่นลักพาตัวเฉินมู่ไป

ตั้งแต่เล็กจนโต มู่หวั่นขีก็หาเรื่องกลั่นแกล้งเธอสารพัด เธอแค่อยากแก้แค้นกับสิ่งที่มู่หวั่นขีทำกับตัวเองก็เท่านั้น ไม่ถึงขั้นเกลียดหรอก

เพราะยังไง เธอก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับพี่สาวที่พ่อเดียวกันคนละแม่อย่างมู่หวั่นขีหรอก

ไม่ได้คาดหวัง ก็ต้องไม่โกรธอยู่แล้ว

แต่ว่า มู่หวั่นขีกลับร่วมมือกับคนอื่นแล้วจับตัวเฉินมู่ไป

เพราะเรื่องตอนเด็กของเฉินมู่ มู่น่อนน่อนรู้สึกผิดต่อลูกสาวมาตลอด ตอนนี้เฉินมู่ต้องถูกลักพาตัวไปเพราะความแค้นระหว่างผู้ใหญ่ นี่ทำให้มู่น่อนน่อนรู้สึกรับไม่ได้อย่างมาก

มู่น่อนน่อนไม่ได้พูดอะไร เฉินถิงเซียวก็ไม่ได้พูดอะไรด้วย เขารอเธอพูดก่อน

มู่น่อนน่อนสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามข่มอารมณ์ไว้ แล้วถามเฉินถิงเซียวอย่างใจเย็นว่า: “มู่มู่ถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ตอนไหน?”

เฉินถิงเซียวขมวดคิ้ว เงียบสักพัก ถึงจะตอบเธอว่า: “ช่วงที่ฉันมาถึงเมืองMน่ะ”

มู่น่อนน่อนได้ยินแล้วก็กัดริมฝีปากหัวเราะออกมาอย่างประชด

“มู่มู่ถูกลักพาตัวไปนานขนาดนี้เลยเหรอ?” มู่น่อนน่อนส่ายหน้า จ้องเฉินถิงเซียวด้วยแววตาที่เย็นชา: “นายเพิ่งไป พวกนั้นก็มาลักพาตัวมู่มู่ไปเลยเหรอ?”

คำพูดสุดท้ายของมู่น่อนน่อน เป็นเหมือนการแทงใจดำเฉินถิงเซียวมาก

แม้เธอจะไม่พูดตรงๆ แต่น้ำเสียงนั้นกลับเต็มไปด้วยการกล่าวโทษเฉินถิงเซียว โทษที่เขาไม่ได้ปกป้องมู่มู่ดีๆ

เฉินถิงเซียวรู้ว่าเธอคิดอะไร แต่เขากลับไม่ได้พูดแก้ตัวเลยสักคำ

สำหรับเรื่องนี้เขาไม่มีอะไรจะแก้ตัว

“มู่มู่ถูกลักพาตัวไปแล้วก็ไม่บอกฉัน ให้ฉันอยู่ในกะลาอยู่ได้!” มู่น่อนน่อนเห็นว่าเขาไม่พูดก็ยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่

“เฉินถิงเซียว! เฉินมู่เป็นลูกสาวแท้ๆของนายนะ! ถ้าตอนที่นายไป สั่งคนดูแลปกป้องลูกสาวเราให้ดี คนพวกนั้นก็ไม่มีทางลักพาตัวลูกสาวเราไปได้หรอก!”

มู่น่อนน่อนนึกถึงเฉินมู่ที่ยังเป็นเด็กขนาดนั้น กลับถูกคนพวกนั้นลักพาตัวไป ใจก็เจ็บจนแทบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว

เธอตะคอกเสียงสูง น้ำเสียงเย็นชา ลมหายใจของเฉินถิงเซียวดูเศร้าโศก บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆก็ไม่กล้าเข้าไปพูดอะไร ทำได้แค่โทรศัพท์หาสือเย่ก่อน

สือเย่เพิ่งออกไปได้ไม่นาน จึงกลับมาเร็ว

ตอนที่เขากลับมา มู่น่อนน่อนกับเฉินถิงเซียวก็กลับไปรอที่ห้องโถงแล้ว

“คุณผู้ชาย ผู้หญิงน้อย” สือเย่เดินไปตรงหน้าทั้งสองคน แล้วโค้งคำนับพวกเขา

มู่น่อนน่อนเห็นเขาเข้ามา เธอก็รีบลุกขึ้นแล้วถามอย่างร้อนใจว่า: “ผู้ช่วยสือ มีข่าวหรือยัง?”

บอดี้การ์ดที่โทรหาสือเย่ ก็บอกสถานการณ์คร่าวๆกับสือเย่แล้ว สือเย่ได้ยินมู่น่อนน่อนถามแบบนี้ เขาไม่รู้สึกแปลกใจเลย

เขามองเฉินถิงเซียวก่อน ถึงตอบมู่น่อนน่อน: “คนที่ลักพาตัวมู่มู่ไปเจ้าเล่ห์มาก ช่วงนี้พวกเราติดตามพวกนั้นมาตลอด แต่พวกนั้นเร็วกว่าพวกเราทุกที”

มู่น่อนน่อนมือเท้าเย็นเฉียบขาอ่อนนั่งลงบนโซฟา ห้องโถงก็เงียบสงัด

ผ่านไปสักพัก ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนก็ลุกขึ้นมาแล้วเดินออกไปด้านนอก

เฉินถิงเซียวรีบเดินไปดึงตัวเธอไว้ก่อน: “เธอจะไปไหน?”

“ฉันจะไปหามู่หวั่นขี” มู่น่อนน่อนพูดจบก็สะบัดมือเขาออก

เธอนึกถึงคำพูดของมู่หวั่นขีเมื่อกี้ว่า ‘คนพวกนั้นจะมาหาเธอเอง’

มู่หวั่นขีไม่ได้พูดลอยๆแน่ มู่หวั่นขีรู้จักคนที่ลักพาตัวเฉินมู่ไป เธอจะต้องไปถามมู่หวั่นขีให้รู้เรื่อง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม