อ่านสรุป บทที่ 587 แสงสว่างเสี้ยวนึง จาก ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○)
บทที่ บทที่ 587 แสงสว่างเสี้ยวนึง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Meow(○` 3′○) อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
อีกอย่าง ถึงลี่จิ่วเชียนยอมปล่อยให้เธอเยี่ยมเฉินถิงเซียว ก็ไม่ได้มีเจตนาดีหรอก
“ถ้าไม่เกี่ยวกับคุณ ทำไมคุณถึงเชื่อว่าเฉินถิงเซียวเกิดอุบัติเหตุจริงๆ?”มู่น่อนน่อนกำมือสองข้างไว้แน่น หยุดฝีเท้าลง เฝ้าจับตาดูลี่จิ่วเชียนอย่างไม่ละสายตา
คนฉลาดส่วนใหญ่ล้วนระแวงทั้งนั้น ลี่จิ่วเชียนก็ไม่ยกเว้น เห็นเขาทำหน้าเหมือนพูดจาเชื่อถือได้ ก็รู้เลยว่าเขาแน่ใจว่าเฉินถิงเซียวเกิดอุบัติเหตุจริงๆ
ถ้าอุบัติเหตุของเฉินถิงเซียวไม่เกี่ยวข้องกับลี่จิ่วเชียน ลี่จิ่วเชียนจะแน่ใจขนาดนี้ได้อย่างไร?
ลี่จิ่วเชียนหรี่ตาเล็กน้อย สีหน้าแววตาเข้มงวดกวดขัน:“น่อนน่อน คุณพูดแบบนี้ผมไม่ชอบฟังเลย”
“เพราะฉันได้พูดความจริงออกมา”มู่น่อนน่อนยิ้มหยันทีนึงก็ได้ออกไปเลย
มาถึงนอกห้อง สีหน้าของมู่น่อนน่อนถึงได้ห้อยลงมาอย่างสิ้นเชิง
เธอเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น พร้อมเดินไปที่ห้องนอนของเฉินมู่
ตอนที่เข้าห้อง เธอยังคงเบาเสียงมาก เฉินมู่ยังหลับอยู่ มู่น่อนน่อนได้เดินไปที่โต๊ะ กางหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะแล้ว ได้ย้ายโคมไฟตั้งพื้นมาที่ตรงหน้า จากนั้นได้ศึกษาหนังสือพิมพ์แผ่นนั้นอย่างละเอียด
ถึงแม้เธอมีลางสังหรณ์ว่าเฉินถิงเซียวเกิดอุบัติเหตุมีความเกี่ยวข้องกับลี่จิ่วเชียน แต่เธอไม่เชื่อว่าเฉินถิงเซียวจะถูกลี่จิ่วเชียนวางอุบายจริงๆ
เฉินถิงเซียวไม่ใช่คนที่จะตกหลุมพรางและเสียเปรียบได้ง่ายๆ
แต่……เธอก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี!
มู่น่อนน่อนยื่นมือมากุมหน้าไว้ พิงอยู่บนโซฟาพร้อมถอนหายใจยาวๆ เดาอยู่อย่างค่อนข้างร้อนรนใจว่าเฉินถิงเซียวได้เกิดอุบัติเหตุหรือเปล่ากันแน่
แต่เดาไปเดามา เธอก็ไม่เห็นเฉินถิงเซียว ไม่เห็นตัวเขาเธอเดาไปจะมีประโยชน์อะไร
มู่น่อนน่อนเงยหน้าขึ้นมามองเฉินมู่ที่อยู่บนเตียงไปพักนึง ถ้าตอนนี้เธออยู่ที่นี่คนเดียว เธอก็ไม่ต้องคำนึงอะไรมากขนาดนั้นแล้ว
ตอนนี้ลี่จิ่วเชียนดูแลเฉินมู่อย่างให้กินดีอยู่ดี ไม่ใช่เพราะเขาจิตใจดี แต่เพราะเขารู้ว่าขอแค่เฉินมู่อยู่ที่นี่ ก็จะสามารถสกัดกั้นมู่น่อนน่อนไว้
ภายใต้สถานการณ์ที่สามารถสกัดกั้นมู่น่อน่อนไว้ เขาย่อมยอมดีกับเฉินมู่อยู่แล้ว
……
มู่น่อนน่อนค่อนข้างกระวนกระวายอยู่ทั้งวัน
ตอนทานข้าวเย็น มู่น่อนน่อนไม่เห็นลี่จิ่วเชียน ก็ไม่รู้ว่าเขาไปวางแผนเรื่องอะไรอีกแล้ว
หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ ลี่จิ่วเชียนถึงกลับมา
มู่น่อนน่อนจูงมือเฉินมู่ ได้เจอลี่จิ่วเชียนที่หัวบันได
ลี่จิ่วเชียนแค่มองมู่น่อนน่อนแว๊บเดียว ก็ได้ยื่นมือไปหาเฉินมู่ด้วยรอยยิ้ม:“มู่มู่ ให้ลุงลี่อุ้มหน่อยเร็ว”
เฉินมู่กะพริบตาปริบๆ จากนั้นได้ยื่นมือไปหาลี่จิ่วเชียน
ลี่จิ่วเชียนเอากล่องที่สวยงามประณีตให้เฉินมู่กล่องนึง:“ลองดูสิคะว่าชอบหรือเปล่า”
ด้านในคือช็อกโกแลต
เฉินมู่พยักหน้า:“ขอบคุณคุณลุงลี่ค่ะ”
“หนูไปเล่นนะ ลุงลี่ยังมีธุระต้องไปทำต่อ บ๊ายบายค่ะ”ลี่จิ่วเชียนวางเฉินมู่ลงบนพื้น จากนั้นได้โบกมือลากับเธอ
เฉินมู่ก็โบกมือให้เขา แต่ไม่ได้ส่งเสียง ดูแล้วกุลสตรีมาก แตกต่างกับความกระตือรือร้นของปกติ
พอลี่จิ่วเชียนไปแล้ว เฉินมู่ถึงดึงชายเสื้อของมู่น่อนน่อน ยื่นกล่องเล็กๆที่ใส่ช็อกโกแลตไว้ให้กับมู่น่อนน่อน
มู่น่อนน่อนนั่งยองๆและพูดกับเฉินมู่:“เป็นอะไรคะ?หนูไม่อยากกินเหรอคะ?”
“ไม่ใช่ค่ะ”เฉินมู่ส่ายหัว หน้าตาเหมือนลำบากใจ
จู่ๆเฉินมู่ได้ใกล้ไปที่ข้างหูของมู่น่อนน่อน ได้กดเสียงต่ำและถามเสียงเบามาก:“วันนี้คุณพ่อไม่มาอีกแล้วเหรอคะ?”
เธอพูดจบก็ได้ยืนตัวตรง มองหน้ามู่น่อนน่อนไว้ รอมู่น่อนน่อนตอบคำถามเธอ
มู่น่อนน่อนเงียบกริบ เฉินมู่คงจะคิดถึงเฉินถิงเซียวจริงๆแล้ว
เฉินมู่โตป่านนี้ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่จากกับเฉินถิงเซียวนานขนาดนี้ หรือว่าเฉินมู่รู้สึกอะไรได้
ตอนที่สองแม่ลูกขึ้นไปชั้นบน ช็อกโกแลตชิ้นที่อยู่ในมือของเฉินมู่ได้กินหมดพอดี
มู่น่อนน่อนพาเฉินมู่ไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ เธออาบให้เฉินมู่ก่อน หลังจากเปลี่ยนชุดนอนและอุ้มเธอไปที่เตียงเสร็จ ก็ได้อยู่ที่ห้องน้ำต่อคนเดียว
เธอกลัวเฉินมู่มีธุระหาเธอ ก็เลยไม่ได้ปิดประตูห้องน้ำ
มู่น่อนน่อนเปิดน้ำแล้ว ค่อนข้างเหม่อลอย
ในห้องนอน เฉินมู่กำลังกอดตุ๊กตาไว้นั่งรอมู่น่อนน่อนออกมาอย่างเชื่อฟัง
จู่ๆ ตรงหน้าต่างมีความเคลื่อนไหว
“ก๊อกๆ!”
เฉินมู่ได้ยินเสียงแล้วมองไปที่หน้าต่างด้วยความแปลกใจ
ในห้องเปิดเครื่องทำความร้อนไว้ หน้าต่างปิดไว้สนิท เฉินมู่มองไปก็สามารถมองเห็นแค่ผ้าม่านอย่างเดียว
ตรงหน้าต่างคลื่นสงัดลมสงบ และไม่มีความเคลื่อนไหวเลยสักนิด
เฉินมู่จ้องมองหน้าต่างอยู่ครู่นึงก็ได้ดึงสายตากลับ และรอมู่น่อนน่อนออกมาต่อ
ขณะนี้ หน้าต่างได้มีความเคลื่อนไหวอีก
ก๊อกๆๆ!
ครั้งนี้เสียงได้ดังติดกันหลายที
การได้ยินของเด็กดีมาก ฟังได้ชัดเจนมาก
เฉินมู่เบิกตากว้าง และมองไปที่หน้าต่างด้วยความแปลกใจ อดไม่ได้ที่จะออกมาจากใต้ผ้าห่ม และสไลด์ลงมาจากเตียงพร้อมวิ่ง“เตาะแตะๆ”ไปที่ริมหน้าต่าง
นอกหน้าต่างของห้องนอนเฉินมู่คือป่าไม้ ตอนที่เธอดึงผ้าม่านออก เห็นแค่ด้านนอกมืดสนิท
แต่ไม่นาน นอกหน้าต่างมีแสงสว่างขึ้นมาเสี้ยวนึง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...