เมื่อได้ยินคำพูดของลี่จิ่วเชียนในเวลานี้ เธอเพิ่งจะรู้ตัว ที่แท้ตอนนั้นเฉินถิงเซียวคอยให้คนปกป้องเธออย่างลับๆ อยู่ตลอดเวลา
ซึ่งเธอคิดมาโดยตลอดว่า หลังจากที่เธออยู่ที่ออสเตรเลียผ่านมาได้หลายเดือนแล้ว เฉินถิงเซียวเขาถึงส่งคนมาคอยคุ้มกันให้เธอ
ทว่าเธอกลับคาดไม่ถึงว่า เมื่อเธอถึงทางฝั่งนั้นแล้ว คนที่เฉินถิงเซียวส่งมาก็ตามมาถึงติดๆ
หลังจากผ่านเรื่องราวนั้นไปแล้ว แต่กลับมารู้เรื่องเหล่านี้ภายหลัง หัวใจของมู่น่อนน่อนพลางเกิดความรู้สึกซาบซึ้งกินใจ
“เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องโกหก คุณได้ช่วยผมไว้จริงๆ” แววตาของลี่จิ่วเชียนแสดงความรู้สึกที่เปลี่ยนไป รอยยิ้มไม่ได้คลี่ยิ้มเหมือนเมื่อครู่แล้ว
มู่น่อนน่อนถามเขากลับ “เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ลี่จิ่วเชียนเหลือบมองเธออย่างสื่อความหมาย ทว่ากลับไม่พูดว่าเธอไปช่วยเขาไว้ตอนไหน
“มาพนันกันไหม คุณลองเดาสิว่าเฉินถิงเซียวจะตามหาประตูที่พวกเราออกไปได้อย่างถูกต้องหรือเปล่า?”
เรื่องราวเหล่านั้นที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่เธอได้รับผลกระทบอยู่ไม่น้อย มู่น่อนน่อนโกรธจนหัวเราะออกมา “นี่คุณบ้าไปแล้วหรือไงกัน?”
ลี่จิ่วเชียนเป็นคนบ้าไปแล้วจริงๆ ช่วงเวลานี้ ใครจะมาเดิมพันกับเขากัน?
เดิมมู่น่อนน่อนก็แค่โมโหจัดจนด่าเขาไปเท่านั้นเอง ทว่าความรู้สึกที่ปรากฏอยู่บนสีหน้าของลี่จิ่วเชียนมองด้วยตาเปล่าก็เห็นถึงความรู้สึกเย็นยะเยือกดั่งน้ำค้างแข็งคอยปกคลุมอีกชั้นลง ซึ่งมันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
การแสดงออกของเขายิ่งแปรเปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกลงอีก “ผมเป็นบ้า แต่บ้าน้อยกว่าเฉินถิงเซียว”
มู่น่อนน่อนกัดฟันแน่น พลางเบนศีรษะไปมองทางอื่นแทน ไม่อยากจะสนใจลี่จิ่วเชียนอีกต่อไป
ยิ่งพูดกับเขามากขึ้นเท่าไหร่ เธอยิ่งโมโหอยู่ในใจมากขึ้นเท่านั้น และกลัวว่าจะไปเป็นการยั่วยุเขาจนเกินเหตุ เดี๋ยวเขาจะทำเรื่องอะไรบางอย่างที่เธอไม่สามารถแบบรับไว้ได้
เป้าหมายของลี่จิ่วเชียนในเวลานี้ก็ไม่ชัดเจน แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าเขากำลังเตรียมการแผนใหญ่อยู่
เขาใช้เวลา 3-4 ปีในการเตรียมการนี้ หรือว่าอาจจะมากกว่านั้น
แต่มู่น่อนน่อนยิ่งสับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ ลี่จิ่วเชียนใช้ความสามารถอันมากมายถึงเพียงนี้เพื่อวางแผนเรื่องนี้ไว้ ตกลงว่าเป้าหมายที่แท้จริงของเขาคือการพุ่งเป้าโจมตีเฉินถิงเซียว หรือพุ่งเป้ามาที่เธอกันแน่?
ถ้าเป้าหมายที่แท้จริงคือเฉินถิงเซียว เช่นนั้นทำไมเขาถึงต้องเบี่ยงเบนประเด็นจนหักมุมมาทำตัวสนิทสนมกับเธอด้วยล่ะ?
หลังจากเกิดระเบิดขึ้นบนเกาะเล็กๆ แล้ว เธอกับเฉินถิงเซียวบาดเจ็บอยู่ไม่น้อย ลี่จิ่วเชียนสามารถช่วยเหลือเธอออกมาจากเกาะเล็กๆ นั้นได้ และสามารถลงมือฆ่าเฉินถิงเซียวบนเกาะเล็กๆ นั้นได้ทันที
ทว่า เขากลับไม่ได้ฆ่าเฉินถิงเซียวด้วยซ้ำ แถมยังช่วยชีวิตเขาเอาไว้ด้วย
ถ้าจะพูดว่าตอนนั้นเขาทำอะไรไว้กับเฉินถิงเซียว ซึ่งมีเพียงเรื่องเดียวคือการสะกดจิตเฉินถิงเซียวเอาไว้เท่านั้นเอง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เรื่องการสะกดจิตเฉินถิงเซียวยังเป็นปริศนาที่ไม่สามารถปลดล็อกให้หลุดได้สักที
หลังจากที่เฉินถิงเซียวเกิดความสงสัยในตัวลี่จิ่วเชียนแล้วนั้น ซึ่งเป็นเวลาไม่นานนัก ลี่จิ่วเชียนพลันถูก ‘ลี่จิ่วชัง’ คนไม่ได้เรื่องลักพาตัวไป
ลี่จิ่วเชียนสามารถทำเรื่องราวได้ตั้งมากมาย เวลานี้มู่น่อนน่อนจึงไม่ต้องสงสัยว่าเป็นเขาที่สะกดจิตเฉินถิงเซียวเอาไว้
มู่น่อนน่อนมองหน้าเขาอย่างเย็นชา พลันใช้น้ำเสียงเย็นเฉียบ “คุณเป็นคนสะกดจิตเฉินถิงเซียวใช่ไหม?”
“ในที่สุดก็เดาได้ว่าเป็นผมแล้วสินะ?” ลี่จิ่วเชียนแสดงแววตาลุกพราวปรากฏทางสีหน้า “พลังจิตของเฉินถิงเซียวแรงกล้ามาก แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นเขาได้รับบาดเจ็บจนสลบไป ... ไม่ถูกต้องสิ พูดว่าสลบก็ไม่ค่อยถูกต้องเท่าไหร่ เดิมทีเขาไม่ได้รับบาดเจ็บหนักมากนักจนใกล้จะฟื้นอยู่รอมร่อ แต่พี่สาวแท้ๆ ของเขากลับใส่ยาให้เขาแทน เพื่อให้เขาสลบไสลต่อไป...”
“ส่วนผม ก็แค่ทำตามความปรารถนาคำขอร้องของพี่สาวแท้ๆ ของเขาก็เท่านั้นเอง”
คำพูดของลี่จิ่วเชียนทั้งสองประโยค ต่างเน้นคำว่า “พี่สาวแท้ๆ” อย่างชัดเจน พอฟังดูราวกับเขาอยากเห็น เฉินถิงเซียวกับเฉินจิ่งหยุ้นสองคนนี้ห้ำหั่นฆ่ากันเอง
ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินถิงเซียวกับเฉินจิ่งหยุ้นก็ไม่ค่อยลงรอยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่เมื่อสามปีก่อนนั้น ยังไม่ถึงขั้นพลิกหน้ามือเป็นหลังมือกลายเป็นอริศัตรูคู่แค้นกัน
แต่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีก่อนนั้น จึงส่งผลให้เฉินถิงเซียวกับเฉินจิ่งหยุ้นถึงกลายเป็นอริศัตรูกันอย่างชัดเจน
“ที่แท้ก็เป็นคุณจริงๆ ด้วย!” ก่อนหน้าที่ลี่จิ่วเชียนจะยอมรับออกมา มู่น่อนน่อนก็มีแค่ความสงสัยเท่านั้นเอง
เธอเชื่อว่าเฉินถิงเซียวไม่มีการคาดเดาโดยไร้มูลเหตุ แต่เธอก็ยังมีความสงสัยมากอยู่ในใจเช่นเดิม
บางครั้ง แม้ว่าตอนนี้ความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้ว มนุษย์อาจตั้งข้อสงสัยเพราะความเชื่อมั่นที่ต้องเผชิญหน้ากับความจริงที่ปรากฏออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...