ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม นิยาย บท 604

สรุปบท บทที่ 604 หาตัวเธอมาให้เจอ: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

บทที่ 604 หาตัวเธอมาให้เจอ – ตอนที่ต้องอ่านของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม

ตอนนี้ของ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม โดย Meow(○` 3′○) ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 604 หาตัวเธอมาให้เจอ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

มู่น่อนน่อนหน้าตาซีดเผือดไม่มีสีเลือดฝาดอยู่บนใบหน้าสักนิด พลางนั่งอยู่บนพื้นและค่อยๆลุกขึ้นจากพื้น

เธอไม่เหล่ตามองลี่จิ่วเชียนอีกเลย พลันวิ่งมุ่งหน้าไปทางวิลล่าที่ยังคงมีกลุ่มควันไฟและเปลวเพลิงห้อมล้อมปกคลุมไปทั่วบริเวณโดยรอบ

จังหวะนั้นอาลั่วจึงวิ่งตามมาทันที

เมื่อมาถึงก็เห็นมู่น่อนน่อนมุ่งหน้าวิ่งไปทางวิลล่า พลางหรี่ตาเล็กน้อย พร้อมทั้งถามออกไป “ไฟไหม้หนักขนาดนั้น นี่เธอคิดจะวิ่งกระโจนเข้าไปจริงๆ เหรอ?”

เมื่อมนุษย์ถูกความอิจฉาริษยามันบังตาเอาไว้ ย่อมไม่สามารถเห็นข้อดีของคนที่เธอคอยอิจฉาคนนั้นได้ตามวิสัยธรรมชาติ

ซึ่งมีความคล้ายคลึงอาลั่วที่กำลังเหล่ตามองมู่น่อนน่อน เธอรู้สึกว่ามู่น่อนน่อนแค่แสดงท่าทางให้ดูก็เท่านั้นเอง เธอไม่มีทางกล้าวิ่งพุ่งเข้าไปในวิลล่าแน่

เพราะตอนนี้ไฟโหมแรงขนาดนั้น มู่น่อนน่อนกระโจนเข้าไปก็มีแต่ตายอย่างเดียว ที่ถูกย่างสดตายทั้งเป็น

ลี่จิ่วเชียนไม่ได้พูดอะไร แค่เหลือบมองมู่น่อนน่อนที่กำลังจะกระโจนเข้าไปด้านใน

อาลั่วเห็นว่าลี่จิ่วเชียนไม่พูดไม่จา เธอก็ไม่อยากจะพูดอะไรเพิ่มเติม

เวลานั้นเอง มู่น่อนน่อนได้วิ่งไปอยู่ตรงบริเวณด้านหน้าของวิลล่าแล้ว พร้อมทั้งฝืนพุ่งตัวเข้าไปด้านในวิลล่าทันที

อาลั่วสีหน้าเปลี่ยนลงถนัดตา “มู่น่อนน่อนเธอ...”

“คุณผู้ชายคะ ฉันจะไปเอาตัวมู่น่อนน่อนกลับมาค่ะ” อาลั่วพูดจบ กำลังจะวิ่งไปทางวิลล่า

ทว่าลี่จิ่วเชียนกลับรั้งเอาไว้ในจังหวะนั้นทันที “ไม่ต้อง ให้เธอได้ลิ้มรสความทุกข์บ้าง”

“ถ้าเธอเกิดได้รับบาดเจ็บขึ้นมาละคะ? ร่างกายของเธอไม่สามารถเสียหายได้นะคะ...” น้ำเสียงของอาลั่วแสดงความสับสนและร้อนรนเล็กน้อย

ส่วนลี่จิ่วเชียนทำสีหน้าเคร่งขรึม และยืนอยู่ตรงนั้นอย่างมั่นคงหนักแน่นดั่งภูเขาไท่ซาน ไม่พูดอะไรออกมาสักประโยค

เขาไม่พูด อาลั่วก็ไม่สามารถทำอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขาได้ พลันยืนขมวดคิ้วนิ่วหน้าอยู่ที่เดิม ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

มู่น่อนน่อนวิ่งมาหยุดอยู่ด้านหน้าวิลล่า พร้อมทั้งสำลักควันไฟที่กำลังเผาไหม้อย่างรุนแรง กองเพลิงกำลังโหมกระหน่ำลุกโชนจนมู่น่อนน่อนรู้สึกแสบหน้า

มู่น่อนน่อนเหลือบมองตามเปลวเพลิงลุกไหม้ จึงพบว่าห้องที่อยู่ด้านข้างไฟยังไม่ลุกลามสักเท่าไหร่ พลันหันตัวและพุ่งเข้าไปในห้องนั้นทันที

ในห้องมีควันอบอวลไปทั่ว มู่น่อนน่อนเดินเข้าไปและสำลักควันไฟอยู่ตลอดเวลา

เธอระงับอาการสำลักควันที่มีอยู่ตลอด และเปล่งเสียงเรียกเฉินมู่

“มู่มู่!”

“มู่มู่ลูกอยู่ข้างในไหม? นี่แม่เองนะ?”

มู่น่อนน่อนเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ ไหนจะควันที่แรงขึ้น คลื่นความร้อนก็ยิ่งแผดเผามากขึ้น

เธอค่อยๆ เดินเข้ามาถึงจุดที่ถูกไฟไหม้ พลางเม้มริมฝีปากเดินเข้าไปด้านใน

เธอเดินเข้าไปด้านในได้สักระยะอย่างยากลำบาก อย่างเชื่องช้า บางครั้งยังต้องหลีกเลี่ยงเศษกระจกที่อยู่บนพื้นด้วย

มู่น่อนน่อนไม่รู้รายละเอียดโครงสร้างของวิลล่าหลังนี้เป็นพิเศษมากนัก เมื่อเดินผ่านมาหนึ่งห้องถึงได้จำทิศทางห้องโถงใหญ่ได้ และจำตำแหน่งที่ตั้งห้องนอนของเฉินมู่ได้

เมื่อเธอเดินเลียบทางเข้าห้องโถงใหญ่มานั้น จึงเห็นทะเลเพลิงที่อยู่ด้านหน้าเต็มสองตา ราวกับทรงตัวไม่อยู่ พลางสะดุดเท้าจนลงไปนั่งคุกเข่ากองอยู่ที่พื้น

“เป็นไปไม่ได้... เป็นไปไม่ได้!?” บริเวณบันไดที่อยู่เบื้องหน้ามันไม่มีแม้แต่เงาเลยเหรอ?

ห้องโถงมอดไหม้ไปเกินครึ่ง

เมื่อครู่ตอนที่เธอมองมาจากด้านนอก เห็นว่าวิลล่าไหม้ไปครึ่งเดียว

แม้ว่าเธอไม่ยินยอมที่จะเชื่อ ทว่าภาพที่ปรากฏตรงหน้าเธอในเวลานี้ บริเวณที่ไฟไหม้นั้นกินตำแหน่งห้องนอนของเฉินมู่เกินครึ่ง

ความหนาวเหน็บพลางแทรกซึมเข้าทุกส่วนอณูทั่วร่างกาย

ทะเลเพลิงที่กำลังลุกโชนอยู่ทางด้านหน้า ทว่ามู่น่อนน่อนกลับหนาวเหน็บ เย็นเข้ากระดูก

ตอนที่เธอถูกลี่จิ่วเชียนพาตัวออกมานั้น เฉินมู่กำลังนอนหลับอยู่

กองเพลิงถาโถมหนักขนาดนี้ ต้องเป็นช่วงจังหวะที่เธอออกมาก็ไหม้ทันที

ตอนที่เธอส่งข้อความหาเฉินถิงเซียว เฉินถิงเซียวได้รับข้อความของเธอก็ต้องมาหาเฉินมู่แน่....

มู่น่อนน่อนไม่กล้าจะคิดต่ออีกแล้ว

เธอไม่เชื่อ!

เธอไม่เชื่อว่าเฉินมู่กับเฉินถิงเซียวทั้งคู่จะอยู่ที่นี่!

ทว่ามีอะไรบ้างล่ะที่จะชี้ชัดบอกอย่างชัดเจนว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่?

เธอต้องการเข้าไปดู! ต้องเข้าไปดูให้ได้!

……

ทางด้านนอกวิลล่า

เวลาผ่านพ้นไปสิบกว่านาทีแล้ว มู่น่อนน่อนยังไม่ออกมาจากด้านใน สุดท้ายลี่จิ่วเชียนก็เริ่มยืนไม่อยู่สุขแล้ว

สีหน้าอาลั่วกลับเคร่งขรึมหนัก แต่ไม่กล้าพูดอะไรมากออกมา

ลี่จิ่วเชียนเหลือบมองวิลล่าเล็กน้อย และพูดออกมาด้วยหน้าถมึงทึง “รีบเข้าไปดูเร็ว”

ตอนที่พวกเขาเข้าไปดูนั้น มองไม่ได้เห็นร่างของมู่น่อนน่อนเลยด้วยซ้ำ

อาลั่วหน้าถอดสีทันที “คงไม่ได้วิ่งหนีไปใช่ไหม?”

“เธอจะวิ่งไปไหนได้?” ลี่จิ่วเชียนหันศีรษะกลับมามองเธอ ด้วยหน้าตาเย็นชา

อาลั่วสำรวจบริเวณโดยรอบ นอกจากตำแหน่งทางประตูที่มู่น่อนน่อนเข้ามาแล้ว ไม่มีตรงไหนที่สามารถวิ่งหนีไปไหนได้เลยจริงๆ

“หรือว่า...” อาลั่วเบนสายตามาทางกองเพลิง และแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“ไปหาเธอในนั้นเร็ว!” ลี่จิ่วเชียนออกคำสั่งทันที ลูกน้องที่อยู่ด้านหลังที่ได้รับการฝึกฝนในการทำงานให้ช่วยเหลือคนในกองเพลิงมาเป็นอย่างดี

อาลั่วคงลังเลอยู่ว่าจะเข้าไปหรือไม่ ลี่จิ่วเชียนออกคำสั่งทันที “คุณไม่ต้องเข้าไป”

อาลั่วได้ยินแล้วชะงักไปชั่วครู่ จนดวงตาแพรวพราวทันที “ค่ะ”

ลูกน้องของลี่จิ่วเชียนเข้าไปได้ไม่นานนัก ก็พาตัวมู่น่อนน่อนที่นอนสลบไสลออกมา

ใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลาเป็นทุนเดิมของมู่น่อนน่อนเปรอะเปื้อนด้วยควันดำจนมองหน้าตาเดิมไม่ออก เสื้อผ้าที่อยู่บนตัวก็เปียกโชก และไม่ได้ใส่เสื้อโค้ตไว้

ลี่จิ่วเชียนจ้องมองมู่น่อนน่อนด้วยสีหน้าหม่นหมองอยู่ชั่วพริบตา พลันหันตัวเดินออกไปด้านนอก

“ไปกัน” อาลั่วเดินตามอยู่ด้านหลัง

พวกเขาพาตัวมู่น่อนน่อนออกจากวิลล่า และขึ้นรถออกไปทันที

รถยนต์ค่อยๆ ทะยานออกไปไกล ท่ามกลางกองเพลิงอันแรงกล้าพลันมีคนคนหนึ่งกระโจนออกมาจากวิลล่า

ซึ่งสิ่งที่คลุมเหนือศีรษะคนคนนี้เอาไว้ ก็คือเสื้อโค้ตอันเปียกชุ่มของมู่น่อนน่อนก่อนหน้านี้พอดี เขายืนอยู่ที่เดิมสักพัก เมื่อไม่ได้ยินถึงความเคลื่อนไหวจากภายนอกแล้ว จึงเดินออกมาทางด้านนอก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม