ตอน บทที่ 635 ผู้ชายที่ฉันใช้แล้ว จาก ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 635 ผู้ชายที่ฉันใช้แล้ว คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ที่เขียนโดย Meow(○` 3′○) เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ตอนที่มู่น่อนน่อนได้ยินฉินสุ่ยซานพูดประโยคแรก สีหน้าก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้ว
เห็นฉิยสุ่ยซานหน้าตาเหมือนเห็นผี มู่น่อนน่อนจึงลองพูดออกมาสองคำ
“ซูเหมียน?”
“คุณรู้ได้ยังไง” ฉินสุ่ยซานนั่งลงข้างมู่น่อนน่อน “เป็นซูเหมียนจริงๆ!”
มู่น่อนน่อนหันหน้าไปมองยังประตูทางเข้า แต่ฝูงชนออกันอยู่ เธอที่นั่งอยู่ตรงนั้น จึงไม่เห็นเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนเลย
เธอเพ่งมองไปทางนั้น ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ค่อยๆ ขยับปรับชุดเดรสบนตัว
“คุณจะทำอะไร” ฉินสุ่ยซานเงยหน้าขึ้นมองการเคลื่อนไหวทั้งหมดของเธอ อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม
“ไปดูหน่อย” มู่น่อนน่อนทิ้งประโยคนี้แล้วเดินเข้าไปยังที่ที่ฝูงชนรวมตัวกัน
ความหลงลืมของผู้คนนั้นยิ่งใหญ่ เพราะเรื่องการแต่งงานและหย่าร้างของเฉินถิงเซียว มู่น่อนน่อนจึงเคยเป็นจุดสนใจของผู้คน
แต่หลังจากเรื่องราวผ่านพ้นไป ความโด่งดังก็ลดน้อยถอยลง โดยธรรมชาติแล้วจึงจะไม่มีใครพูดถึงมู่น่อนน่อนอีก
ต่อให้มีหลายคนรู้จักมู่น่อนน่อน ก็ไม่ได้มีใจที่จะคิดและพูดอะไรมาก
ถึงอย่างไรคนที่โดดเด่นที่สุดในคืนนี้ ก็เป็นเฉินถิงเซียวกับซูเหมียน
ข้างๆ มีคนซุบซิบนินทาเฉินถิงเซียวกับซูเหมียน
“ก่อนหน้านี้เว่ยป๋อของตระกูลเฉินโพสต์ข้อความแล้วไม่ใช่เหรอว่าประธานของพวกเขาไม่ได้ชอบผู้หญิงแซ่ซู”
“ใครจะรู้ล่ะ บางทีรสนิยมของคุณชายเฉินอาจจะเปลี่ยนก็ได้”
“คุณซูคนนี้ รูปโฉมตระกูลไม่เลว ต่อให้เฉินถิงเซียวชอบเธอก็ไม่แปลกอะไร”
“พวกคุณพูดมากไปมีประโยชน์อะไร คอยดูต่อไปอีกหน่อย......”
“ใครว่าไม่ล่ะ”
สำหรับคำพูดของพวกเขา มู่น่อนน่อนฟังหูซ้ายทะลุหูขวา ฟังไปโดยไม่ใส่ใจเลย
สายตาของเธอทั้งหมดวางไว้ที่ตัวเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนสองคนนั้น
สองคนเดินเคียงข้างกัน ซูเหมียนแม้ไม่มีการควงแขนเขา แต่สองคนใกล้ชิดกัน บนใบหน้าของเฉินถิงเซียวก็ไม่ได้มีแววขยะแขยงและรังเกียจ
สามารถเดินกับเฉินถิงเซียวได้ ก็เพียงพอจะทำให้คนจินตนาการไปไกลแล้ว
เฉินถิงเซียวสวมสูทสีเข้มเช่นปกติ สูงส่งสง่างาม ซูเหมียนแต่งองค์ทรงเครื่องพิถีพิถันตั้งแต่ศีรษะจดเท้า แม้แต่ชุดเดรสก็เป็นฝีมือของดีไซเนอร์ชื่อดัง แถมยังเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชัน
ถ้าหากจะเปรียบเทียบ ชุดบนตัวมู่น่อนน่อน ดูแสนจะธรรมดามาก
มู่น่อนน่อนยืนในฝูงชน ไม่มีความสะดุดตาแม้แต่น้อย
เธอแค่มองดูเงียบๆ แบบนั้น เฉินถิงเซียวกับซูเหมียนเดินอยู่ด้วยกัน เดินตรงผ่านหน้าเธอไป
มือที่ตกอยู่ข้างตัวกำกันแน่น
เฉินถิงเซียวอยู่ดีๆ ก็......มาพัวพันกับซูเหมียนอีกแล้วเหรอ
วันนั้นในวิลล่าของเฉินถิงเซียว ทั้งคู่พูดจากันด้วยคำพูดที่ใจร้ายกันไปไม่น้อย
ปกติเฉินถิงเซียวมักจะเผด็จการเสมอ แต่ก่อนหน้านี้ต่อให้ทะเลาะกันใหญ่โต ก็จะไม่ออกปากไล่เธอแบบนั้น
มู่น่อนน่อนรับรู้ถึงการตัดสินใจเด็ดขาดในน้ำเสียงของเขา ดังนั้นจึงไม่พูดอะไรมาก ไปเลยในทันที
ตั้งแต่เธอย้ายออกจากวิลล่าของเฉินถิงเซียวมาจนถึงตอนนี้ พยายามแล้วที่จะไม่ให้ตัวเองคิดถึงเฉินถิงเซียว เช่นเดียวกับแต่ละคำที่เฉินถิงเซียวพูด
เพียงแต่ เมืองหู้หยางมีขนาดเล็กเกินไป แม้แต่งงานกิจกรรม งานเลี้ยงอาหารค่ำ ก็ยังพบเจอเขาได้
พอดีกับที่มีคนมาหาฉินสุ่ยซาน เธอจึงไม่มีเวลามากังวลกับมู่น่อนน่อน ได้แต่กำชับมู่น่อนน่อนว่า “กลับมาเร็วๆ นะ”
มู่น่อนน่อนโบกมือให้เธอ แล้วเดินไปห้องน้ำ
เธอเข้าไปในห้องน้ำ ยืนอยู่หน้ากระจก จ้องมองตัวเองในกระจก ในสมองกลับฉายภาพเฉินถิงเซียวกับซูเหมียนเดินเคียงข้างกันก่อนหน้านี้โดยไม่ตั้งใจ
ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกแย่
เธอกัดริมฝีปาก สูดหายใจเข้าลึก ล้วงเอาแป้งพัฟในกระเป๋าออกมาแต่งหน้า
เมื่อเธอเก็บแป้งพัฟกลับไปแล้วหยิบลิปสติกออกมา ก็เห็นจากกระจกว่ามีคนเดินเข้าประตูมา
หลังจากเห็นว่าผู้หญิงที่เข้ามาคือซูเหมียน มือที่กำลังเคลื่อนไหวของมู่น่อนน่อนก็หยุดครู่หนึ่ง ก่อนจะทาลิปสติกต่อไปราวกับซูเหมียนไม่มีตัวตน
ซูเหมียนเดินนวยนาดมาข้างๆ มู่น่อนน่อน ลดสายตาลงเอาลิปสติกออกจากกระเป๋า ดูเหมือนก็มาแต่งหน้าด้วย
ทั้งสองคนไม่มีใครพูดกับใคร
มู่น่อนน่อนเก็บลิปสติกใส่กระเป๋าและกำลังจะไป แต่เวลานี้ซูเหมียนกลับเรียกรั้งเธอไว้ “คุณมู่จะไปแล้วเหรอ ยากนักที่จะมีโอกาสได้คุยกับคุณ ทำไมต้องรีบไปด้วยล่ะคะ”
มู่น่อนน่อนหยุดเล็กน้อย เหลือบมองซูเหมียน และพูดอย่างแดกดันว่า “คุณซูมีอะไรจะพูดก็พูดมาตรงๆ ความร้ายลึกมันส่งผลร้ายต่อนิสัยของคุณเหลือเกิน”
ซูเหมียนหน้าบึ้ง สีหน้าสงบนิ่งจางหายไปค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา “มู่น่อนน่อน คุณรู้ไหมความต่างของฉันกับคุณอยู่ตรงไหน”
มู่น่อนน่อนเลิกคิ้ว ไม่ได้พูดอะไร รอซูเหมียนพูดให้จบ
“ความแตกต่างระหว่างเรา มันเป็นความแตกต่างระหว่างเมฆกับโคลน” น้ำเสียงของซูเหมียนเจือไอเย็นชา เธอเชิดคางเบะปาก มองมู่น่อนน่อนอย่างยโสอวดดี ดวงตาส่อแววแห่งชัยชนะของผู้ชนะ
สายตาแบบนี้ มู่น่อนน่อนรับรู้ได้ดี
มู่น่อนน่อนไม่แม้แต่จะกะพริบตา เธอเสยผมที่ปรกลงมาตรงหน้าตัวเอง และพูดแบบสบายๆ ว่า “ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชายของฉันที่คุณเคยโลภอยากได้ แต่ตอนนี้คุณรับช่วงต่อผู้ชายที่ฉันใช้แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...