มู่น่อนน่อนหัวเราะอีกครั้ง แล้วลูบผมเฉินมู่เบาๆ จากนั้นก็พาเธอไปล้างหน้าแปรงฟัน
รอมู่น่อนน่อนพาเฉินมู่ออกมาแล้ว ก็มีสาวรับใช้สองคนเฝ้าอยู่หน้าประตู เห็นได้ชัดว่ากำลังรอมู่น่อนน่อนและเฉินมู่ออกมา แล้วพาพวกเธอไปห้องอาหาร
ภายนอกเหมือนจะเป็นการดูแล แต่ความเป็นจริงแล้วก็แค่จับตาดูทุกฝีก้าวของพวกเธอไว้ เรื่องนี้มู่น่อนน่อนรู้ดีอยู่แก่ใจ
คนรับใช้สองคนรอรับใช้อยู่ข้างๆอย่างเคารพ เฉินมู่อยู่ในคฤหาสน์นี้มาระยะหนึ่งแล้ว เห็นได้ชัดว่าคุ้นเคยกับที่นี่มาก
เธอจับมือมู่น่อนน่อนเดินไปข้างหน้าและพูดว่า: “แม่คะ หนูรู้ค่ะว่าห้องอาหารอยู่ไหน”
ตอนที่พวกเธอมาถึงห้องอาหาร ลี่จิ่วชังก็นั่งอยู่บนโต๊ะอาหารแล้ว ข้างๆเขาก็มีอาลั่วนั่งอยู่ด้วย
เขาเหมือนกำลังรอมู่น่อนน่อนกับเฉินมู่อยู่ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเล่น สีหน้าดูสบายใจมากเลยทีเดียว
เฉินมู่เห็นเขาก็ตะโกนเรียกอย่างดีใจว่า: “คุณลุงลี่คะ”
“มู่มู่มาแล้วเหรอ” ลี่จิ่วชังได้ยินก็เงยหน้าขึ้น วางโทรศัพท์ไว้ข้างๆ แล้วมองมู่มู่ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
เฉินมู่ยิ้มให้กับเขา จากนั้นก็หันหน้าไปมองมู่น่อนน่อน: “แม่คะ……”
เธออยากไปหาลี่จิ่วชัง และกำลังขออนุญาตมู่น่อนน่อนอยู่
“ไปเถอะ” มู่น่อนน่อนชะงักไปสักพัก แต่สุดท้ายก็ปล่อยมือให้เฉินมู่ไปหาลี่จิ่วชังอยู่ดี
เฉินมู่วิ่งไปหาลี่จิ่วชัง ลี่จิ่วชังก็อุ้มเธอขึ้นมา ทั้งสองดูเป็นเข้าขาและสนิทสนมกันมาก
มู่น่อนน่อนดูออกว่า เฉินมู่ชอบลี่จิ่วชังจริงๆ
เธอไม่ได้คิดมาก แล้วเดินตรงไปที่โต๊ะอาหาร นั่งอยู่ตรงข้ามลี่จิ่วชัง
เฉินมู่เห็นมู่น่อนน่อนเดินมา ก็รีบสไลด์ตัวลงมาจากตัวของลี่จิ่วชัง แล้ววิ่งเข้าไปหามู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนอุ้มเฉินมู่ขึ้นมานั่งบนเก้าอี้หน้าโต๊ะอาหาร ไม่นานก็ได้ยินลี่จิ่วชังถามเธอว่า: “เมื่อคืนนอนหลับไหม?”
“ด้วยความห่วงใยของคุณลี่ ฉันหลับสบายดีค่ะ” มู่น่อนน่อนเงยหน้ามองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“งั้นก็ดี ทานอาหารเช้าเถอะครับ” ลี่จิ่วชังได้ยินแล้วก็พยักหน้าเล็กน้อย เหมือนเมื่อกี้เขาแค่ถามไปงั้นๆ
พอกินอาหารเช้าเสร็จ ลี่จิ่วชังกับอาลั่วก็ออกไปข้างนอกทันที
ส่วนจะไปไหนนั้น มู่น่อนน่อนก็ไม่อาจรู้ได้
คฤหาสน์มีคนรับใช้และบอดี้การ์ดเยอะมาก แต่กลับไม่มีใครขังมู่น่อนน่อนไว้เลย เหมือนพวกเขาไม่กลัวเลยว่ามู่น่อนน่อนจะหนีไป
ถ้ามีแค่เธอคนเดียว การหนีคงจะง่ายกว่ามาก
แต่ตอนนี้เฉินมู่อยู่ด้วย การจะพาเฉินมู่หนีไปด้วยเป็นเรื่องที่ยากมาก เธอจึงไม่คิดเรื่องนี้อีก
ลี่จิ่วชังอาจจะคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ถึงไม่ได้สั่งให้คนคอยจับตาดูเธอไว้
แม้จะหนีไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการทำความคุ้นเคยกับคฤหาสน์หลังนี้
มู่น่อนน่อนทำความคุ้นเคยกับที่นี่ แต่เฉินมู่กลับลากเธอไปที่ห้องของเล่นตลอดเลย
ตอนที่เธอเข้าไป ก็ตะลึงไปทันที
ที่นี่มันไม่ใช่แค่ห้องของเล่นแล้วล่ะ มันเป็นสวนสนุกของเด็กเล็กมากกว่า
อายุนี้ของเฉินมู่ ไม่สามารถหักห้ามใจกับของพวกนี้ได้ เธอลากมู่น่อนน่อนไปเล่นกับเธอ
แต่มู่น่อนน่อนกลับรู้สึกสงสัยมากขึ้น ลี่จิ่วชังคิดจะทำอะไรกันแน่!
ถ้าเธอไม่ใช่แม่ของเฉินมู่ เธอคงสงสัยแล้วว่าลี่จิ่วชังเป็นพ่อแท้ๆของเฉินมู่หรือเปล่า
……
ดึกมากลี่จิ่วชังกับอาลั่วถึงจะกลับมา
ลี่จิ่วชังกลับมาก็มาหาเฉินมู่ทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...