ห้องวีไอพีส่วนตัวใหญ่มาก ดูเหมือนว่าสามารถรองรับได้ยี่สิบถึงสามสิบคน
ผู้ชายพวกนั้นด้านใน มีบางส่วนที่ดูคุ้น และมีผู้หญิงหลายคนที่คุ้นหน้า
เพราะในห้องคนเยอะเกินไป บางครั้งเข้าๆ ออกๆ เปิดปิดประตูห้อง โดยพื้นฐานแล้วจึงไม่มีใครสนใจใครเป็นพิเศษ
ดังนั้น เมื่อมู่น่อนน่อนยืนอยู่หน้าประตูห้อง คนในห้องจึงไม่มีใครสังเกตเธอ
หรืออาจเป็นเพราะแสงที่ประตูค่อนข้างมืด ทำให้เธอไม่เด่นมากนัก
มู่น่อนน่อนไม่ได้ปิดประตูห้อง เดินตรงเข้าไปข้างในตรงตำแหน่งที่เฉินถิงเซียวอยู่
คนอื่นล้วนซ้ายโอบขวากอด แต่ข้างกายเฉินถิงเซียวมีผู้หญิงแค่คนเดียว และท่าทางของทั้งสองก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันนัก
คนที่อยู่ข้างเขานั่งห่างจากเขาพอสมควร แต่โน้มตัวเล็กน้อยเวลาคุยกับเขา ท่าทางดูเอาอกเอาใจเป็นอย่างมาก
ส่วนเฉินถิงเซียวถือแก้วไวน์ในมือ ก็ไม่รู้ว่าตั้งใจฟังคนข้างๆ พูดอยู่หรือเปล่า
เมื่อมู่น่อนน่อนเดินอย่างรวดเร็วไปตรงหน้ามู่น่อนน่อน ในห้องวีไอพีส่วนตัวถึงได้มีคนสังเกตเห็นเธอ
คนหนึ่งในนั้นสวมเสื้อสีเทาพูดว่า “เฮ้ ผู้หญิงคนนั้นน่ะ คุณกำลังจะไปไหน! เข้ามาไม่รู้จักปิดประตู ปิดประตูซะ”
มู่น่อนน่อนเหลือบมองเขา แต่ไม่สนใจ
ตอนนั้นคนคนนั้นจึงได้เห็นหน้ามู่น่อนน่อน และมองตาตั้งทันที
ตลอดชีวิตเซียวชู่เหออยู่โดยอาศัยใบหน้า เหมือนพวงดอกไม้เคียงข้างมู่ลี่เหยียน
มู่น่อนน่อนสืบทอดความงามมาจากเซียวชู่เหอ ต่อให้อยู่ในหมู่มวลดารานางแบบ ก็ยังโดดเด่นที่สุด
อายุยี่สิบหกยี่สิบเจ็ด แม้ผ่านการมีลูกมาหนึ่งคน รูปร่างหน้าตาก็ยังยอดเยี่ยม บวกกับการใช้ชีวิตอยู่กับเฉินถิงเซียวมานาน จึงติดเชื้อพวกความสง่าบุคลิกท่าทางอันสูงส่งเฉพาะตัวของเฉินถิงเซียวมาโดยปริยาย จึงยิ่งโดดเด่นมากขึ้นไปอีก
ผู้ชายที่สวมเสื้อสีเทาแม้มองแค่แวบเดียว ดวงตาก็เปล่งประกายแล้ว
ดวงตาของเขาจ้องมู่น่อนน่อนโดยไม่กะพริบ สายตาเกิดประกายรอยยิ้มที่ปรารถนาอยากได้ขึ้นมาทันที
เขาจัดเสื้อผ้าแล้วลุกขึ้น
นางแบบสาวข้างๆ เอื้อมมือมาดึงเขา น้ำเสียงทรงสเน่ห์เย้ายวน “ประธานเจียง?”
ชายเสื้อเทาสะบัดเธอออก แล้วส่งสายตาเตือนเธอ นางแบบสาวจึงไม่กล้าส่งเสียงอีก
เขาก้าวสองสามก้าวไปถึงตรงหน้ามู่น่อนน่อน ขวางทางของเธอ “โย่ว คุณผู้หญิงท่านนี้ดูไม่คุ้นหน้าหรือเปล่า มาหาใครครับ ผมชื่อเจียงซ่ง คุณชื่ออะไร”
ที่นี่มีแต่ควันบุหรี่ เดิมทีมันทำให้มู่น่อนน่อนอารมณ์ไม่ค่อยดีอยู่แล้ว ชายที่ชื่อเจียงซ่งคนนี้ยังวิ่งมาขวางทางเธออีก สีหน้าของเธอจึงยิ่งแย่ลง
มู่น่อนน่อนยังคงไม่พูด เลื่อนสายตาขึ้นมองผ่านเจียงซ่ง ไปยังโซฟาที่อยู่ข้างหลังเขา
เพราะเสียงของเจียงซ่ง จึงมีคนมากมายในห้องวีไอพีส่วนตัวหันมองมาที่เธอกันแล้ว แต่เฉินถิงเซียวก้มหน้ามองโทรศัพท์มือถือ ไม่รู้ทำอะไรบนโทรศัพท์มือถือ
มู่น่อนน่อนไม่เชื่อว่าเฉินถิงเซียวไม่รู้ว่าเธอเข้ามา
ความโกรธที่อธิบายไม่ได้ตีรวนขึ้นอก พุ่งขึ้นหัว มู่น่อนน่อนเรียกด้วยสีหน้าที่ไม่หม่นหมอง “เฉินถิงเซียว”
น้ำเสียงเธอที่เรียกเฉินถิงเซียวนั้นดังพอสมควร แทบจะทันทีที่ทั้งห้องเงียบลง ทุกคนต่างหันหน้ามามองเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...