เมื่อได้ยินเสียงเฉินถิงเซียวเรียกเขา สือเย่รีบเดินออกจากห้องมาหาเฉินถิงเซียวทันที
สือเย่เดินมาหยุดอยู่ตรงด้านหน้าเฉินถิงเซียว พลางเอ่ยปากเรียก “คุณชายครับ เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอครับ?”
“ลี่จิ่วเชียนลงมือแล้ว” เฉินถิงเซียวเดินก้าวเท้าไม่หยุด พร้อมทั้งพูด และเดินมุ่งหน้าไปทางด้านนอกพร้อมกัน
เมื่อสือเย่ได้ยินแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปทันที “ผมจะพาคนไปด้วยเดี๋ยวนี้ครับ”
เมื่อเฉินถิงเซียวกับสือเย่อาศัยท้องฟ้ายามวิกาลและความหนาวเหน็บจังหวะที่มาถึงประตูวิลล่าของลี่จิ่วเชียนนั้น พลางมองเห็นคนรวมตัวกันเป็นกลุ่มอยู่ตรงประตูวิลล่าพอดี แถมตรงประตูยังมีรถจอดอยู่สองคัน ซึ่งแสดงลักษณะทำทีท่าว่าจะออกไปข้างนอก
สือเย่เห็นเหตุการณ์นั่นแล้ว พลันพาคนเข้าไปดักหน้าและล้อมพวกเขาเอาไว้ทุกทางทันที
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าในกลุ่มนั้นพลางมองมาทางเฉินถิงเซียว “คุณเฉินนี่มันหมายความว่ายังไงกันครับเนี่ย?”
เฉินถิงเซียวจ้องมองเขาอย่างไร้ความรู้สึก น้ำเสียงเย็นยะเยือก “ลี่จิ่วเชียนอยู่ที่ไหน?”
“ตอนนี้คุณชายก็น่าจะหลับอยู่สิครับ ยังจะไปอยู่ที่ไหนได้?” ชายหนุ่มน่าจะได้รับคำสั่งมาก่อนแล้ว ว่าให้ตอบกลับไปอย่างมีไมตรีจิต ขนาดแววตายังไม่หวั่นไหวสักนิด
เฉินถิงเซียวแสยะยิ้มออกมาทันที พลางพาคนเข้าไปด้านใน
“คุณจะทำอะไรกันครับเนี่ย!”
“พวกคุณหยุดเดี๋ยวนี้ ที่นี่มันเป็นสถานที่ที่ให้พวกคุณเข้าออกกันได้ตามสบายหรือยังไงกัน!”
พวกเขายังคิดขวางเฉินถิงเซียวเอาไว้ ทว่าจะไปขวางเฉินถิงเซียวเอาไว้ได้อย่างไรกันเล่า?
เฉินถิงเซียวก้าวเดินมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว และไม่ใส่ใจคนพวกนี้ด้วยซ้ำ ส่วนข้างกายนั้นมีสือเย่และบอดี้การ์ดคอยคุ้มกันอยู่ คนเหล่านั้นแทบเข้าใกล้เขาไม่ได้เลย
ลูกน้องของลี่จิ่วเชียน ทำได้แค่จ้องมองเฉินถิงเซียวเดินเข้าไปด้านใน
ซึ่งบรรยากาศภายในไม่เหมือนกับด้านนอกเลยสักนิด ภายในวิลล่าเงียบเชียบมาก ขนาดคนรับใช้สักคนยังไม่มี แถมไม่ได้เปิดเครื่องปรับอากาศด้วยซ้ำ
“ค้น!” เฉินถิงเซียวยืนอยู่ห้องโถงใหญ่อันว่างเปล่า สีหน้าเงียบขรึม ราวกับกลายเป็นส่วนเดียวกับสีของท้องฟ้ายามวิกาลด้านนอก
เวลานั้นเอง จู่ ๆ ก็มีบอดี้การ์ดวิ่งเข้ามาพูด “ประตูด้านหลังของวิลล่ามีรถจอดอยู่หลายคันครับ”
สือเย่ได้ยินเช่นนั้น พลางหันศีรษะไปมองเฉินถิงเซียว แต่เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไร แค่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
สือเย่ครุ่นคิดอยู่สักพัก “คุณชายครับ ผมขอพาคนออกไปก่อน!”
เฉินถิงเซียวไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และหาตำแหน่งปักหมุดจุดสีแดงที่อยู่ในโทรศัพท์
ตำแหน่งหมุดสีแดงยังอยู่ภายในวิลล่า
เขาฉุกคิดได้ว่ามู่น่อนน่อนได้ส่งข้อความสั้นๆ มาหาเขา เพียงไม่กี่คำ โดยครึ่งหนึ่งคือการเตือนให้เขามารับตัวมู่มู่ออกไป
โทรศัพท์ที่อยู่ในมือเขากำแน่นอย่างไม่รู้ตัว จากนั้นจึงมุ่งหน้าเดินขึ้นชั้นบน
แม้ว่าเขาแค่เคยมาห้องหนังสือของลี่จิ่วเชียน แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่คุ้นเคยกับวิลล่าหลังนี้
สองสามวันนี้เขาไปมาหาสู่วิลล่าของลี่จิ่วเชียนอยู่ตลอด ไม่เพียงแต่เป็นการยั่วอารมณ์ลี่จิ่วเชียนให้โมโหตามปกติ เขายังส่งคนให้มาทำความรู้จักโครงสร้างของวิลล่าให้ชัดเจนอีกด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งที่พักของมู่น่อนน่อนกับเฉินมู่ เขารู้ดี
เฉินถิงเซียวอาศัยความทรงจำในหัวสมอง และรีบเดินไปยังห้องเฉินมู่ทันที
ตอนที่เขาเดินไปยังทางเดินชั้นสามนั้น พลันได้ยินเสียงพึ่บพับดังอยู่สักพัก
นั่นมัน... เป็นเสียงสิ่งของที่กำลังลุกไหม้
เฉินถิงเซียวรีบหันศีรษะกลับมาอย่างแรง พลางเห็นแสงกองเพลิงที่กำลังลุกโหมอยู่ตรงทางเดินอีกฝั่ง
ตามรูปโครงสร้างที่ใช้มือวาดขึ้นมาเองตามความทรงจำนั้น เฉินถิงเซียวรู้ว่าบริเวณตรงนั้นคือห้องเรือนกระจก เมื่อเดินผ่านห้องเรือนกระจกไปแล้ว ก็คือห้องนอนของเฉินมู่
ส่วนเสียงเคล้งที่ดังอยู่ด้านใน เป็นเสียงกระจกที่เกิดจากการลุกไหม้และหล่นแตกกระจัดกระจาย!
สีหน้าอันไร้ความรู้สึกมาโดยตลอดของเฉินถิงเซียวพลางเกร็งทันที เส้นเลือดตรงขมับปูดขึ้น พลางกัดฟันไว้แน่น แววตาทอประกายความดุร้ายจ้องกินเลือดกินเนื้อออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...