ตอน บทที่ 654 ไม่ว่าเป็นหรือตาย จาก ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 654 ไม่ว่าเป็นหรือตาย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายโรแมนซ์ ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม ที่เขียนโดย Meow(○` 3′○) เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ความดูถูกที่แฝงอยู่ในน้ำเสียงของมู่น่อนน่อน ถึงคนโง่ก็ยังฟังออก
ผู้หญิงแบบไหนบ้างที่เจียงซ่งไม่เคยเจอ เคยเจอผู้หญิงหน้าตาสวย และเคยเจอผู้หญิงที่มองข้ามความหวังดีของคนอื่น
แต่ไม่เคยเห็นผู้หญิงที่สวยอย่างมู่น่อนน่อนมาก่อน จะตายอยู่แล้วยังปากดี
ความสนใจที่เขามีต่อมู่น่อนน่อนได้เพิ่มมากขึ้นอีกในชั่วขณะ
เจียงซ่งโบกมือ ส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดถอยหลังไปหน่อย
บอดี้การ์ดถอยไปด้านหลัง เจียงซ่งเดินมาที่ตรงหน้าของมู่น่อนน่อน ส่ายหัวทีนึง แล้วพูดอย่างนักเลง:“ทำไม?สี่คนหาว่าเยอะเหรอ?งั้นเธอก็เชื่อฟังซะดีๆ ล้างเนื้อล้างตัวให้สะอาดแล้วคุกเข่าสำนึกผิดกับฉันดีๆ ก็เป็นสิริมงคลทุกอย่างแล้ว ไม่ใช่เหรอ?”
มู่น่อนน่อนจะฟังความหมายชั้นต่ำในคำพูดของเจียงซ่งไม่ออกได้อย่างไร
ตอนนี้เธอแทบอยากจะเหยียบเจียงซ่งให้ตายคาตีนไปเลย
แต่ตรงหน้าคนเยอะเกินไป เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเขา ถ้ามีแค่เจียงซ่งคนเดียว เธอไม่กลัวหรอก
เธอสูดหายใจลึกๆ เม้มริมฝีปากด้วยความอดทน แล้วพูดอย่างสงบเยือกเย็น:“เหรอคะ?ง่ายขนาดนี้เลย?”
“ฉันเคยบอกเธอแล้วว่าฉันเป็นคนที่ทะนุถนอมอ่อนโยนต่อผู้หญิง โดยเฉพาะกับเธอที่หน้าตาสวยอย่างนี้ ก็ยิ่งใจกว้างอยู่แล้ว ชี้ทางให้เธอแล้ว เธอเลือกเองเลย”
ต่างก็บอกว่ามองสาวสวยใต้แสงไฟ มู่น่อนน่อนในนาทีนี้ยืนอยู่ใต้แสงไฟ แถมเจียงซ่งยืนอยู่ใกล้ขนาดนั้น มองใบหน้าสวยสะพรั่งของมู่น่อนน่อนแล้ว เขาแทบอยากจะกระโจนไปทันที
แต่ผู้หญิงชั้นเยี่ยมอย่างมู่น่อนน่อนแบบนี้ อย่ารีบร้อนเกินไปดีกว่า
ถึงเวลาพอได้มาแล้ว มีเวลาค่อยๆเล่นอยู่ถมเถไป
เจียงซ่งเลียริมฝีปากตัวเอง สายตาลามกจ้องอยู่ที่มู่น่อนน่อน ไม่ปกปิดแผนการของเขาเลย
เวลานี้ คนที่เข้าออกชุมชน ไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่
ไม่ก็พนักงานออฟฟิศที่กลับมาดึก ไม่ก็คนแก่ที่กลับมาจากข้างนอก คนพวกนั้นเห็นมู่น่อนน่อนถูกคนกลุ่มนึงห้อมล้อมไว้ ต่างก็มองมาทางนี้ด้วยความแปลกใจ แต่กลับไม่มีใครเดินมาถามเธอเลยว่าต้องการความช่วยเหลือเปล่า
ดูท่า คาดหวังให้คนอื่นมาช่วยเธอนี่คงเป็นไปไม่ได้แล้ว
ส่วนเจียงซ่งที่อยู่ตรงหน้าก็ความมั่นใจเต็มเปี่ยม หน้าตาอย่างกับทุกอย่างล้วนอยู่ในกำมือตัวเองหมด
ความจริงก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน
มู่น่อนน่อนแค่ไม่ระวังนิดหน่อย ก็อาจจะถูกเจียงซ่งจับตัวไปจริงๆ
นาทีนี้เธออดนึกุึงคำพูดที่ซูเหมียนพูดในก่อนหน้านี้ไม่ได้
ใช่สิ ตอนนี้เฉินถิงเซียวไม่ใช่เกราะป้องกันของเธอแล้ว
ไม่มีคนมีประสิทธิภาพสูงเหมือนอย่างเฉินถิงเซียวอีกแล้ว ที่สามารถหาเธอเจอภายในระยะเวลาอันรวดเร็วที่สุด หลังจากที่เธอเกิดเรื่อง
เป็นไปไม่ได้แล้ว
แต่เธอก็ทำยังไงได้ล่ะ?
ได้แต่ต่อสู้ให้ถึงที่สุด
มู่น่อนน่อนเดินมาข้างหน้าก้าวนึง ยกมุมปากขึ้นยิ้มให้กับเจียงซ่ง:“ประธานเจียงเป็นคนฉลาด ฉันเองก็ไม่ได้โง่ ก็รู้ว่าผู้เข้าใจสถานการณ์คือผู้ฉลาด ประธานเจียงคิดว่าฉันจะเลือกยังไงคะ?”
เจียงซ่งหัวเราะอย่างได้ใจ:“ฮื้อ พวกผู้หญิงก็ชั้นต่ำแบบนี้แหละทำไมต้องโวยวายที่จีนติ่งด้วย!เพราะไหนๆผลสุดท้ายมันก็เหมือนกันหมด”
“ใช่ค่ะ”มู่น่อนน่อนหัวเราะต่อ
เจียงซ่งปล่อยวางความระแวง แล้วจะยื่นมือไปจับหน้าของมู่น่อนน่อน
แต่ว่า ในขณะที่มือของเขาจะแตะมาที่ตรงหน้าของมู่น่อนน่อน ทันใดนั้นมู่น่อนน่อนได้ยกเท้าขึ้นมาเตะช่วงล่างของเจียงซ่งทีนึง
“ซี๊ด……โอ๊ย……”เจียงซ่งเบิกตากว้างและเจ็บจนก้มลงไปทันที หมุนอยู่กับที่อย่างไม่หยุด เจ็บจนพูดไม่ออก
บอดี้การ์ดของเจียงซ่งคือคนที่เขาจ้างมาส่วนตัว หลักๆคือคอยคุ้มกันความปลอดภัยของเขา
บอดี้การ์ดเป็นผู้ชายหมด เห็นเจียงซ่งเป็นแบบนี้ ได้ห้อมล้อมไปถามว่า:“ประธานเจียง!ประธานเจียงเป็นยังไงบ้างครับ?”
“กู……แม่ง……จะตายอยู่แล้ว……”เจียงซ่งไม่พอใจ คำนี้แทบจะเบียดออกมาจากซอกฟัน
เธอคิดๆแล้ว ได้ตัดสินใจหยุดลงมาช่วยผู้ชายคนนนั้นแจ้งความก่อนแล้วค่อยเผ่น
พูดจากอีกแง่หนึ่ง ผู้ชายคนนั้นก็ถือว่าได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้
แต่ว่า ตอนที่มู่น่อนน่อนหยิบมือถือออกมาเตรียมโทรศัพท์ ก็พบว่าบอดี้การ์ดพวกนั้นของเจียงซ่งได้ทยอยกันล้มลงไปที่พื้นแล้ว
เก่ง……เก่งขนาดนี้เลยเหรอ?
เทคนิคที่ผู้ชายคนนั้นต่อสู้โหดมากเป็นพิเศษ ลงมือล้วนไว โหดและแม่นยำมาก ไม่ให้โอกาสบอดี้การ์ดพวกนั้นได้ไหวตัวเลย
มู่น่อนน่อนค่อนข้างทึ่ง นอกจากเฉินถิงเซียวแล้ว เธอยังไม่เคยเห็นใครที่ชกต่อยโหดขนาดนี้มาก่อนเลย
เธอเก็บมือถือ คงไม่ต้องแจ้งความแล้ว
เธอวิ่งไปอย่างไว:“คุณ คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”
เมื่อครู่ผู้ชายหันหลังให้กับเธอ บนหัวสวมหมวกของเสื้อโค้ตไว้ แถมยังใส่แมสปิดปากไว้ด้วย มู่น่อนน่อนเห็นหน้าของเขาไม่ชัดเจน
พอเดินเข้ามาใกล้แล้ว เธอมองดวงตาที่เผยอยู่ด้านนอกของผู้ชาย แล้วเรียกอย่างค่อนข้างไม่แน่ใจ:“ฉีเฉิง?”
ฉีเฉิงไม่ได้ถอดแมสออก แววตาก็ไม่มีคลื่นที่เห็นได้ชัดอะไร:“คุณมู่ เจอกันอีกแล้วนะครับ”
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”มู่น่อนน่อนมองสำรวจฉีเฉิงอยู่ครู่นึง พบว่าเขาดูแล้วไม่เหมือนได้รับบาดเจ็บเลย
คนที่ได้รับบาดเจ็บคือบอดี้การ์ดของเจียงซ่ง
พวกเขาต่างก็ล้มไปที่พื้นพร้อมหดตัวเป็นก้อน เจ็บจนร้องโอดโอย
ฉีเฉิงส่ายหัวทีนึงแล้วจะหันหลังไปเลย
ในใจมู่น่อนน่อนเกิดความสงสัย ฉีเฉิงควรอยู่ในวิลล่าของเฉินถิงเซียว คอยเฝ้าอยู่ที่ข้างกายเฉินจิ่งหยุ้นไม่ใช่เหรอ?
มาโผล่อยู่ที่นี่ได้ยังไง?
วันนี้เธอไปหากู้จือหยั่นถามเรื่ององค์กรXพอดี ก็ถามไม่ได้ใจความอะไรเลย ตอนนี้เจอฉีเฉิงพอดี สู้หลอกถามเขาดูดีกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฉัน....เป็นเจ้าสาวจอมปลอม
พระเอกชอบใช้อำนาจบังคับ ไม่ฟังความคิดเห็นนางเอก พอมีปัญหา แทนที่จะอธิบายว่าจะทำอะไร กลับเลือกที่จะปิดปังและทำร้ายจิตใจ ไม่น่าให้อภัยอ่ะ น่าจะต่างคนต่างอยู่ ขัดใจว่าทำไมปล่อยให้ลูกทารกโดนลักพาตัวไปได้ โคตรไม่รอบคอบอ่ะ เรื่องไอ้ลู่ก็เหมือนกัน นาวเอกโง่จนไม่เห็นความไม่สมเหตุสมผลใดๆ จนความจำกลับมา มันก็ต้องสงสัยแล้วป่ะว่าตอนก่อนจะเสียความทรงจำ ไอ้ลู่แอบเข้าไปในห้องตัวเองทำไม และต้องเอะใจและตัดความสัมพันธ์สิเพราะถามอะไรก็ไม่เคยตอบ พระเอกก็เหมือนกัน รู้สึกว่าไอ้ลู่มีจุดประสงค์ไม่ดี แต่ก็ไม่ทำอะไร ให้โอกาสมันก่อเรื่อง 3-4 บทสุดท้ายรวบรัดตัดจบมาก ปมต่างๆก็ไม่เคลียร์ ไม่รู้แม่พระเอกยังอยู่หรือตาย ทำไมไอ้ลู่ถึงเลี้ยงนางเอกมาตั้งสามปีแทนที่จะรีบเอาไปผ่าตัดให้น้องสาว ทำไมถึงพยายามจะให้พระเอกลืมนางเอกและทำร้ายนางเอก อ่านจนจบก็ไม่เห็นบอกว่ามีความแค้นอะไรกับพระเอก และทำไมมุ่งเป้ามาที่นางเอก และไอ้ปากกาหมึกซึมที่พระเอกเก็บไว้น่ะ ก็ไม่มีอธิบายเพิ่ม แค่เปรยว่านางเอกเคยเอาปากกาให้เด็กขอทาน ต่ไม่บอกว่ามันมีความสำคัญยังไง สรุปอ่านแล้วขัดใจหลายอย่างมากค่ะ...
ขอบคุณนะคะที่อัพจนจบ❤️❤️❤️...
แรกๆฉันเชียร์เธอหมดใจแต่มู่น่อนน่อนนี่เธอก็ดื้อเกินไปนะ รู้ทั้งรู้ยังจะชอบสร้างปัญหาซ้ำแล้วซ้ำอีก มั่นใจตัวเองอะไรผิดๆเกิ๊นนน ฉันเริ่มจะเบื่อเธอแล้วนะ เจอก็เจอแล้วแค่กลับไป แล้วยังจะคิดกลับไปให้เขาเฉือนอวัยวะไง!!!! ตัวเองจะไปสืบอะไรจากไหน?!!!...