ตอน บทที่ 581 น่อนน่อน นี่ผมหวังดีกับคุณนะ จาก ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 581 น่อนน่อน นี่ผมหวังดีกับคุณนะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ที่เขียนโดย Meow(○` 3′○) เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
มู่น่อนน่อนเพิ่งพูดจบ เธอก็สังเกตเห็นว่าสีหน้าของอาลั่วเกิดการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้จะแค่เสี้ยววินาทีก็ตาม ก็ถูกมู่น่อนน่อนสังเกตเห็นอยู่ดี
ดูท่าเธอเดาไม่ผิดว่าอาลั่วชอบลี่จิ่วชังมาก
อาลั่วยิ้มหยันทีนึงแล้วพูดว่า:“ฉันฟังไม่รู้เรื่องว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่!คุณทำหน้าที่ของตัวให้ดีก็พอแล้ว!”
“หน้าที่ของตัวเอง?”มู่น่อนน่อนอ้อมผ่านโต๊ะทำงานของลี่จิ่วชัง เดินมาที่ตรงหน้าของอาลั่วและพูดอย่างสงบเยือกเย็น:“คุณหนูอาลั่ว ไหนคุณลองบอกซิ ว่าฐานะตัวประกันของฉันในตอนนี้ ฉันต้องทำหน้าที่ของตัวเองอะไร?”
คำว่า“คุณหนูอาลั่ว”คำนี้มีความเหน็บแนมอยู่เล็กน้อย
อาลั่วกับมู่น่อนน่อนสูงพอๆกัน ทั้งสองยืนหันหน้าเข้าหากัน ดวงตาทั้งคู่สบตากัน แอบแข่งกันอย่างลับๆ
ผ่านไปสักพัก อาลั่วได้เคลื่อนย้ายสายตาก่อน และหันหลังจากไปโดยที่ไม่พูดสักคำ
มู่น่อนน่อนยืนอยู่ข้างหลังเธอ ได้แกล้งทำเสียงสูงถามด้วยความหวังดี:“คุณหนูอาลั่ว ลี่จิ่วชังรู้ว่าคุณชอบเขาหรือเปล่าคะ?จะให้ฉันช่วยบอกเขามั้ย?”
อาลั่วที่เดินมาถึงหน้าห้องได้หันหน้ามาทันที พร้อมพูดด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร:“มู่น่อนน่อน!”
น้ำเสียงของอาลั่วแฝงด้วยการข่มขู่ที่เข้มข้น
แต่มู่น่อนน่อนคือใคร?
เธอเคยถูกผู้ชายที่ชื่อเฉินถิงเซียวคนนั้นขู่เชียวนะ จะเกรงกลัวอาลั่วได้อย่างไร
มนุษย์เราล้วนมีจุดอ่อนของตัวเอง และจุดอ่อนของอาลั่วก็คือเธอชอบลี่จิ่วชัง แต่กลับไม่กล้าให้ลี่จิ่วชังรู้
มู่น่อนน่อนรู้สึกเรื่องนี้น่าสนใจจริงๆ
“ไม่เรียกคุณมู่แล้วเหรอคะ?คุณชายของคุณเคยสั่งไม่ใช่เหรอคะว่าต้องเกรงใจฉันหน่อย?”มู่น่อนน่อนยิ้มอ่อนๆ พร้อมพูดอย่างได้คืบจะเอาศอก:“แต่ท่าทีของคุณดูแล้วไม่มีความเกรงใจเลยนะคะ”
สีหน้าของอาลั่วได้เปลี่ยนไป สุดท้ายได้กลับคืนสู่ความใจเย็นของปกติ
“คุณมู่ เมื่อครู่ฉันได้ขัดใจคุณ คุณอย่าถือสาฉันเลยนะคะ”
เธอก้มหัวไว้เล็กน้อย ถึงแม้คำพูดเคารพนอบน้อม แต่น้ำเสียงกลับไม่เคารพนอบน้อมเลย
เป็นผู้หญิงที่ห้าวหาญคนนึง
พอเธอพูดจบ ก็ไม่สนว่ามู่น่อนน่อนจะมีปฏิกิริยายังไง ก็ตรงดิ่งออกไปเลย
พอเธอออกไป มู่น่อนน่อนถึงหัวเราะอย่างคลุมเครือทีนึง
ไม่คิดเลยว่าเมื่อครู่อาลั่วจะไม่ถามเธอว่าเอามือถือของลี่จิ่วชังทำไม ดูท่าคงจะตื่นเต้นมากเลย
บนโลกใบนี้ไม่มีคนที่แข็งแกร่งจนไม่มีสิ่งใดสามารถทำลายได้ ขอแค่เป็นคนก็ล้วนมีจุดอ่อนทั้งนั้น
ขอแค่มีจุดอ่อน ก็รับมือง่ายแล้ว
มู่น่อนน่อนได้หันมามองดูรอบห้องทำงานของลี่จิ่วชังอีกครู่นึง ไม่นานสีหน้าก้เปลี่ยนไป พร้อมขมวดคิ้วเดินออกไปข้างนอกอย่างช้าๆ
ฝีเท้าค่อนข้างหนักหน่วง
เมื่อครู่ เธอกดรหัสตัวสุดท้ายบนมือถือของลี่จิ่วชังเสร็จ ก็ได้กดปุ่มล็อคหน้าจอ
แต่เสี้ยววินาทีที่หน้าจอล็อก เธอได้เห็นหน้าจอมือถือแล้วแท้ๆ!
นั่นก็หมายความว่า รหัสที่เธอกดเมื่อครู่สามารถปลดล็อกมือถือของลี่จิ่วชัง!
รหัสมือถือของลี่จิ่วเชียนสามารถปลดล็อกมือถือของลี่จิ่วชัง
ตกลงเรื่องแบบนี้จะใช้พี่น้องฝาแฝดเลยใจตรงกันมาอธิบาย หรือว่า……ลี่จิ่วชังก็คือลี่จิ่วเชียนจริงๆ?
……
พอเมล็ดพันธุ์ของความสงสัยได้ปลูกเข้าไปในใจแล้ว มันก็จะรากงอกแตกหน่อ จากนั้นกลายเป็นแข็งแกร่งขึ้นมา
ตั้งแต่มู่น่อนน่อนใช้รหัสมือถือของลี่จิ่วชังปลดล็อกมือถือของลี่จิ่วชัง ก็ยิ่งได้จับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของลี่จิ่วชังแล้ว
ลี่จิ่วชังไม่เพียงไม่ถูกคำพูดของเธอยั่วโมโห กลับกันยังได้อ่อนโยนมากขึ้น
“น่อนน่อน นี่ผมหวังดีกับคุณนะ”
พอคำว่า“น่อนน่อน”ที่อ่อนโยนนี้ดังขึ้นปุ๊บ มู่น่อนน่อนก็รู้สึกว่าเส้นประสาทบางเส้นในหัวได้ตึงขึ้นมาทันที
นี่เป็นเสียงของลี่จิ่วเชียน เป็นน้ำเสียงของลี่จิ่วเชียน
ลี่จิ่วชังจะทำอะไรกันแน่!
ลี่จิ่วชังมองสีหน้าที่เปลี่ยนไปกะทันหันของมู่น่อนน่อนด้วยความพึงพอใจ ยกถ้วยน้ำชาที่อยู่ตรงหน้าขึ้นด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ พร้อมรินน้ำชาให้เธอแก้วนึง
ถึงแม้มู่น่อนน่อน ผู้หญิงคนนี้ดูแล้วค่อนข้างอ่อนแอ แต่ก็ยากที่จะควบคุมมาก
ได้เธอสีหน้าเปลี่ยนไป ลี่จิ่วชังรู้สึกมีความสำเร็จสุดๆ
“ตั้งแต่ปลดล็อกมือถือผมได้ หลายวันมานี้คุณคอยหยั่งเชิงผมตลอด ไม่ทราบว่ามีผลลัพธ์อะไรหรือยัง?คุณคิดว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าคุณตอนนี้คือลี่จิ่วชัง หรือว่าลี่จิ่วเชียน?”
ลี่จิ่วชังจ้องเธอไว้ แววตาลุ่มลึกพร้อมแฝงด้วยกลิ่นอายของความดุร้ายที่เข้มข้น
แววตาแบบนี้ค่อนข้างเหมือนแววตาของเฉินถิงเซียว แต่กลับทำให้คนสะอิดสะเอียนมากกว่าแววตาของเฉินถิงเซียวเยอะ
“อาลั่วบอกคุณเหรอ?”
เธอนึกว่าวันนั้นเธอเปิดโปงเรื่องที่อาลั่วชอบลี่จิ่วชังต่อหน้าอาลั่ว อาลั่วจะไม่บอกลี่จิ่วชัง
“อาลั่ว?”แววตาของลี่จิ่วชังมีรอยยิ้มปรากฏขึ้น:“ดูท่ากล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในห้องอ่านหนังสือของผมซ่อนได้ดีมากเลย จนถึงตอนนี้คุณก็ยังไม่พบเห็นอีก”
ที่แท้แบบนี้นี่เอง!
ตอนนั้นเธอเห็นนอกห้องอ่านหนังสือของลี่จิ่วชังไม่มีกล้องวงจรปิดก็เลยชะล่าใจ แต่กลับไม่เคยคิดมาก่อนว่าห้องอ่านหนัฃสือของเขาอาจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้
มู่น่อนน่อนกัดฟันแน่น ในเมื่อลี่จิ่วชังรู้เนื่องนี้แล้ว งั้นเธอก็ถามเขาตรงๆซะเลยดีกว่า:“คุณเป็นใครกันแน่?ลี่จิ่วชังหรือว่าลี่จิ่วเชียน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...