ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 575

สรุปบท บทที่ 575 ฝีมือของคนแช่ลี่: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

บทที่ 575 ฝีมือของคนแช่ลี่ – ตอนที่ต้องอ่านของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ตอนนี้ของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 575 ฝีมือของคนแช่ลี่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ลี่จิ่วชังกระซิบให้มู่น่อนน่อนได้ยินคนเดียว เสียงของเขาเบามาก พอสำหรับที่ทั้งสองคนได้ยิน

ตอนที่กระซิบพูดกัน ทั้งสองก็ขยับเข้าใกล้กันมาก ดูสนิทสนมกันเกินเหตุ

เฉินถิงเซียวเห็นพวกเขาสองคนใกล้กันแบบนี้ สีหน้าของเขาก็ดูแย่ลงไปอีก

มู่น่อนน่อนได้ยินคำพูดของลี่จิ่วชัง เธอก็ขยับริมฝีปาก แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรพูดอะไรดี

ตอนนี้เธอพูดอะไรก็ดูเหมือนจะไม่เหมาะสมเลย

เธอจะไม่ยอมปล่อยให้แผนการล่มจมเด็ดขาด ส่วนเฉินถิงเซียว……

ทันใดนั้นเฉินถิงเซียวก็หัวเราะ เสียงหัวเราะของเขาดูกำลังตลกตัวเอง

วินาทีต่อมา เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนเดิม: “ปล่อยพวกเขาไป!”

สือเย่ลังเลสักพัก เหมือนกำลังจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็ทำได้แค่ถอนหายใจ ไม่ได้พูดอะไรอีก

“ปล่อยคน” เขาปัดมือ ส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดปล่อยพวกเขาออกไป

บอดี้การ์ดรีบหลีกทางให้ลี่จิ่วชังกับมู่น่อนน่อน

ตอนกลางคืนในฤดูหนาวเป็นเวลาที่หนาวมากที่สุด มีลมพัดอยู่ตลอด มู่น่อนน่อนหนาวจนตัวสั่นเทา มือเท้าเย็นจนแทบจะเป็นน้ำแข็งได้แล้ว

มู่น่อนน่อนถูกลี่จิ่วชังจับตัวไปที่คฤหาสน์ข้างนอก เดินออกไปอย่างเด็ดขาด โดยไม่ได้หันหน้ากลับไปมองเลย

ทั้งสองเดินออกจากคฤหาสน์เร็วมาก

ขณะเดียวกัน ก็มีรถมาจอดอยู่ตรงหน้าพวกเขา

ประตูรถเปิดออก อาลั่วสวมชุดคลุมขนสัตว์และรองเท้าหนัง พร้อมกับทรงผมมัดหางม้าที่สุดเฟี้ยว เดินออกมาอย่างเท่ ไม่เหมือนกับครั้งแรกที่มู่น่อนน่อนเจอเลย

เธอมองไปที่ลี่จิ่วชัง แววตาเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เห็นไม่ชัดเท่าไหร่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เคารพว่า: “คุณท่าน”

ลี่จิ่วชังก็ไม่ได้พูดอะไร แค่ผลักตัวมู่น่อนน่อนให้เธอ

“คุณมู่ เจอกันอีกแล้วนะคะ” อาลั่วพูดจบ ก็คว้าแขนของเธอไว้ แล้วดันเข้าไปในรถ ต่อมาก็ตามเข้าไปในรถด้วย

อาลั่วขึ้นรถแล้วปิดประตูเสร็จ คนขับก็ขับตรงไปข้างหน้าทันที

มู่น่อนน่อนหันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่างรถ: “แล้วลี่จิ่วชังล่ะ?”

อาลั่วอธิบายกับเธออย่างใจเย็นว่า: “คุณท่านยังมีธุระอื่นต่อทำน่ะ เขายุ่งมาก”

มู่น่อนน่อนได้ยินที่เธอพูดก็อดไม่ได้มองเธออีกครั้ง

แสงไฟด้านนอกส่องเข้ามาในรถเป็นบางครั้ง ทำให้มู่น่อนน่อนเห็นใบหน้าของเธอรางๆ

อาลั่วยังคงเป็นอาลั่วคนนั้น แต่กลับไม่เหมือนกับสาวรับใช้อาลั่วที่เธอเคยเห็นเมื่อก่อน แววตาของดูเข้มแข็งและมั่นใจ ไม่อ่อนแอเหมือนสาวรับใช้อีกแล้ว

เหมือนดูออกว่ามู่น่อนน่อนคิดอะไรอยู่ อาลั่วก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ดูฉันทำไมกัน? ฉันแค่เปลี่ยนเสื้อผ้าเอง”

มู่น่อนน่อนกลับหัวเราะไม่ออก: “ลี่จิ่วชังให้เธอมารับเขาเหรอ?”

“แน่นอนอยู่แล้ว” อาลั่วพูดถึงลี่จิ่วชัง น้ำเสียงของเธอดูจะมีความสุขมากขึ้น: “คุณท่านเขาฉลาดมาก เขาเดาได้ว่า เธอจะต้องยอมเสี่ยงอันตรายมาช่วยลูกสาวแน่นอน”

ต่อมา ลี่จิ่วชังก็แสยะยิ้มเย็นชา แล้วมองไปที่ตัวของเฉินถิงเซียว: “แผลจากการถูกยิงจากสามปีก่อนคงจะหายแล้วสินะ ไม่รู้ว่าเรื่องที่แม่นายถูกลักพาตัวไปเมื่อสิบปีก่อน แถมยังฆ่าตัวตายต่อหน้านายด้วย จะยังเป็นปมในใจนายอยู่หรือเปล่า ถ้านายต้องการ ก็ถือซะว่าเห็นแก่มู่น่อนน่อน ฉันสามารถแนะนำจิตแพทย์ดีๆให้นายได้นะ”

ทุกคำพูดของเขาล้วนแล้วแต่มีนัยยะแฝงทั้งนั้น

ลี่จิ่วชังพูดจบ ก็กลับหลังหันเดินเข้ารถไป

สือเย่กำลังจะเข้าไปห้ามลี่จิ่วชัง แต่กลับถูกเฉินถิงเซียวห้ามไว้ก่อน

สือเย่พูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า: “คุณผู้ชายครับ เรื่องแผลถูกยิงเมื่อสามปีก่อน นอกจากพวกเราแล้ว ก็มีแค่คุณหญิงน้อยเท่านั้นที่รู้ คุณหญิงน้อยไม่มีทางบอกเรื่องนี้กับเขาแน่ เขารู้เรื่องนี้ได้ยังไง เห็นได้ชัดว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนั้น! ปล่อยเขาไปแบบนี้ได้ยังไงกันครับ!”

สามปีก่อน เฉินถิงเซียวเพิ่งแต่งงานกับมู่น่อนน่อนได้ไม่นาน และเป็นช่วงเวลาที่เขาอยากจะสืบเรื่องที่แม่เขาถูกลักพาตัวไปพอดี แต่กลับเจอกับพวกที่กำลังสืบเรื่องลักพาตัวอยู่เหมือนกัน ทั้งสองเกิดเหตุทะเลาะกัน เฉินถิงเซียวถูกยิงเข้า

เฉินถิงเซียวเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดูเขาจะวุ่นวายใจมาก: “ก่อนหน้านี้แค่สงสัย ตอนนี้แน่ใจได้แล้วล่ะ ตอนนั้นที่ฉันถูกยิง เป็นฝีมือพวกคนแช่ลี่ และพวกเขาก็กำลังสืบเรื่องการลักพาตัวของแม่ฉันด้วย”

เฉินถิงเซียวชะงักสักพัก แล้วพูดต่อว่า: “เรื่องในตอนนั้น นอกจากคนตระกูลเฉิน คนนอกไม่รู้ว่าแม่ฉันฆ่าตัวตาย”

“คุณผู้ชายหมายถึง……พวกเขามีส่วนเกี่ยวกับการลักพาตัวในตอนนั้นเหรอครับ?” สือเย่มองด้วยแววตาที่ไม่อยากจะเชื่อ

ตอนแรกนี่ก็เป็นเรื่องเก่าไปแล้ว ตอนที่เขาติดตามเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวก็กำลังสืบเรื่องนี้พอดี ต่อมาก็สืบไปถึงคนในครอบครัวเดียวกัน ก็คิดว่าเรื่องนี้คงจะจบแค่นี้

แต่ไม่คิดว่า ท้ายที่สุด จะมีคนรู้รายละเอียดเกี่ยวกับการลักพาตัวในครั้งนั้นด้วย

“งั้นคุณหญิงน้อย……” สือเย่เริ่มรู้สึกเป็นห่วงมู่น่อนน่อนขึ้นมา

เขารู้ว่ามู่น่อนน่อนไม่ค่อยระแวงในตัวลี่จิ่วชัง เป็นเพราะสาเหตุจากลี่จิ่วเชียน

“เธออยากอวดฉลาดเอง ก็ปล่อยเธอไปเถอะ!” แม้เฉินถิงเซียวจะพูดแบบนี้ แต่จากสีหน้าที่ตึงเครียดของเขา ก็ดูออกได้ว่าเขากำลังเป็นห่วงเธอมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม