มู่น่อนน่อนเม้มริมฝีปาก “ถ้าคุณไม่พูด ฉันก็จะไปสืบเอง”
ฉินสุ่ยซานค่อนข้างหมดคำพูด “ฉันรู้ แต่อย่างไรก็ตาม คุณอย่าเอาแต่คิดเรื่องพวกนี้ บทก็ต้องเขียนด้วย!”
มู่น่อนน่อนเสยผมขึ้นทัดหูและพูดว่า “ก่อนปีใหม่ จะส่งให้คุณทั้งหมด”
ฉินสุ่ยซานดวงตาสดใสทันที “ฉันจะบอกคุณแล้ว ฉันจะบอกคุณว่าซูเหมียนอยู่ที่ไหนตอนนี้เลย!”
หลังจากรู้ที่อยู่ของซูเหมียนแล้ว มู่น่อนน่อนก็กลับไป
ช่วงเวลายังเช้าอยู่ เธอเขียนบทไปสองชั่วโมง จัดเรียบเรียงสั้นๆ คร่าวๆ ครู่หนึ่ง ก่อนจะไปดูเฉินมู่ที่บ้านเฉินถิงเซียว
ถึงบ้านตระกูลฉิน ย่อมเจอเฉินจิ่งหยุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สภาพของเฉินจิ่งหยุ้นดูแย่กว่าตอนที่มู่น่อนน่อนเพิ่งไป
“มาหามู่มู่เหรอ” เฉินจิ่งหยุ้นเป็นคนฉลาด ทันทีที่มู่น่อนน่อนมา เธอก็รู้จุดประสงค์ของมู่น่อนน่อน
คราวที่แล้วได้พูดถ้อยคำที่ไม่น่าพอใจเหล่านั้นกับเฉินจิ่งหยุ้นไป ทั้งสองจึงไม่มีอะไรจะคุยกัน มู่น่อนน่อนตอบอย่างเย็นชาว่า “อืม”
ขณะที่มู่น่อนน่อนเดินขึ้นไปชั้นบน รู้สึกได้ว่าเฉินจิ่งหยุ้นมองเธอตลอดเวลา
กระทั่งเธอเดินถึงทางเลี้ยว เฉินจิ่งหยุ้นจึงส่งเสียงเรียกเธอ “มู่น่อนน่อน”
มู่น่อนน่อนหันหน้ากลับไปมองเธอ ส่งสัญญาณว่าเธอมีอะไรจะพูดก็พูดมา
เฉินจิ่งหยุ้นนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “หลังจากคุณหามู่มู่เรียบร้อยแล้ว พวกเราคุยกันหน่อยได้ไหม”
สีหน้าของเธอดูสงบนิ่งมาก มู่น่อนน่อนมองไม่ออกว่าเฉินจิ่งหยุ้นอยากพูดอะไรกับเธอ
แต่มู่น่อนน่อนคาดเดาได้รางๆ ว่าอาจเกี่ยวข้องกับเฉินถิงเซียว
มู่น่อนน่อนลังเลอยู่สองวินาที ก่อนจะพยักหน้าตอบรับ
เฉินจิ่งหยุ้นยิ้มให้เธอครู่หนึ่ง แสดงสีหน้าเชิงขอบคุณ
มู่น่อนน่อนอยู่วิลล่าหลังนี้มานาน คุ้นเคยกับแผนผังของที่นี่เป็นอย่างดี หลับตาก็รู้ว่าห้องของเฉินถิงเซียวอยู่ตรงไหน ห้องของเฉินมู่อยู่ตรงไหน
ขณะที่เดินผ่านห้องหนังสือของเฉินถิงเซียว การก้าวของมู่น่อนน่อนชะลอตัวโดยไม่ตั้งใจ แต่กลับไม่มีการหยุดแต่อย่างใด เดินตรงผ่านไปเลย
เมื่อมู่น่อนน่อนเปิดประตูห้องของเฉินมู่ เฉินมู่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะวาดรูป
เฉินมู่ได้ยินเสียงประตูเปิดก็พลันหันหน้าฉับ ดวงตาตื่นตระหนกราวกับกระต่ายน้อยหวาดกลัว
มู่น่อนน่อนไม่ได้เดินเข้าไปทันที แค่พูดอย่างอ่อนโยน “มู่มู่ แม่เอง”
เฉินมู่มองจ้องเธอสักพัก ความตื่นตระหนกในแววตาค่อยๆ จางหายไป
มู่น่อนน่อนถึงได้เดินเข้าไป
“มู่มู่ทำอะไรอยู่คะ” มู่น่อนน่อนมองกระดานวาดภาพในมือเฉินมู่ครู่หนึ่ง พบว่าเธอกำลังวาดผลแอปเปิ้ล ซึ่งวาดได้ค่อนข้างเหมือน
มู่น่อนน่อนจำได้ว่าเมื่อก่อน เฉินมู่ในตอนที่ยังไม่เกิดเรื่อง จะวาดไปแบบสบายๆ ตามใจชอบ ลายเส้นทุกแบบทุกชนิด และก็พวกวงกลมเรื่อยเปื่อย
แต่แอปเปิ้ลตรงหน้า เฉินมู่วาดได้เหมือนมาก
เห็นมู่น่อนน่อนกำลังมองภาพวาด เฉินมู่ก็มีการกระทำเล็กๆ ด้วยการดันกระดานวาดภาพไปตรงหน้ามู่น่อนน่อน
การกระทำเล็กๆ น้อยๆ นี้ไม่รอดพ้นจากสายตาของมู่น่อนน่อน
ความไม่คาดฝันนี้ทำให้มู่น่อนน่อนรู้สึกดีมาก ดวงตาเกิดแววประหลาดใจ “หนูไม่ต้องดันมาหรอก แม่มองเห็น หนูวาดให้แม่ดูอีกรูปได้ไหม”
เฉินมู่พยักหน้า หยิบพู่กันมาวาดรูปอย่างจริงจัง
ขณะที่เธอวาด ดูจริงจังมาก ใบหน้าเล็กนวลเนียนน่ารักราวกับหยกแกะสลักเต็มไปด้วยความเอาจริงเอาจัง ดวงตาดำขลับจ้องกระดานวาดภาพโดยไม่กะพริบ
มู่น่อนน่อนจิตใจอ่อนยวบ อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปลูบศีรษะเธอเบาๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...